::):g มาฆ่าความโกธรกันเถิด
ดูข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์แต่ละวันแล้ว ข่าวฆ่ากันตายมีอยู่ไม่เว้นแต่ละวัน การฆ่ากันเนื่องมาจากความโกธร หรือความอาฆาตแค้นที่เกิดขึ้นในใจทั้งสิ้น ถ้าสามารถควบคุมความโกธรไว้ได้ โดยไม่แสดงออกมา คงไม่มีการฆ่ากันทำร้ายกัน แต่การควบคุมความโกธรที่ว่านี่ซิ เป็นเรื่องยากจำต้องนำหลักธรรมในพระพุทธศาสนา มาใช้ มีพระพุทธพจน์บทหนึ่งกล่าวไว้ว่า โกธํ ฆตฺวา สุขํ เสติ = ฆ่าความโกธรเสียได้อยู่เป็นสุข สำหรับในชีวิตจริงแล้ว การจะไปฆ่าความโกธรนั้นต้องฝึกสติให้ดี คนโบราณจึงสอนให้ลูกหลานนับ ๑ ถึง ๑๐ เมื่อเกิดความโกธรขึ้นมา แต่ไม่ใช่ว่าพอนับครบ ๑๐ แล้วกระโดดเข้ามาไปต่อยกับเขา ถ้านับถึง ๑๐ แล้วยังไม่หายโกธรนับไปเรื่อยๆถึงร้อยถึงพัน นับไปเรื่อยๆ จนเหนื่อยประเดี๋ยวก็หายโกธรไปเอง หรือถ้ายังไม่โกธรอยู่ก็บอกตัวเองว่า โกธรคือโง่ โมโหคือบ้า ไม่โกธรดีกว่าไม่บ้า ไม่โง่ โกธรเขาโมโหเขาก็เหมือนจุดไฟเผาตัวเอง มาชนะกิเลสกันดีกว่าดังคำกลอนที่ว่า
ชนะคู่ต่อสู้บ่อยแม้ร้อยครั้ง
แต่ถ้ายังแพ้กิเลสและเหตุผล
ไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าปัญญาชน
ผู้ข่มจิตพิชิตตนเพียงหนเดียว
ผู้เขียนเคยนั่งรถแท็กซี่ ที่คนขับอารมณ์ร้อนเมื่อรถคันหนึ่งอื่นแซงนิดปาดหน่อยก็โมโหด่าเสียงดังลั่นรถ ไอ้... นั่น ไอ้...นี่ แต่ว่าเวลาด่าไม่ได้ไขกระจกรถออกเลย เสียงด่าจึงได้ยินกันอยู่แค่เพียงสองคน โดยเฉพาะผู้เขียนรับเต็มๆ (ถ้าตั้งสติไม่ทัน)
เมื่อพูดถึงคำด่านั้นผู้ถูกด่าควรใช้สติปัญญาคิดให้ดีๆว่าเป็นจริงตามที่เขาว่าหรือเปล่า เช่น เขาด่าว่าเราเป็นสนุข เราควนสำรวจตัวเองว่าเป็นสุนัขจริงหรือเปล่า ถ้าไม่จริงเหมือนคำที่เขาว่าก็อย่าไปโกธรเขาเลย เขาไม่ปกติแล้วละ มองคนอื่นเป็นสุนัข ยิ้มให้เขาดีกว่า
เขาด่าเป็นเรื่องของเขา
สำหรับตัวเรามีสิทธิ์จะยิ้ม
สุขอุราหน้าตาเอิบอิ่ม
เพราะคนชอบยิ้มเป็นคนสุขใจ
ด่าได้ก็เชิญด่าเถิด
ความชั่วย่อมเกิดเป็นไฟเผาไหม้
ด่าได้ก็เชิญด่าไป
ตัวฉันนี้ไซร้ใช้ธรรมะข่มตน
คนด่าไม่เคยให้เงิน
ตัวฉันขอทนด่าเถิดไม่สน
ฉันนี้มีงานเหลือล้น
เรื่องอะไรจะสนกับคน ป. ม .
รอยิ้มฆ่าความชั่วได้
เป็นสุขกายใจสบายจริงหนอ
ยิ้มแย้มเอิบอิ่มเพียงพอ
สบายจริงหนอขอยิ้มให้เธอ
แต่อย่ายิ้มตลอดทั้งวันแล้วกัน ประเดี๋ยวเขาจะด่าให้ไปโรงพยาบาลศรีธัญญา แล้วถึง ตอนนี้แหละจะโกธรเขาก็ได้ ::)
อ้างข้อความนี้
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ นัยกระจอก
Bookmarks