ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก

นานมาแล้ว มีพระราชาองค์หนึ่ง พระราชาองค์นี้มีคนสนิทคนหนึ่งที่พระองค์สนิทมาก และมักจะพาไปไหนมาไหนด้วยเสมอในทุกๆ ที่


แล้ววันหนึ่ง พระราชาก็ถูกหมาตัวหนึ่งกัดนิ้วแผลฉกรรจ์มาก พระราชาจึงถามคนสนิทว่านี่เป็นลางไม่ดีของพระองค์หรือเปล่า คนสนิทกลับตอบว่า " ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก " และในที่สุด พระราชาก็ถูกตัดนิ้วและพระราชาก็ถามคนสนิทอีกว่านี่เป็นรางไม่ดีของพระองค์หรือเปล่า คนสนิทกลับตอบว่า "ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก" พระราชาโกรธมาก เลยจับคนสนิทขังไว้ในคุก

วันหนึ่ง พระราชาก็ได้เสด็จออกป่าล่าสัตว์ พระองค์ทรงตื่นเต้นมาก ในขณะที่พระองค์ไล่ล่ากวางตัวหนึ่งอยู่แล้วก็มุ่งเข้าไปในป่า ลึกเข้าไปเรื่อยๆ เมื่อมารู้ตัวอีกทีก็พบว่า พระองค์ได้หลงทางเสียแล้ว แต่ก่อนที่อะไรจะเลวร้ายไปกว่านั้น พระองค์ก็ได้พบกับชนเผ่าพื้นเมืองในป่าแห่งนั้น คนป่าพวกนั้น ต้องการจับพระราชาไปบูชายัญ แต่พวกเขาก็พบว่าพระราชานิ้วขาด จึงรีบปลดปล่อยพระราชา เพราะเชื่อว่าพระราชาไม่ใช่มนุษย์ที่สมบูรณ์เลยและไม่เหมาะที่จะนำไปบูชายัญ พระราชาจึงตัดสินใจกลับพระราชวังในที่สุด

และสุดท้าย พระองค์ก็เข้าใจคำพูดของคนสนิทที่บอกว่า "ดีหรือไม่ดี ยากที่จะบอก" เพราะถ้าพระองค์มีนิ้วครบสมบูรณ์ พระองค์ต้องถูกสังหารโดยคนป่าพวกนั้นอย่างแน่นอน พระราชาจึงสั่งปล่อยตัวคนสนิท และขอโทษเขา

แต่พระราชากลับประหลาดใจ เมื่อคนสนิทกลับไม่โกรธพระองค์เลย ในทางตรงข้ามเขากลับบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลยที่ท่านขังข้าไว้ ทำไมงั้นหรือ เพราะว่าถ้าพระองค์ไม่ขังข้าไว้ ข้าก็จะต้องตามท่านไปในป่าและในเมื่อท่านไม่เหมาะจะถูกบูชายัญ ข้าคงจะถูกนำไปบูชายัญแทนเป็นแน่ อีกครั้งกับคำที่ว่า ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก
เรื่องนี้อาจกล่าวได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกนี้ไม่มีการสรุปได้อย่างแน่นอนว่าดีหรือไม่ดี บางครั้งสิ่งที่ดี อาจจะกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายในขณะที่สิ่งที่เลวร้ายอาจกลายเป็นดีได้ สิ่งดีๆ อะไรก็ตาม ที่เกิดขึ้นกับเรา

จงสนุกสนานกับมัน แต่อย่าไปยึดติดกับมันจงคิดเสียว่ามันเป็นสิ่งที่มาสร้างความประหลาดใจให้กับชีวิตของคุณ

อะไรต่างๆ ที่มันเลวร้าย ซึ่งเกิดขึ้นกับคุณ ไม่จำเป็นต้องไปเศร้าเสียใจ ในตอนท้าย มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย ถ้าพวกเราเข้าใจได้อย่างนี้ พวกเราจะพบว่า การใช้ชีวิตนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย