โดยทั่วไป เมื่อพูดคำว่า “กิน” จะหมายถึงกริยา เคี้ยว หรือเคี้ยวกลืน มักใช้กับอาหาร เช่น กินข้าว กินก๋วยเตี๋ยว หรืออาจจะหมายถึงการดื่ม เช่น ถ้าพูดว่ากินน้ำ หมายถึง ดื่มน้ำ ก็ได้


เฉลยเกร็ดเล็กๆ ที่กระตุกความคิดลึกๆ กับคำสั้นๆ ว่า กิน


ตามปกติ เรามักใช้คำนี้ในการพูดทั่วๆ ไป ถ้าพูดอย่างสุภาพก็มักจะใช้คำว่า “รับประทาน” แทน หากเป็นราชาศัพท์ก็จะใช้คำว่า “เสวย”

อย่างไรก็ดี คำว่า “กิน” ที่ฟังดูง่ายๆ นี้ หากรวมกับคำอื่นๆ กลับมีความหมาย และความนัยที่น่าสนใจไม่น้อย ดังนั้น กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จึงขอประมวลคำที่เกี่ยวกับ “กิน” มานำเสนอให้อ่านเล่นๆ เป็นความรู้ ดังต่อไปนี้

กิน นอกจากจะหมายถึง การเคี้ยว หรือดื่ม เพื่อทำให้ล่วงจากลำคอลงไปสู่กระเพาะแล้ว ยังมีความหมายว่า เปลือง เช่น กินเวลา กินเงิน หรืออาจจะแปลว่า ทำให้หมดเปลือง ก็ได้ เช่น รถคันนี้กินน้ำมัน แอร์เครื่องนี้กินไฟ เป็นต้น

“กิน” ในความหมายที่ดี ได้แก่ กินแขก เป็นภาษาถิ่นพายัพ หมายถึง กินเลี้ยงในงานแต่งงาน เช่นเดียวกับคำว่า กินดอง ทางภาคอีสาน และ กินเหนียว ทางใต้, ส่วน กินสี่ถ้วย หมายถึง กินเลี้ยงในงานมงคล สี่ถ้วย คือ ขนมสี่อย่างได้แก่ ไข่กบ (สาคูหรือแมงลัก) นกปล่อย (ลอดช่อง) มะลิลอย(ข้าวตอก) และอ้ายตื้อ (ข้าวเหนียว) โดยจะมีน้ำกะทิใส่ชามอยู่ตรงกลาง, ส่วน กินตำแหน่ง หมายถึง ได้ครองตำแหน่ง, กินบ้านผ่านเมือง หรือ กินเมือง เป็นคำโบราณ หมายถึง ได้ครองเมือง หรือครอบครองเมือง, กินเลี้ยง หมายถึง กินอาหารร่วมกันหลายคนเพื่อสังสรรค์กัน

กินขาด เป็นภาษาพูด หมายถึง ดีกว่ามาก เหนือกว่ามาก หรือชนะเด็ดขาด, กินเจ หมายถึง ถือศีลอย่างจีนหรือญวน โดยกินอาหารผักล้วน ไม่มีเนื้อสัตว์ กินบุญ หมายถึงกินเลี้ยงในงานบุญ, กินบวช หมายถึง กินเครื่องกระยาบวช (เครื่องกินที่ไม่มีของสดคาว) ในลัทธิพิธี เช่น พิธีตรุษ มักใช้คู่กับคำว่าถือศีล เป็น ถือศีลกินบวช, กินสำรับ หมายถึง กินอาหารที่เขาจัดมาให้เป็นสำรับ กินดอกเบี้ย หรือ กินดอก หมายถึง ได้รับผลประโยชน์ ที่เกิดจากทุนหรือเงินให้กู้, กินเส้น หมายถึง ชอบพอกัน ถูกคอกัน แต่มักใช้ในทางปฏิเสธว่า ไม่กินเส้นกัน คือ เขม่นกัน มากกว่า

ส่วน “กิน” ที่คนไม่ค่อยชอบ และพบเห็นกันบ่อยๆ ได้แก่ กินสินบน หมายถึง การหารายได้โดยไม่สุจริต, กินกริบ หมายถึง การหาประโยชน์ใส่ตัวได้อย่างแนบเนียน กินเศษกินเลย หรือ กินเล็กกินน้อย คือ ยักยอกเอาบางส่วน ที่มีจำนวนเล็กน้อยเป็นของตน เช่น แม่บ้านแอบกินเศษกินเลย ค่ากับข้าวประจำวั,น กินนอกกินใน หมายถึง เอากำไรในการซื้อขาย ทั้งในราคา และนอกราคาที่กำหนด, กินตามน้ำ หมายถึง รับของสมนาคุณ ที่เขาเอามาให้โดยไม่ได้เรียกร้อง, กินแรง หมายถึง เอาเปรียบผู้อื่นในการทำงานหรือเลี้ยงชีพ หรือจะหมายถึงต้องใช้แรงมากก็ได้

กินลึก หมายถึง มีเล่ห์ลึกซึ้ง, กินหมาก โดยทั่วไปก็หมายถึง กินพลูป้ายปูนกับหมาก แต่ถ้าเป็นสแลง จะหมายถึง ถูกชกปากแตก (เลือดออกปากสีแดงเหมือนกินหมาก), กินเปล่า หมายถึง ได้ประโยชน์มาโดยไม่ต้องตอบแทน หรือเป็นการเรียกทรัพย์สิน หรือสิ่งอื่นๆ ที่เสียไปเพื่อแลกกับสิทธิที่ตกลงกันว่า เงินกินเปล่า หรือจะหมายถึง ได้ผลประโยชน์ฝ่ายเดียวก็ได้ เช่น เตะกินเปล่า กินผัว หมายถึง มีผัวกี่คนๆ ก็ตายหมด เช่นเดียวกับ กินเมีย คือ มีเมียกี่คนๆ ก็ตายหมด

กินผี หมายถึงหาประโยชน์จากคนตาย กินฟรี คือ กินโดยไม่เสียเงิน กินล้างกินผลาญ หมายถึง กินครึ่งทิ้งครึ่ง, กินสั่ง หมายถึง กินมากผิดปกติ เมื่อถึงคราวจะตาย แต่โดยปริยายหมายถึงกินจุเกินควร, กินแหนง หมายถึงสงสัย ระแวง ไม่แน่ใจ มักใช้คู่กับแคลงใจ เป็นกินแหนงแคลงใจ กินรวบ เป็นชื่อเรียกหวยใต้ดิน ซึ่งอาศัยเลขท้าย ของสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ออกรางวัล กินลูกตะกั่วหรือกินลูกปืน แปลว่าถูกยิง กินรังแตน หมายถึงอารมณ์เสีย หงุดหงิดบ่นว่าเกินกว่าเหตุ

ส่วน “ กิน ” ที่เป็นคำกลางๆ ทั่วๆ ไป เช่น กินขวา กินซ้าย หมายถึง อาการที่รถ เรือ ว่าว เป็นต้น เคลื่อนล้ำไปทางขวา หรือซ้ายมากเกินควร, กินทาง หมายถึง ล้ำทาง ใช้กับยวดยานพาหนะ, กินช้อน กินตะเกียบ หมายถึง กินอาหารด้วยช้อนหรือตะเกียบ, กินตัว หมายถึง ผุหรือขาดกร่อนไปเอง อย่างผ้าขนสัตว์ หรือผ้าไหม, กินนอน หมายถึง โรงเรียนที่จัดให้นักเรียนกินอยู่หลับนอนในโรงเรียน, กินเพล กินอาหารตอนเพล หรือบางทีก็ว่า ถือศีลกินเพล, กินเพรา (อ่านว่ากิน-เพรา) หมายถึง กินอาหารมื้อเย็น, กินมือ หมายถึง กินอาหารด้วยมือ กินไม่ลง หมายถึง เอาชนะไม่ได้ หรือรับไม่ไหว, กินหู้ หมายถึง ผิดคาด (มาจากการแทงหวยสมัยก่อน), กินลม หมายถึง ต้านลม เช่น ว่าวกินลม หรือจะหมายถึง เดินหรือนั่งรับลมก็ได้ กินดิบ หมายถึง ชนะโดยง่าย

นอกจากนี้ “กิน” ที่เป็นสำนวน เช่น กินลมกินแล้ง หมายถึง ไม่ได้ประโยชน์ หรือทำเหนื่อยเปล่า กินบุญเก่า หมายถึง นั่งกินนอนกินสมบัติเก่า หรือได้รับผลจากความดี ที่เคยกระทำไว้แต่ปางก่อน, กินเหมือนหมู อยู่เหมือนหมา หรือ กินอย่างหมู อยู่อย่างหมา หมายถึงเละเทะไม่มีระเบียบ, กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง หมายถึง รู้ดีอยู่แล้ว แสร้งทำเป็นไม่รู้, กินปูนร้อนท้อง หมายถึง ทำอาการพิรุธขึ้นเอง แสดงอาการเดือดร้อนขึ้นเอง, กินที่ลับไขที่แจ้ง หมายถึงเปิดเผยเรื่องที่ทำกันในที่ลับ, กินน้ำตาต่างข้าว หมายถึง ร้องไห้เศร้าโศกจนไม่เป็นอันกินอันนอน, กินน้ำใต้ศอก หมายถึงจำยอมเป็นรองเขา ไม่เทียมหน้าเทียมตา มักหมายถึงเมียน้อย ที่ต้องยอมลงให้เมียหลวง, กินน้ำพริกถ้วยเก่า หรือ กินน้ำพริกถ้วยเดียว หมายถึง อยู่กับเมียคนเดิม หรือเมียคนเดียว

กินน้ำไม่เผื่อแล้ง หมายถึง มีอะไรใช้หมดทันที ไม่คิดถึงวันข้างหน้า, กินน้ำเห็นปลิง หมายถึง รู้สึกตะขิดตะขวงใจ เหมือนจะกินน้ำเห็นปลิงอยู่ในน้ำก็กินไม่ลง กินบ้านกินเมือง หมายถึง นอนตื่นสายมาก หรืออาจจะหมายถึง ฉ้อราษฎร์บังหลวงก็ได้, กินแกลบกินรำ เป็นสำนวนว่า โง่ เช่น ฉันไม่ได้กินแกลบกินรำนี่ จะได้ไม่รู้ทันคุณ เป็นต้น, กินเกลือกินกะปิ หมายถึง อดทนต่อความลำบากยากแค้น เช่น เขาเคยกินเกลือกินกะปิมาด้วยกัน, กินเหล็กกินไหล หมายถึง ทนต่อความเหน็ดเหนื่อย หรือความเจ็บปวดได้อย่างผิดปรกติ กินข้าวต้มกระโจมกลาง หมายถึง ทำอะไรด้วยความใจร้อน ไม่พิจารณาให้รอบคอบ มักเป็นผลเสียแก่ตน, กินบนเรือนขี้บนหลังคา หมายถึง คนเนรคุณ, กินเผื่อหมา หมายถึง กินมากจนอ้วก

ทั้งหมดข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่างของคำว่า “กิน” ที่มิใช่มีความหมาย เพียงเอาอาหารเข้าปากเข้าท้องเท่านั้น แต่เมื่อผสมกับคำอื่นๆ แล้ว ยังเกิดความหมายใหม่อีกมากมาย ทั้งในแง่บวกและลบ โดยเฉพาะคำว่า “กิน” ที่มีความหมายถึงการคอรัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง หรือการโกงเข้ากระเป๋าตัวเอง เช่น กินหิน กินเหล็ก กินปูน เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่รังเกียจกันมาก แต่ก็ยังเป็นพฤติกรรมที่พบเห็นโดยทั่วไป และนับวันก็จะเพิ่มมากขึ้นในทุกวงการ ทางเดียวที่จะแก้ได้คือ ความซื่อสัตย์ และ สัจจะ ที่จะต้องปลูกฝัง ให้มีเพิ่มขึ้นในเด็ก และเยาวชนของเราต่อไปในภายหน้า ส่วนผู้ใหญ่ที่สายเกินแก้ คงต้องใช้มาตรการลงโทษทางสังคม และกฎหมายอย่างจริงจัง หรือไม่ก็ต้องให้กรรมตามทัน หรืออาจจะปล่อยให้ท้องแตกตายแบบชูชก

ขอขอบคุณข้อมูลข่าว : อมรรัตน์ เทพกำปนาท สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธร