สารปลุกเซ็กซ์ กาแฟโด๊ป
หลังจากที่ “ไทยรัฐ” เปิดประเด็นเตือนภัยให้ ผู้บริโภคตื่นตัวกับการที่มีพ่อค้าหัวใส แอบอ้างสรรพคุณสมุนไพรในการรักษาโรค โดยเฉพาะปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน โดยหนึ่งในผลิตภัณฑ์จำพวกนี้ก็พบการอวดอ้างสรรพคุณของ “เก๋ากี้” สมุนไพรจีนโบราณที่มักพบในอาหารตุ๋นยาจีน แต่กลับมีการนำมาผสมในกาแฟยี่ห้อ “เมจิก เมน คอฟฟี่” ระบุว่ากินแล้วจะช่วยเพิ่มพลังให้แก่เพศชายอย่างรวดเร็ว ฟื้นฟูความภาคภูมิใจของชาย เพิ่มความสุขแห่งชีวิต ดื่มแล้วเห็นผล 100 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญยังระบุว่า สินค้ามี “อย.” เป็นเหมือนตรารับประกันความเชื่อมั่นให้ลูกค้า โดยสามารถหาซื้อกาแฟนี้ได้ตามแผงขายเครื่องสำอางทั่วไป ในห้างสรรพสินค้า และสั่งซื้อผ่านระบบอินเตอร์เน็ต แม้ ต่อมาผู้แทนจำหน่ายกาแฟยี่ห้อดังกล่าวจะออกมายืนยันว่า กาแฟที่นำเข้ามาจากประเทศจีนยี่ห้อนี้ไม่ใช่กาแฟปลุกเซ็กซ์ แต่ผสมสมุนไพร กินแล้วบำรุงสุขภาพ พร้อมย้ำนำเข้าถูกต้อง ผ่านการตรวจจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้วก็ตามนั้น

แต่เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย รองเลขาธิการ อย. เปิดเผยว่า จากกรณีมีข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่า กาแฟสำเร็จรูป เมจิก เมน คอฟฟี่ (Magic Men Coffee) ฉลากระบุเลขสารบบอาหารที่ 10-3-15449-1-0002 นำเข้าโดยบริษัทบี ที จำกัด เลขที่ 169/98 อาคารเสริมทรัพย์ ชั้น 5 ถนนรัชดาภิเษก แขวง/เขต ดินแดง กทม. โฆษณาอวดอ้างว่าสามารถช่วยเพิ่มพลังเพศ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้เข้าตรวจยึดกาแฟดังกล่าวจากสถานที่นำเข้า เพื่อตรวจสอบหาส่วนผสมที่อาจเป็นอันตราย

รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า จากการตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์ในเบื้องต้นพบว่า มีการขออนุญาตนำเข้ากับ อย. ในชื่อเพาเวอร์ บี ที จึงเป็นการแสดงชื่ออาหารไม่ตรงตามที่ได้แจ้งรายละเอียดกับ อย. จัดเป็นการแสดงฉลากอาหารไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท นอกจากนี้ หลังจากมีการเก็บตัวอย่างไปตรวจวิเคราะห์ ผลการตรวจวิเคราะห์กาแฟในรุ่นผลิตที่ 08/12/2007 และควรบริโภคก่อน 08/12/2009 โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบสารซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ จัดเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ อย. ได้สั่งงดนำเข้ากาแฟยี่ห้อดังกล่าว เนื่องจากผลการตรวจพิสูจน์ได้ว่าเป็นอาหารที่ไม่ควรแก่การบริโภค หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท นอกจากนี้ อย.อาจดำเนิน การยกเลิกเลขสารบบอาหารและสั่งพักใบอนุญาตการนำเข้าอีกด้วย ทั้งนี้ อย.จะได้ดำเนินการยึด อายัด ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ณ สถานที่นำเข้าฯ และสถานที่จำหน่ายอาหาร (ตัวแทนจำหน่าย) รวมทั้งเรียกคืนผลิตภัณฑ์รุ่นที่ตรวจพบสารซิลเดนาฟิล เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ได้รับอันตรายจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัยต่อไป

นพ.นิพนธ์กล่าวว่า ขอเตือนผู้บริโภคว่าอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาบริโภค เพราะอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ เนื่องจากผลข้างเคียงของสารซิลเดนาฟิล คือ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ปวดท้อง ปวดหลัง หลอดเลือดขยายตัว ท้องเสีย คลื่นไส้ ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ นอนไม่หลับ คัดจมูก ติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ หายใจผิดปกติ เป็นต้น ทั้งนี้ ความรุนแรงขึ้นอยู่กับความแข็งแรง ของร่างกายของแต่ละบุคคล อีกทั้งหากมีสารปนเปื้อนที่ไม่บริสุทธิ์อย่างอื่น อาจมีอาการข้างเคียงที่รุนแรงจนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ รวมทั้งไม่ควรซื้อผลิตภัณฑ์กาแฟผงสำเร็จรูปพร้อมบริโภคที่มีการผสมสารอื่นๆ เช่น สารสกัดคอลลาเจน แล้วนำมาอวดอ้างด้วยการโฆษณาหรือการขายตรงว่า มีสรรพคุณในเชิงป้องกันรักษาโรค เช่น ลดความอ้วน ลดน้ำหนัก เสริมสมรรถภาพทางเพศ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ซึ่งการอวดอ้าง ในลักษณะดังกล่าว อย.ไม่เคยอนุญาตให้มีการโฆษณา ผู้บริโภคที่หลงเชื่อซื้อมาบริโภคและบริโภคในปริมาณมาก อาจก่อให้เกิดอันตรายได้

รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับ อย. หากพบผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย หรือโฆษณาโอ้อวดเกินจริง สามารถโทร.แจ้งได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนั้นๆ

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สัมภาษณ์นายรุ่งเดช หลิว กรรมการผู้จัดการบริษัท บี ที จำกัด ซึ่งเป็นตัว แทนจำหน่ายกาแฟปลุกเซ็กซ์สำเร็จรูปยี่ห้อ “เมจิก เมน คอฟฟี่” ถึงผลสรุปของ อย. ที่ว่า กาแฟยี่ห้อดังกล่าว มีการแสดงชื่ออาหารไม่ตรงตามที่ได้แจ้งรายละเอียดไว้ และพบสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายปลอมปนอยู่ ซึ่งนายรุ่งเดชกล่าวว่า รู้เรื่องตั้งแต่เช้าแล้ว และได้เข้าพบกับ นพ.นิพนธ์แล้วเช่นกัน เพื่อปรึกษาปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่ง นพ.นิพนธ์บอกว่า เรื่องของฉลากต้องมีการแก้ไขให้ถูกต้อง ซึ่งตนก็ได้แก้ไขไปแล้วเมื่ออาทิตย์ก่อน

ส่วนเรื่องของการพบสารซิลเดนาฟิล เป็นสารที่อันตรายต่อร่างกายของผู้บริโภค นายรุ่งเดชยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ผลิต จึงไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในกาแฟบ้าง แต่ที่ผ่านมามีการตรวจสอบจาก อย.แล้ว แต่ไม่เห็นมีอะไร อย่างไรก็ตาม ทางด้านรองเลขาธิการ อย. บอกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมีสองกรณี คือ โรงงานอาจจะมีสินค้าสองมาตรฐาน คือ มีทั้งดีและไม่ดี อีกกรณีอาจถูกกลั่นแกล้งจากคู่แข่ง ผู้นำเข้าควรทำบรรจุภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์เฉพาะ และปลอมแปลงได้ยาก ซึ่งตนได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก กับเรื่องที่เกิดขึ้น