Blog Comments

  1. สัญลักษณ์ของ wundee2513
    หวานหวาน ยังหวาน ที่รอคอย
    ใช่น้อยน้อย เนิ่นนาน ยิ่งหวานชื่น
    ใช่ว่าหวาน เสแสร้ง ชั่วข้ามคืน
    แต่หวานชื่น ตื่นตัน นิรันดร...
  2. สัญลักษณ์ของ ภูเบตร์
    เพลงเพราะดี ขอบคุณนะครับ

    บรรยากาศใต้แสงเทียนอีกต่างหาก
  3. สัญลักษณ์ของ ภูเบตร์
    ฟังเพลงนี้แล้วเศร้ามาก...ทำให้นึกถึง
    ตอนที่แฟนคนแรกบอกเลิก ขอเลิกโดยที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด...

    เขามีคนใหม่...
  4. สัญลักษณ์ของ ภูเบตร์
    ทำได้ไงภาพนี้....
    งึดหลาย.......:l-
  5. สัญลักษณ์ของ ภูเบตร์
    เพลงเพราะมากๆครับ
    :*-:*-:*-
  6. สัญลักษณ์ของ khonsurin
    แสดงสดเสียงอีสานชุดที่ 20 - 8



    8



    ลิขสิทธิ์บน YouTube Credit By : https://www.youtube.com/watch?v=pAOEa4G-Olw






  7. สัญลักษณ์ของ khonsurin
    แสดงสดเสียงอีสานชุดที่ 20 - 7



    7



    ลิขสิทธิ์บน YouTube Credit By : https://www.youtube.com/watch?v=htjOQ-MP1ng




  8. สัญลักษณ์ของ khonsurin
    แสดงสดเสียงอีสานชุดที่ 20 - 6



    6



    ลิขสิทธิ์บน YouTube Credit By : https://www.youtube.com/watch?v=PvWeUqrn3zk






  9. สัญลักษณ์ของ khonsurin
    แสดงสดเสียงอีสานชุดที่ 20 - 5



    5



    ลิขสิทธิ์บน YouTube Credit By : https://www.youtube.com/watch?v=5JVNhXkLyj0





  10. สัญลักษณ์ของ khonsurin
    แสดงสดเสียงอีสานชุดที่ 20 - 4



    4


    ลิขสิทธิ์บน YouTube Credit By : https://www.youtube.com/watch?v=Z2Vvw4-yemo





  11. สัญลักษณ์ของ khonsurin
    แสดงสดเสียงอีสานชุดที่ 20- 3



    3



    ลิขสิทธิ์บน YouTube Credit By : https://www.youtube.com/watch?v=vYucIJzE64M





  12. สัญลักษณ์ของ khonsurin
    แสดงสดเสียงอีสานชุดที่ 20 - 2


    2


    ลิขสิทธิ์บน YouTube Credit By : https://www.youtube.com/watch?v=dHIBOEUYuQs



  13. สัญลักษณ์ของ khonsurin

    จังหวัดชัยภูมิ





    พระยาภักดีชุมพล





    ทุ่งดอกกระเจียว



    จังหวัดชัยภูมิ เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ เป็นอันดับ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอันดับ 7 ของประเทศ โดยมีเนื้อที่ประมาณ 12,778.3 ตารางกิโลเมตร นับเป็นที่ตั้งของแหล่งอารยธรรมอันเก่าแก่ นับตั้งแต่สมัยทวารวดี สมัยขอม กระทั่งสมัยที่ได้รับอิทธิพลจากอาณาจักรล้านช้าง


    ชัยภูมิมีเขตติดต่อกับจังหวัดเพื่อนบ้านหลายจังหวัด ได้แก่ ทางเหนือ ติดกับเพชรบูรณ์และขอนแก่น ทางตะวันออกติดกับขอนแก่นและนครราชสีมา ทางตะวันตกติดกับเพชรบูรณ์และจังหวัดลพบุรี และทางใต้ติดกับจังหวัดนครราชสีมา


    สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมืองชัยภูมิปรากฏในทำเนียบแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชว่าเป็นเมืองขึ้นกับเมืองนครราชสีมา แต่ต่อมาผู้คนได้อพยพออกไปตั้งหลักแหล่งทำมาหากินที่อื่น และเมื่อปี พ.ศ. 2360 "นายแล" ข้าราชการสำนักเจ้าอนุวงศ์เมืองเวียงจันทน์ได้อพยพครอบครัวและบริวารเดินทางข้ามลำน้ำโขงมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านหนองน้ำขุ่น (หนองอีจาน) ซึ่งอยู่ในบริเวณท้องที่อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมาในปัจจุบัน


    ต่อมาในปี พ.ศ. 2362 เมื่อมีคนอพยพเข้ามาอยู่มาก นายแลก็ได้ย้ายชุมชนมาตั้งใหม่ที่บ้านโนนน้ำอ้อม บ้านชีลอง ห่างจากตัวเมืองชัยภูมิ 6 กิโลเมตร นายแลได้เก็บส่วยผ้าขาวส่งไปบรรณาการเจ้าอนุวงศ์จนได้รับบำเหน็จความชอบแต่งตั้งเป็น "ขุนภักดีชุมพล" ในปี พ.ศ. 2365 นายแลได้ย้ายชุมชนอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากที่เดิมกันดารน้ำ มาตั้งใหม่ที่บริเวณบ้านหลวงซึ่งตั้งอยู่ระหว่างหนองปลาเฒ่ากับหนองหลอด (เขตอำเภอเมืองชัยภูมิปัจจุบัน) และได้หันมาขึ้นตรงต่อเมืองนครราชสีมา และส่งส่วยทองคำถวายแด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่ยอมขึ้นต่อเจ้าอนุวงศ์อีกต่อไป พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้ายกบ้านหลวงขึ้นเป็น เมืองชัยภูมิ และแต่งตั้งขุนภักดีชุมพล (แล) เป็น "พระยาภักดีชุมพล" เจ้าเมืองคนแรก



    ต่อมาเจ้าอนุวงศ์ได้ก่อการกบฏ ยกทัพเข้ามาหมายจะตีกรุงเทพมหานคร โดยหลอกหัวเมืองต่าง ๆ ที่เดินทัพมาว่าจะมาช่วยกรุงเทพมหานครรบกับอังกฤษ จนกระทั่งเจ้าอนุวงศ์สามารถยึดเมืองนครราชสีมาได้เมื่อปี พ.ศ. 2369 ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้นต่อมาเมื่อความแตก เจ้าอนุวงศ์ได้กวาดต้อนชาวเมืองนครราชสีมาเพื่อนำไปยังเมืองเวียงจันทน์



    เมื่อไปถึงทุ่งสัมฤทธิ์ หญิงชายชาวเมืองที่ถูกจับโดยการนำของคุณหญิงโม ภรรยาเจ้าเมืองนครราชสีมา ได้ลุกฮือขึ้นต่อสู้ พระยาภักดีชุมพล (แล) เจ้าเมืองชัยภูมิ พร้อมด้วยเจ้าเมืองใกล้เคียงได้ยกทัพออกไปสมทบกับคุณหญิงโม ตีกระหนาบทัพเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์จนแตกพ่ายไป ฝ่ายกองทัพลาวส่วนหนึ่งล่าถอยจากเมืองนครราชสีมาเข้ายึดเมืองชัยภูมิไว้และเกลี้ยกล่อมให้พระยาภักดีชุมพลเข้าร่วมเป็นกบฏด้วย แต่พระยาภักดีชุมพลไม่ยอม เจ้าอนุวงศ์เกิดความแค้นจึงจับตัวพระยาภักดีชุมพลมาประหารชีวิตที่บริเวณใต้ต้นมะขามใหญ่ริมหนองปลาเฒ่า ซึ่งต่อมาชาวชัยภูมิได้ระลึกถึงคุณความดีที่ท่านมีความซื่อสัตย์และเสียสละต่อแผ่นดิน จึงได้พร้อมใจกันสร้างศาลขึ้น ณ บริเวณนั้น ปัจจุบันทางราชการได้สร้างศาลขึ้นใหม่เป็นศาลาทรงไทยชื่อว่า "ศาลาพระยาภักดีชุมพล (แล)" มีรูปหล่อของท่านอยู่ภายใน เป็นที่เคารพกราบไหว้และถือเป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของจังหวัด ตั้งอยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดชัยภูมิประมาณ 3 กิโลเมตร



    สัญลักษณ์ประจำจังหวัด





    สัญลักษณ์ประจำจังหวัด คือ รูปธงสามชาย หมายถึงธงแห่งชัยชนะสงคราม เดิมผู้ครองนครได้เลือกภูมิประเทศเพื่อตั้งเป็นเมือง พบว่าตรงจังหวัดนี้มีพื้นที่อุดมสมบูรณ์ ทำเลเหมาะแก่การสู้รบป้องกันตัว จึงตั้งเมืองขึ้นและให้สัญลักษณ์เป็นรูปธงสามแฉก







    อ้างอิง
    วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี




  14. สัญลักษณ์ของ khonsurin
    กุมภกรรณ




    กุมภกรรณ เป็นโอรสของท้าวลัสเตียนและนางรัชฎา มีศักดิ์เป็นน้องแท้ ๆ ของทศกัณฐ์ มีหน้าและกายสีเขียว ชายาชื่อนางจันทวดี เป็นยักษ์ที่มีฤทธิ์มากที่สุดตนหนึ่ง มีอาวุธร้ายประจำกาย คือ หอกโมกขศักดิ์



    กุมภกรรณออกศึก




    ฝ่ายกุมภกรรณ น้องชายทศกรรฐ์ ซึ่งเป็นผู้มีทศพิธราชธรรม เมื่อทศกรรฐ์เรียกมาปรึกษาว่าจะให้กุมภกรรณไปรบกับพระราม เพราะมีหอกโมกขศักดิ์ กุมภกรรณทูลว่า ต้นเหตุแห่งสงครามนั้นเกิดจากนำนางสีดามา หากคืนไป สงครามก็จะสงบ ทศกรรฐ์โกรธ กุมภกรรณจึงจำใจต้องยกทัพไปรบกับพระราม พระรามให้พิเภกไปเจรจาให้กุมภกรรณยกทัพกลับไป กุมภกรรณไม่เชื่อว่าพระรามเป็นพระนารายณ์อวตาร พิเภกจึงกลับมาทูลพระราม พระรามให้องคตไปเจรจากับกุมภกรรณอีก แต่ไม่ได้ผล

    พระรามจึงให้สุครีพออกไปรบ กุมภกรรณจึงออกอุบายให้สุครีพไปถอนต้นรังใหญ่ที่อุดรทวีป จนหมดแรง เมื่อสุครีพถอนต้นรังมา ก็ได้กลับมารบกับกุมภกรรณต่อ จึงเสียทีถูกกุมภกรรณจับได้พากลับไปลงกา พระรามรู้ข่าวจึงให้หนุมานไปช่วย กุมภกรรณแพ้หนีกลับเข้าเมือง การที่สุครีพเสียรู้จนเสียทีแก่กุมภกรรณ ทำให้พระรามโกรธมาก แต่ด้วยมีความดีความชอบมาก่อน จึงยกโทษให้พร้อมทั้งชมเชยหนุมาน





    ฝ่ายทศกรรฐ์รู้ว่ากุมภกรรณแพ้ จึงปลอบโยนให้หาวิธีใหม่ กุมภกรรณได้ขึ้นไปเอาหอกโมขศักดิ์ที่ชั้นพรหม กลับมาทำพิธีลับหอกที่ริมแม่น้ำสีทันดร เชิงเขาพระสุเมรุ และให้เหล่าเสนายักษ์คอยเฝ้า ไม่ให้สิ่งเน่าเหม็นเข้ามาใกล้บริเวณโรงพิธี เพราะกุมภกรรณเกลียดความสกปรก หากเมื่อใด ลับหอกคมทั้งสี่ด้าน ก็จะเป็นหอกที่มีฤทธิ์มากดังไฟกรด

    พระรามเมื่อรู้ข่าว ก็ให้หนุมานแปลงเป็นหมาเน่าลอยน้ำ องคตแปลงเป็นกา ไปทำลายพิธี กุมภกรรณลับหอกอยู่เห็นเข้าจึงเลิกลับหอก กลับเข้ากรุงลงกาไป ทศกรรฐ์จึงว่า แม่น้ำสีทันดรนั้นอยู่ไกลจากเหล่ามนุษย์ และเป็นที่อยู่ของพญานาค แต่มีหมาเน่าลอยน้ำมา น่าจะเป็นแผนของพิเภกที่บอกพระรามให้มาล้างพิธี อย่างไรก็ตามหอกโมกขศักดิ์นั้นมีฤทธิ์มากอยู่แล้ว จึงให้กุมภกรรณออกไปรบอีกครั้ง ส่วนพระรามให้พระลักษมณ์ออกไปรบกับกุมภกรรณต้องหอกโมกขศักดิ์สลบไป สุครีพจึงให้นิลนนท์ไปเชิญพระรามมาดู พระรามเสียใจมาก




    พิเภกทูลว่าพระลักษมณ์ยังไม่ตาย แต่ที่ดึงหอก โมกขศักดิ์ไม่หลุดก็เพราะเป็นพรของพระพรหม ซึ่งมียาแก้ โดยต้องเอาต้นยาสังกรณี ตรีชวา ที่เขาสรรพยา กับน้ำที่ปัญจมหานที มาทาที่แผล หอกก็จะหลุด และต้องไม่ให้พ้นคืนนี้ หากดวงอาทิตย์ขึ้นก็จะตาย พระรามสั่งให้หนุมานไปหยุดรถพระอาทิตย์ไว้ แล้วรีบไปเก็บยา

    ฝ่ายพระอาทิตย์เมื่อเห็นหนุมานมาหยุดรถก็โกรธ แต่เมื่อรู้เรื่องราวแล้วจึงบอกว่า จะห้ามวิถีจักรราศีนั้นไม่ได้ เพียงจะหลบเดินรถเข้ากลีบเมฆให้ ส่วนหนุมานนั้นจะต้องรีบไปเอายา และน้ำที่ปัญจมหานทีที่กรุงศรีอยุธยา เมื่อนำยาไปทาที่แผล หอกจึงหลุดออก






    ส่วนเสนายักษ์ที่คอยเฝ้าดูอยู่ เห็นพระลักษมณ์ฟื้นขึ้น จึงไปทูลทศกรรฐ์ กุมภกรรณจึงว่า หากใครโดนหอกโมกขศักดิ์ยากที่จะรอดชีวิต แต่พิเภกคงแก้กลให้พระลักษมณ์ ควรหาวิธีทำลายทัพพระรามให้อดน้ำตาย แล้วได้ไปตั้งพิธีทดน้ำไม่ให้ไหลไปที่เขามรกต โดยเนรมิตกายใหญ่นอนทอดขวางแม่น้ำไว้

    ฝ่ายเหล่าเสนาลิงเห็นน้ำในแม่น้ำแห้ง ไปทูลพระราม พิเภกบอกว่าเป็นเพราะกุมภกรรณไปตั้งพิธีทดน้ำ ครบเจ็ดวันไพร่พลลิงจะได้อดน้ำตายหมด พระรามให้หนุมานไปทำลายพิธีตามคำแนะนำของพิเภกได้สำเร็จ

    ต่อมาทศกรรฐ์ได้ให้กุมภกรรณยกทัพมารบอีก แล้วให้ฆ่าพิเภกเสียในคราวเดียวกัน พระรามออกไปรบกับกุมภกรรณ กุมภกรรณต้องศรพรหมมาสตร์ตาย




    อ้างอิงจาก หอมรดกไทย



  15. สัญลักษณ์ของ khonsurin
    กากีเหมือนดอกไม้



    โอ้ มาลี นี้ใครชมเล่น
    กลีบเจ้าเป็น รอยช้ำ
    ใครทำให้เจ้าเฉา
    หรือภุมรา แกล้งมาภิรมย์ชมเจ้า
    มองแล้วพายิ่งเศร้า
    เจ้าเคยพริ้งเพรา
    กลับมาอับเฉา เพราะมือ คนชม

    ใครอยากจะรัก ใครอยากจะดม
    ใครอยากจะชม นิยม ว่าเด่นดี


    เปรียบกานดา โสภางามผ่อง
    โอ้ รูปทองใจทราม
    มีนามว่ากากี

    สวยอรชร กลิ่นขจร
    เหมือนดังมาลี
    กรรมของนางเทวี
    เจ้างามโสภี
    แต่ใจบัดสี เพราะมีอารมณ์

    ใจอยากจะรัก ใจอยากจะชม
    ใจกลับระทม เพราะลมสวาทเอย
  16. สัญลักษณ์ของ sompoi
    ..ให้กำลังใจดีค่ะ สัมผัสเสียงลงตัวดีด้วย ทำให้กลอนเพราะจัง..
  17. สัญลักษณ์ของ wundee2513
    ... เป็นบทประพันธ์กลอนที่ให้ความหมายที่ดีและหลายแง่คิด
    ส่วนตัวผมชอบที่มีหลายคำ หลายประโยค ที่ท้าทาย ...
  18. สัญลักษณ์ของ esannot
    กำลังใจให้สุคนครับ สติท่อนั่นสิเฮ็ดให้เฮามีความสุขครับบบบ
  19. สัญลักษณ์ของ esannot
    คึดฮอดพี่น้องที่มาเฮ็ดงานยุกรุงเทพ ส่งกำลังใจไปให้เด๋อครับ
  20. สัญลักษณ์ของ wundee2513
    อยากจะเมาเมาจนหัวให้ทิ่มบ่อ
    คิดแล้วไม่เพียงพอความคิดถึง
    เพราะว่าเหงาคิดถึงเจ้ายังตราตรึง
    ขอเมาความคิดถึงดีกว่าเมาเมรัย

    ใครชวนเมาคราวนี้ไม่เอาดอก
    ยอมให้หลอกความเมาที่หัวใจ
    จะกี่ครั้งกี่คราวที่เมามาย
    สร่างซาได้แต่ใจคิดถึงนาง ...