ญา ทิวาราช
การเดินทางเริ่มต้นที่ก้าวแรกเสมอ
by
, 26-09-2010 at 17:39 (1724 เปิดอ่าน)
การเดินทางไกลนับหมื่นลี้
เราไม่ได้เกิดมา เพื่อแสวงหาความสำเริงสำราญให้กับชีวิตไปวันหนึ่งๆ เท่านั้น
เราไม่ได้เกิดมา เพื่อลุ่มหลงมัวเมาอยู่ในรสอร่อยของโลก คือ กิน กาม เกียรติ
เราไม่ได้เกิดมา เป็นทาสของชีวิตเราไม่ได้เกิดมา เพียงเพื่อศึกษาเล่าเรียน ทำงานทำการ ตั้งหลักปักฐาน มีครอบครัว มีลูกมีหลาน แล้วก็แก่ แล้วก็เจ็บ แล้วก็ตายไป
ถ้าเราเกิดมาเพียงแค่นั้น ก็เท่ากับว่า เกิดมาเพื่อเวียนว่ายอยู่ในวัฏฏสงสารเท่านั้น เป็นเหยื่อหนอนไปชาติหนึ่งๆ ไม่พ้นโลกนี้ไปได้
แม้จะมั่งมีเงินทองสักปานใดก็ไร้ความหมาย แต่เราเกิดมาเพื่อที่จะปลดเปลื้องพันธนาการโซ่ตรวน
เครื่องร้อยรัดที่ผูกมัดจิตใจของเราไว้ไปสู่ความเป็นอิสระ เพื่อปลดปล่อยตัวเองให้พ้นจากอำนาจ ความครอบงำของกิเลส ตัณหา
เพื่อพัฒนาชีวิต และจิตวิญญาณให้สูงขึ้น เจริญขึ้นสู่ฐานะอันสูงสุดเท่าที่จะขึ้นถึงได้ นั้นคือ การทำให้จิตใจบริสุทธิ์ ข้ามแดนแห่งความมืดมนของชีวิต
เพื่อเข้าถึงจุดจบของชีวิต ที่สุดของชีวิต คือ พระนิพพาน
เริ่มต้นที่ก้าวแรก
ความสงบแห่งจิตใจเริ่มได้จากปลายนิ้ว จุดหนึ่งที่สงบจะเติมทุกส่วนของชีวิตให้สงบไปด้วย
ความสงบหรือความพร้อมที่จะปฏิบัติธรรมไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งภายนอก แต่ขึ้นอยู่กับศรัทธาในจิตใจของตน
นี่แหละคือ "การปฏิบัติธรรม"
จิต กับ อารมณ์ ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน จิตเป็นที่เกิดของอารมณ์สำหรับคนทั่ว ๆ ไป จิตกับอารมณ์ปนกันไปหมด
จิตเป็นไปตามเหตุการณ์ภายนอกอยู่ตลอดเวลา เหมือนหุ่นที่เขาจะเชิด เขาว่าดี ก็ดีใจ เขาว่าไม่ดี ก็เสียใจ
ไม่มีความอิสระ จิตกับอารมณ์จึงเหมือนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ถ้าเราฝึกให้จิตมันสงบ มันจะค่อย ๆ แยกจิต
ออกจากอารมณ์เอง
ฝึกจิต ก็คือ ฝึก เห็น จำ คิด รู้ ให้หยุดรวมเป็นจุดเดียวกัน
ฝึกใจ ก็คือ ฝึกใจให้ละวางขันธ์ 5 คือกาย ที่เกี่ยวเนื่องด้วยกายให้มากที่สุด หยุดนิ่งจนเกิดเป็นจิต
ณ ภายในบังคับจิต คือ ไม่หยุดก็บังคับให้หยุด วอกแวกก็บังคับให้นิ่ง เห็นด้วยใจในนิมิต
ไม่นิ่งก็ต้องบังคับให้มองด้วยใจให้นิ่งๆ ให้ได้
การมีสติอยู่กับปัจจุบัน
สติ คือ การระลึก แต่ไม่รู้สึก สัมปชัญญะ ทำหน้าที่รู้สึก แต่ไม่ได้ทำหน้าที่ระลึก พอเอาทั้งสองมารวมกัน เรียกว่า สติสัมปชัญญะ แปลว่า ระลึกรู้
ดังนั้น การปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ก็คือการตามสังเกตใจ เพื่อพัฒนาการระลึกรู้
ถ้ามีสติระลึกถึง สัมปชัญญะก็เกิดขึ้นทำหน้าที่รู้สึก พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า สติสัมปชัญญะเป็นธรรมที่มีอุปการะมาก
สติสัมปชัญญะเป็นธรรมที่มีอุปการะต่อการรู้ธรรมชาติจริงของจิต
สติสัมปชัญญะ มีอุปการะต่อปัญญา เพราะเมื่อมีสติสัมปชัญญะแล้วจะเกิดปัญญานั้นเอง