หมูน้อย

เคยแคร์คนที่ไม่มีตัวตนมากกว่าคนที่มีอยู่บนความจริงไหม??

Rate this Entry
......เคยใช้คำว่าเพื่อน..กับคนที่ไม่เคยมองเราเป็นเพื่อน...

ความรู้สึกที่ทำให้ตัวเรารู้สึกน้อยใจ และน้อยใจ
เชื่อว่าทุกๆคนคงมีความรู้สึกเหล่านี้อาจเป็นเพราะเราจริงจัง
จริงใจ ให้ความสำคัญกับสิ่งๆหนึ่งนั้นมากเกินไหม..ไม่รู้สิ
ไม่เข้าใจมันกันว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น..

ตั้งแต่เช้าการได้รับข้อความที่เราเห็นครั้งแรกเหมือนรู้สึกดีใจมาก..
แต่ทำไม เพียงไม่นานๆ อะไรบางอย่างมันเปลี่ยนความรู้สึกจากดีใจกลายเป็นเสียใจได้

ในปัจจุบันสังคมเราเสมือนสังคมที่มีแต่ความขัดแย้ง
ขัดแย้งกันทั้งในความคิด และการกระทำ
สาเหตุของความขัดแย้งส่วนใหญ่อาจ

มักจะมาจากพื้นฐานของความเชื่อ
ของแต่ละคนที่ได้รับการสั่งสมมา
ประสบการณ์ของแต่ละครอบครัวที่มีความแตกต่างกัน


แม้กระทั่งความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในใจเรา คือ ตัวของเรา

ซึ่งเป็นผู้รู้สึกขัดแย้ง บางคนรู้สึกเศร้า บางคนรู้สึกเร่าร้อนทุรนทุราย
เพราะพยายามหาทางให้ตนเองเป็นฝ่ายชนะ
คือ

ทำอย่างไรให้เขาคิดเหมือนเรา ทำเหมือนเรา เข้าใจเรา
เมื่อผลปรากฏว่า ไม่ใช่...ขัดแย้ง..หงุดหงิด..ไม่มีสมาธิทำงาน..ไม่มีสมาธิเรียน ..ทำให้เสียเวลา


ตั้งแต่เช้ามานี้หมูน้อยรู้สึกวนเวียนอยู่กับเรื่องของความขัดแย้ง(ในใจ)
เกิดความรู้สึกแย่ในบางเรื่อง(ที่เราแคร์มากเกินไป)
จนทำให้ตั้งคำถามกับตนเองเสมอว่า “ทำอย่างไร เราถึงจะหายจากความเจ็บปวด
ที่เกิดจากความขัดแย้งนี้ได้” คำถามนี้มันวนเวียนอยู่ในสมองตลอดเวลา.....


ว่าทำไมเราต้องแคร์ความรู้สึกคนที่เราไม่ได้รู้จักกันมากไปกว่าแค่พิมพ์ข้อความส่งหากันเลย
ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเราถึงแคร์ความรู้สึกของคนที่ไร้ตัวตน มากกว่า
ทำไมเราต้องเสียเวลาทำอะไรต่อมิอะไรเพื่อให้เข้าใจในความคิด ความจริง
มากกว่าการให้เวลาต่อการทำงาน ต่อคนที่อยู่ข้างๆๆเรา


หมูน้อยเองก็ไม่เข้าใจ..ว่าทำไมหมูน้อยต้องแคร์
คนที่เราใช้คำว่าเพื่อนกับเขา...แต่เขาไม่เคยมองหมูน้อยเป็นเพื่อน...
ทำไมต้องแคร์คนที่ไม่มีตัวตนมากกว่าคนที่มีอยู่บนความจริงไหม??

Submit "เคยแคร์คนที่ไม่มีตัวตนมากกว่าคนที่มีอยู่บนความจริงไหม??" to แชร์ไปที่ Facebook Submit "เคยแคร์คนที่ไม่มีตัวตนมากกว่าคนที่มีอยู่บนความจริงไหม??" to แชร์ไปที่ Twitter Submit "เคยแคร์คนที่ไม่มีตัวตนมากกว่าคนที่มีอยู่บนความจริงไหม??" to แชร์ไปที่ Printerest

Updated 28-09-2010 at 15:09 by หมูน้อย

แท็ก: ไม่มี แก้ไข Tags คำค้นหา
Categories
Uncategorized

Comments

  1. สัญลักษณ์ของ เพียงลมพัดผ่าน
    เข้าใจเรา เข้าใจเขา จะทำให้เข้าใจสรรพสิ่ง..
  2. สัญลักษณ์ของ หมูน้อย
    อยากจะทำให้ได้เหมือนที่ท่านน้องว่า
    รู้เรารู้เขา..แล้วจะเข้าใจ..
    แต่หากเรารู้เราแต่ไม่รู้เขา
    แต่เขากลับรู้ทั้งเราและเขาละ..
    เราจะเข้าใจอย่างไรช่วยชี้ทางหน่อยสิ
  3. สัญลักษณ์ของ ไก่น้อย
    เป็นเหมือนกันค่ะน้องหมู อาการพี่ไก่ก็ค่อนข้างหนักมากแต่แสดงออกไม่ได้ กับการที่เราแคร์คนที่ไม่มีตัวตน แต่วันนี้พี่ไก่ผ่านมันได้แล้ว มองย้อนกลับไป ความรู้สึกนั้นพี่ไก่ว่ามันมีค่ามากนะ ถึงจะไม่มีค่าสำหรับเขา แต่มันก้เป็นความรู้สึกดีๆ ที่อยากเก็บใว้นึกถึงทีไรก็นั่งยิ้ม ถึงแม้คนคนนั้น เขาจะไม่รับรู้แล้ว
  4. สัญลักษณ์ของ เพียงลมพัดผ่าน
    เมื่อใดก็ตามที่เกิดคำถามขึ้นในใจว่า ทำไม่เราถึง.........
    นั่นแสดงว่าเรายังไม่เข้าใจตัวเอง ซึ่งคำว่า ทำไมเราถึง........เกิดขึ้นเพียงบางเวลา เท่านั้น
  5. สัญลักษณ์ของ หมูน้อย
    ยากไหม??กับการทำตัวให้ยอมรับกับการเปลี่ยนแปลง
    การเปลี่ยนแปลงมีเหตุ ปัจจัยที่เราควบคุมได้หรือไม่ได้
    ถ้าเราคิดว่าเราคุมได้ เราก็คุมการเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้การเปลี่ยนแปลงนั้นดีขึ้น


    นั่ง นอน ยืน เดิน คิดมาตลอดช่วงเวลา 24 ชั่วโมงกับการดำเนินชีวิตของ 1 วัน
    ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเกิด เกิดจากอะไร ส่งผลกระทบต่อความคิด
    ความรู้สึกเรามากแค่ไหน


    โลกไซเบอร์มีส่วนที่ดี มีประโยชน์อยู่มาก
    มีเรื่องข้อมูลความรู้ที่มีจำนวนมาก
    หาได้ง่ายสะดวกต่อการศึกษาค้นคว้า
    นำมาปรับใช้กับงานที่เราทำอยู่ได้
    อีกทั้งทำให้เราได้พบเพื่อนใหม่ๆ
    ในเครือข่ายสังคมที่มีการแลกเปลี่ยนข้อคิด
    บางครั้งยัง
    ให้กำลังใจกันแม้จะเพียงเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม
    ทั้งที่ไม่เคยพบหน้า พบตากันแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
    อย่างน้อยการติดต่อ การตอบโต้ การพูดคุยกันผ่านตัวอักษร
    ในโลกไซเบอร์
    อาจมีส่วนช่วยทำให้มีเพื่อนคุยแก้เหงา
    ในสังคมที่ยุ่งวุ่นวาย


    แต่ในขณะเดียวกันโลกไซเบอร์ยัง “สะท้อน” ให้เราได้รับรู้ว่า
    ตราบใดที่โลกแห่งความเป็นจริงยังมี
    ทั้งคนดีและคนเลวปะปนมาด้วย
    รวมไปถึงความโลภ โกรธ และหลง
    โลดไซเบอร์ก็คงไม่ต่างไปจากโลกความจริงเท่าไร
    เพราะนี้คือ ธรรมชาติบนธรรมดาของสังคม


    แต่สิ่งที่ต้องพึงระวังเสมอของโลกไซเบอร์
    คือ ตัวตนที่คนเห็นอาจไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง
    เพราะที่ไม่ได้พบหน้าค่าตากัน
    จะแต่งตัวปลอมตนเป็นใครก็ได้


    การสร้างภูมิคุ้มกันด้วยพื้นฐานความรู้และจิตสำนึก
    จึงเป็นเรื่องสำคัญว่าสิ่งที่ปรากฏบนจอนั้น
    ไม่ใช่ “เรื่องจริง” เสมอไป ต้องใช้วิจารณญาณ
    ตรวจสอบ พินิจ วิเคราะห์ ข้อมูลที่เราได้มา


    และต้องอยู่ต่อไปทั้งในโลกความจริงและโลกไซเบอร์
    แต่ต้องเลือกการปฏิบัติที่ต่างกัน....คือสิ่งที่คิดและได้รับจากการเรียนรู้ในครั้งนี้






    หมูน้อย
    ๒๙/๙/๒๕๕๓
  6. สัญลักษณ์ของ หมูน้อย
    ขอบคุณข้อคิดเห็น...จากพี่ปุยคนงาม และพี่ข้าวปาดคนที่ทั้งเท่ห์ น่ารักหลงรักเสียงเธอทั้งสองคน


    แอบหลงรักเสียงเธอดีเจปุย
    ช่างคุยเก่งมีเสน่ห์เสียงที่หลงใหล
    ใครก็หลงรักเธอคนงามทั้งกาย ใจ
    มิตรไมตรีให้เพื่อนผองทั่วโลก(ความจริงอิงไซเบอร์)

    ดีเจข้าวปาดเธอน่ารักสะกิดใจ
    ข้าหลงใหลในมาดเท่ห์ที่เผลอมองหา
    ความสดใส น่าจ้องมอง นัยดวงตา



    เวลาล่วงเลยผ่านนานแค่ไหน...ชีวิตอันวุ่นวาย...มากมายจากหลากหลายเรื่อง
    ความต่างที่เกิดขึ้น จากความคิด การกระทำ และวาจา
    อยากย้ำว่าการยอมรับ และการให้อภัยผู้อื่นนั้นทำให้ใจคนสูงส่งยิ่ง


    ยากไหม ทำใจยอมรับและให้อภัยผู้อื่นที่ทำผิด...ยากนะ..ให้เวลาเกือบครึ่งคืน
    แต่นั้นมันก็คือการให้อภัยที่ยิ่งใหญ่ ......
    อยากรู้จังคนที่เกิดมามีไหมที่ทำผิดแล้วไม่ยอมรับว่าตนเองทำผิด...


    .....เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยคนเราเกิดมาย่อมเคยทำผิดกันทั้งนั้น..อยู่ที่จะผิดตรงไหน แค่ไหน กับใคร ฯลฯ(คิดบ่ออก)

    เราจะทำอย่างไรเมื่อเราทำผิด รู้ตัว และไม่รู้ตัว...
    สำหรับคนที่รู้ตัวว่าตัวเองทำผิด..ควรแก้ไขกับสิ่งที่ทำนั้นอย่างไร
    สำหรับที่ทำผิดและคิดว่าตนเองไม่ผิด กว่าจะรู้ตัวอีกทีชีวิตนี้เกือบเสียเพื่อนดีๆ
    หรือไม่ก็เสียเพื่อนคนนั้นไปโดยไม่รู้ว่าจะได้เพื่อนคืนมาไหม

    ไม่ว่าจะทั้งในโลกแห่งความจริง...หรือโลกไซเบอร์
    การเอ่ยวาจาอยากให้แคร์และยอมรับในสิ่งที่ตนเองกระทำบ้าง
    จะได้มีมิตรที่ดีอยู่คู่กับชีวิตเราตลอดไป.....

Trackbacks

Total Trackbacks 0
Trackback URL: