บ้านเป็นสุข
เรื่องดีเมื่อเดินทางๆ La--> สุวรรณภูม
by
, 09-09-2010 at 07:40 (2605 เปิดอ่าน)
การเดินทาง วันนั้นเป็นอีกวันที่ต้องเดินทางข้ามมหาสมุทร ข้ามทวีป ก็เกิดมามีขานี่นา ไม่เดินก็ถือว่าใช้อวัยวะ ไม่ครบทุกส่วน
ผู้คนที่สนามบินมากมายหลากหลายชาติพันธ์ หลากหลายภาษา บางครั้งนะคิดว่าทำไม ต้องแบ่งแยกประเทศ แบ่งแยก ภาคด้วย เราๆ ก็เป็นมนุษย์บนโลกนี้เหมือนๆ กัน เฮ้อ
นั่งนานหน่อยนะเพราะคุณผู้ชายมีงานภาคบ่าย ต้องรีบมาส่ง ต้องมานั่งรอเชคอินตั้งแต่บ่าย
เจอพี่คนไทยแล้ว พี่เขามารอก่อนเราอีกรอตั้งแต่เที่ยงเพราะไม่อยากเสียค่าโรงแรม ฮ่าๆ คนมีตังค์ก้ยังต้องรอเลย ปกติโรงแรมต้องเชคเอ้าก่อนห้าโมงเช้า พี่เขาน่าสงสารกว่าเราอีก คุยกันคุยกันมาพี่เขามีรถมารับที่สุวรรณภูมิกลับโคราชด้วย พี่เขาชวนเรากลับด้วย
นั่งสักพักมาอีกแล้วคนบ้านเดียวกัน สามสาวใหญ่คุยกันโล้งเล้งเรื่องซื้อน้ำหอม สักพักสองคนจากไปขึ้นเตรื่องอีกคน หงอยเหงา เข้ามาหามาเรา
น้องจ๋าช่วยพี่ด้วยนะพี่อยู่คนเดียวแล้วพี่อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก อย่าทิ้งพี่นะ
โอ้หนอ ท่องเที่ยวมาตั้งไม่รู้กี่ประเทศ อ่านภาษาไม่ได้เลย แค่อาศัยมองหาคนไทยช่วย นับถือ นับถือ
ก็ได้ช่วยพี่แกตลอดการเดินทางตั้งแต่ช่วยเชคอิน แถมช่วยแชร์ น้ำหนักกระเป๋าดึงให้มานั่งแถวเดียวกัน
มาดูพฤติกรรมคนมีตังค์กัน พี่เขามาเที่ยว แต่ ตามล่าหาซื้อของแบรนเนมมือสองทุกยี่ห้อ ยัดใส่กระเป๋ากลับไปขาย วันนั้นพี่เขาใส่เสื้อกันหนาวซ้อนกันสามตัว และใส่ยีนซ้อนกันอีกสามตัว แต่หลังจากเชคอินกระเป๋าแล้วถอดยีนและเสื้อยัดใส่กระเป๋าก่อนส่งเข้าเครื่องสแกน โฮพี่เขาแน่มาก
บนเครื่องยังไม่พอค่ะ ทุกครั้งที่เสริฟอาหาร พี่เขาตั้งจิก ถ้วยเล็กๆ ช้อน ซ่อม อุปกรณ์การกินอย่างละชิ้นสองชิ้น ยัดลงกระเป๋า
ตลอดการเดินทางพร่ำสอนเราไม่ให้ใว้ใจใครง่าย อย่าไปกะพี่ผู้ชายที่ชวนเรากลับด้วยเดี๋ยวลูกชายเขามารับเขาจะไปส่งให้ที่หมอชิต เป็นการขอบคุณที่ช่วยเหลือเขาเรื่องแชร์น้ำหนักระเป๋า
แต่เรานี่นั่งคิดแล้วคิดอีกว่าไปด้วยดีไหมหนอ
ผ่านไปค่ะ ต้องขอบคุณเจ้ที่ไปส่งถึงหมอชิต
การเดินทางอีกแล้ว ยัยคนนี้เดินบ่อยจัง ก็แหม ถ้าเราไม่ก้าวเราก็ไม่ได้ระยะทาง เขาว่ากันอย่างนั้น
คราวนี้ไม่มีใครมารบกวน แต่ก็เห็นพี่คนหนึ่งท่าทางเดือดร้อนเรื่องกระเป๋า
แฮะๆ ส่วนของเราหนะรื้อ น้ำหนักเกินซะ คุณผู้ชายถามว่าเอาก้อนหินยัดลงไปด้วยเหรอ จะบ้าเร้อ ของฝากลูกสาวและคนในครอบครัวทั้งนั้นนะ
มองพี่คนนั้น ว้าพี่เขาแต่งตัวไม่กลัวหนาวเลยหนะ สายเดี่ยวโชว์ เรานี่ก็กลัวหนาวแถมไม่ค่อยมีอะไรจะโชว์
การเดินทางครั้งนี้เหมือนจะผ่านไปด้วยดีไม่มีใครมาขอให้ช่วย
แต่ระหว่างรอเดินขึ้นเครื่อง หนุ่มน้อยสามขวบกว่าครึ่งอุบลครึ่ง นิมแมกซิโก ก็มาบอก ป้าคร๊าบพากระผมเดินเล่นหน่อยคร้าบ เมื่อเดินเล่นหนุ่มนั้นก็หลงป้าเสียจนไม่กลับไปหาแม่เลยเฮอะๆ
ลงเครื่องก็เจอพี่คนสวยสายเดี่ยวอีกหละ พี่เขาชวนคุย ถามกันธรรมดาทั่วไป อยู่ไหน กลับบ้านบ่อยไหม ตามประสาคน บังเอิญว่าพี่เขาอยู่เมกานานสี่ปี ไม่เคยกลับบ้านเลย ขอว่าช่วยแนะนำหน่อยนะ เราก้บอกตามน้องมาไม่มีอะไรหรอก ถือพาสปอร์ต พบ ตม แล้วก็ถึงบ้านแล้ว บังเอิญอีกหละ พี่ท่านเกิดไม่มีใบเข้าเมือง ปกติแล้วใบเข้าเมืองนี้จะติดอยู่กับพาสปอร์ตตั้งแต่ตอนที่เราออกจากประเทศไทยแล้ว เมื่อเรากลับมา ก็จะต้องมีใบนี้โชว์ที่ ตม ดังนั้น พี่เขาจึงเกิดปัญหพราะว่าเขาเพิ่งทำพาสปอร์ตใหม่ที่เมืองนอกและไม่ได้ถือพาสปอร์ตเล่มเก่ามาด้วย ความที่ไม่เคยและกล้ากลัว ทำให้พี่เขาตกใจว่ามันคืออะไร เราก็เลยยื่นมือเข้าไปช่วย ก็ไม่เคยเหมือนกัน ก็เลยตามล่าหาใบเข้าเมืองมาเขียนกัน
ยามไดก็ตามที่เรามีปัญหา แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อย ๆ ถ้ามีใครสักคน ก็ถือว่าดี แม้ไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย แค่ยิ้มให้กำลังใจ หรือคอยเป็นเพื่อน ก็นับว่าดีแล้ว ฉันจึงเต็มใจที่จะยื่นมือของฉันไปจับมือพี่เขาช่วยพี่เขาอย่างเต็มใจ