khonsurin
มองเอเซีย 20 ก.พ. 2554
by
, 20-02-2011 at 10:26 (1642 เปิดอ่าน)
[B][SIZE="5"]
ต้านรัฐบาลทหารพม่า
ทหารพม่าคุมเข้มเมืองล่าเสี้ยว รัฐฉาน อ้างกลุ่มต่อต้านเตรียมโจม
ทหารพม่าในเมืองล่าเสี้ยว รัฐฉานภาคเหนือ ออกตรวจเข้มตัวเมืองยามค่ำคืน อ้างกลุ่มต่อต้านเตรียมเข้าโจมตี ขณะที่ชาวบ้านไม่กล้าออกนอกบ้านเพราะหวั่นไม่ปลอดภัย...
มีรายงานจากแหล่งว่า ตลอดช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ในเมืองล่าเสี้ยว เมืองหลวงที่สามของรัฐฉาน อยู่ในรัฐฉานภาคเหนือ ได้มีเจ้าหน้าทหารพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของพม่าออกตรวจตราในตัวเมืองในยามค่ำคืนอย่างเข้มงวด โดยแต่ละคืนทางเจ้าหน้าที่ใช้รถยนต์ 3 คัน บรรทุกเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองคันละ 7 – 8 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ตระเวนเข้าออกตามตรอกซอกซอยในเขตต่างๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ใช้ชื่อปฏิบัติการนี้ว่า "หย่านอ่องหมิ่น จิ้ตสิ่นเย" หรือ ยุทธการชนะศึก
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อ้างว่า สาเหตุที่ต้องออกตรวจตราเข้มงวดในยามค่ำคืน เนื่องจากสืบทราบว่ากองกำลังกลุ่มต่อต้านวางแผนเตรียมเข้าโจมตีและก่อความวุ่นวายในเมืองล่าเสี้ยว อย่างไรก็ตาม จากเหตุดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชนไม่กล้าออกนอกบ้านในยามค่ำคืน เนื่องจากหวั่นจะไม่ปลอดภัยในชีวิต
......................................................
เยเมนระอุปาบึ้มถล่มผู้ชุมนุม
เยเมนระอุ!ปาบึ้มถล่มผู้ชุมนุมต้านปธน.ตาย2บาดเจ็บนับสิบ
การชุมนุมของผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในเมืองทาเอซ ของเยเมน ถูกโจมตีด้วยระเบิดมือเมื่อวันศุกร์(18 ก.. 2554) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 รายและบาดเจ็บหลายสิบคน ขณะเดียวกันยังมีรายงานได้เกิดการปะทะกันในกรุงซานาด้วย
เหตุโจมตีด้วยระเบิดมือมีขึ้นขณะที่ผู้ชุมนุมหลายร้อยคนรวมตัวกันใจกลางเมืองทาเอซหลังจากพิธีสวดมนต์เย็นในวันศุกร์(18) เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีอาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ลงจากตำแหน่ง หลังก่อนหน้านี้มีการประท้วงรุนแรงภายในเมืองแห่งนี้ต่อเนื่องมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่าเห็นคนที่อยู่ในรถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็วสูงปาระเบิดเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วง "มันเป็นรถยนต์ของทางการ พวกเขามีด้วยกันสองคน แต่เรายังจะไม่ชี้ชัดโดยทันทีว่ามันมีความเกี่ยวข้องทางการเมือง ตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตคือ 2 รายและบาดเจ็บ27คน"
ขณะที่ในกรุงซานา มีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านและสนับสนุนประธานาธิบดีอาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ทำให้ผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศีกษาได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 4 ราย นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีผู้สื่อข่าวหลายคนถูกฝ่ายสนับสนุนพรรครัฐบาลใช้ตะบองและขวานทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บไปหลายคน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสบดี(17) มีประชาชนถูกยิงเสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บราว 20 คนจากฝีมือของตำรวจ หลังเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงปะทะกับผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในเมืองเอเดน ทางตอนใต้ของประเทศ
ทั้งนี้จากตัวเลขล่าสุด ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในเยเมน นับตั้งแต่การปะทะปะทุขึ้นเมื่อวันอาทิตย์(13) เพิ่มเป็น 7 ราย แบ่งเป็นในเอเดน 5 คนและทาเอซ 2 คน
....................................................
ยอดตาย “ลิเบีย” พุ่งเกิน 80 ศพ รบ.ปิดกั้นทั้ง “อินเทอร์เน็ต-เฟสบุ๊ก”
ทางการลิเบียจับชาวอาหรับต่างชาตินับสิบคนด้วยข้อหาปลุกปั่นให้เกิดการล้มล้างรัฐบาล ท่ามกลางกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้สังหารผู้ประท้วงไปแล้วกว่า 80 คน
ชาวต่างชาติที่ถูกจับกุมในหลายเมืองเป็น “เครือข่ายต่างชาติที่ถูกฝึกมาให้ทำลายความมั่นคงภายในลิเบีย ตลอดจนความสงบสุขและความเป็นเอกภาพในชาติ” พร้อมชี้เป็นนัยว่า ผู้บงการอยู่เบื้องหลังก็คือ อิสราเอล
ชาวต่างชาติซึ่งเป็นพลเมืองตูนีเซีย, อียิปต์, ซูดาน, ปาเลนไสต์, ซีเรีย และ ตุรกี ถูกแจ้งข้อหา “ยั่วยุให้ประชาชนปล้นชิงและทำลายสถานที่ต่างๆ เช่น โรงพยาบาล, ธนาคาร, ศาล, เรือนจำ, สถานีตำรวจ, สำนักงานตำรวจทหาร และทรัพย์สินของเอกชนอื่นๆ ซึ่งเป็นแผนที่มีการวางไว้ล่วงหน้า” สำนักข่าวญานา เผย
ลิเบียยังระบุด้วยว่า “แหล่งข่าวใกล้ชิดกระบวนการสอบสวนยังไม่ตัดความเป็นไปได้ว่า อิสราเอลจะอยู่เบื้องหลังขบวนการนี้”
องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรต์ วอตช์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงสังหารผู้ประท้วงไปแล้วกว่า 80 รายทางภาคตะวันออกของลิเบีย ซึ่งรัฐบาลอังกฤษประณามว่า เป็นการกระทำที่โหดร้ายน่ากลัวอย่างยิ่ง
หลังจากที่ผู้ประท้วงใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่าง เฟสบุ๊ก เพื่อแสวงหาแนวร่วมเช่นเดียวกับในอียิปต์ รัฐบาลลิเบียจึงได้ปิดกั้นเวบไซต์ดังกล่าวแล้ว ส่วนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ทำได้ยากลำบากทั้งในเมืองตริโปลีและเบนกาซี
แหล่งข่าวภายในโรงพยาบาลระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้สังหารประชาชนในเมืองเบนกาซีไป 35 คนเมื่อวันศุกร์(18) โดยเกือบทั้งหมดถูกยิงด้วยกระสุนจริง ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้มากกว่า 80 คนแล้ว ฮิวแมนไรต์ วอตช์ เผย
ด้าน อับเดลราห์มาน อัล-อับบาร์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมลิเบีย สั่งให้สอบสวนเหตุเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมทางภาคตะวันออกของประเทศแล้ว เจ้าหน้าที่ในเมืองตริโปลีซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ระบุ
หนังสือพิมพ์กูรีนาของลิเบีย รายงานว่า เกิดเหตุนักโทษแหกคุกกว่า 1,000 คนที่เรือนจำเมืองเบนกาซี ซึ่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระบุว่า มีนักโทษถูกยิงเสียชีวิต 4 คนขณะพยายามหลบหนี
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประณามการใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมโดยสันติในลิเบีย, บาห์เรน และ เยเมน ขณะที่อังกฤษ, ฝรั่งเศส และสหภาพยุโรป ต่างก็เรียกร้องให้รัฐบาลลิเบียยุติความรุนแรงต่อประชาชน
.....................................................
ฝ่ายค้านบาห์เรนบีบรัฐบาลต้องลาออกก่อนจะยอมเจรจา
พรรคฝ่ายค้านหลักของบาห์เรนยืนกราน รัฐบาลต้องลาออก ขณะที่กองทัพต้องถอนกำลังออกจากท้องถนนในเมืองหลวง ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงจะยอมรับข้อเสนอการเจรจาจากราชวงศ์
"ถ้าคิดจะเจรจา รัฐบาลต้องลาออกก่อน และกองทัพก็ควรถอนกำลังออกไปจากท้องถนนในกรุงมานามา" อับดุล จาลิล คอลิล อิบรอฮิม ผู้นำสมาคมข้อตกลงแห่งชาติอิสลาม (ไอเอ็นเอเอ) หรืออัลเวฟัก ซึ่งเป็นฝ่ายค้านหลักในรัฐสภากล่าว
"สิ่งที่เรามองเห็นอยู่ในตอนนี้ไม่ใช้ภาษาของการเจรจา แต่เป็นภาษาของการใช้กำลัง" เขากล่าวโดยอ้างถึงการปราบกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงโดยรัฐบาลในวันศุกร์ (18) ซึ่งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 95 คน และในจำนวนนั้น 3 รายมีอาการปางตาย
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ประณามการใช้ความรุนแรงดังกล่าวผ่านการสนทนาทางโทรศัพท์กับกษัตริย์ฮาหมัด ซึ่งเป็นพันธมิตรคนสำคัญของวอชิงตันในภูมิภาคตะวันออกกลาง
.........................................................