ญา ทิวาราช

ศาลาริมทางกับเรื่องเล่า

Rate this Entry
พักใจกับศาลาริมทาง ตอน เกมกฎแห่งกรรม


"กฎแห่งกรรม" ไม่เคยยกเว้นให้ผู้ใดความแน่นอนที่เหมือนไม่แน่นอน



อะไรก็ตามที่ถูกตกแต่งด้วยกฎแห่งกรรมวิบากจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอื่นเสมอ แต่กฎแห่งกรรมวิบากจะไม่เปลี่ยนแปลงเลยสิ้นกาลนาน ทั้งนี้เพราะกฎแห่งกรรมวิบากนั่นเองคือเกมกรรมทั้งเกม ไม่ว่าคุณจะทิ้งเกมกรรม หลุดพ้นจากกรงรั้วของเกมกรรมไปนานแสนนานแค่ไหน จะยังคงมีใครหลายคนตกค้างอยู่อย่างเดิม ถูกเล่นงานด้วยกฎเดิมๆ ถูกบีบคั้นด้วยเครื่องล่อใจเดิมๆ ต้องออกแรงต้านล้มลุกคลุกคลานด้วยท่วงท่าเดิมๆ ด้วยรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ โดยไม่มีใครจำใครได้ ไม่มีใครสลักสำคัญพอจะมีชื่อบนเสาสลักต้นใดในเกมกรรม ชื่อแซ่และหน้าตาของทุกคนจะโดนลบทิ้งไปทั้งหมดไม่หลงเหลือแม้เป็นร่องรอยความทรงจำของใคร

คุณมาตามทิศที่จะนำไปสู่ทางออกจากเกมกรรมแล้วระยะหนึ่ง มองย้อนกลับเข้ามาถึงใจกลางเกมกรรมอันหนาแน่นด้วยสนามพลังดึงดูดให้ลงต่ำ คุณจะได้ข้อสรุปประการหนึ่ง คือเกมกรรมเล่นยากที่สุดก็ตรงจะให้ผู้เล่นเชื่อว่าเกมกรรมมีจริง และกฎเหล็กของเกมกรรมก็มีจริง เพียงเชื่อได้ว่าเกมกรรมไม่ใช่เรื่องหลอก ทางออกก็เหมือนแง้มเปิดบ้างแล้ว

แต่ก็นั่นแหละ ถ้าเกมเล่นง่าย ทุกคนคงหลุดพ้นจากกรงของเกมไปหมดแล้ว คุณจำเป็นต้องเชื่อจากการเห็นผลลัพธ์ และการเห็นผลลัพธ์ก็ทำให้คุณพบกับเบื้องหลังเกมกรรมที่ถูกเปิดเผยขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าทำดีแล้วได้ดีในนาทีเดียว ทุกคนคงไม่สงสัยว่าผลกรรมมีหรือไม่มี แต่นี่ปัจจัยและตัวแปรในการให้ผลในเกมกรรมซับซ้อนเหลือเกิน และผลกรรมส่วนใหญ่ก็มาช้าเหมือนไม่มีวันมาถึง อาการคอยหายจะทำให้คุณหมดแรงศรัทธา เมื่อทำแล้วไม่ได้ผลทันใจ เมื่อไม่มีใครพยากรณ์ได้ชัดเจน คุณจะรู้สึกเหมือนกฎแห่งกรรมวิบากไม่มีจริง อันนั้นมิใช่มายาลวงของเกมกรรม แต่เป็นเงื่อนไขการให้ผล ดังได้แสดงแล้วในบทที่ ๑๐ ว่าด้วยการให้ผลของกรรมซึ่งสัมพันธ์กับทุนเก่าของแต่ละคน ฉะนั้นถ้าจะรอผลอันใด ก็ขอให้แน่ใจว่าเป็นผลที่สมกับตัว สมกับทุนเก่าของคุณ ผลก็จะปรากฏเป็นที่ประจักษ์สมน้ำสมเนื้ออย่างแน่นอน

สรุปว่าถ้าทำบุญแล้ว ‘ได้ดี’ แต่ ‘ไม่ใช่อย่างใจ’ ก็อย่าเพิ่งไปโทษบุญ ผลบุญก็อย่างหนึ่ง จะเอาให้ได้ดังใจก็อีกอย่างหนึ่ง ส่วนที่เหลือของบทนี้จะมุ่งให้สังเกตความแตกต่างหลังจากที่คุณเข้าใจเกมกรรม สมัครใจให้ทานรักษาศีล ตลอดจนตกลงปลงใจหยุดเล่นเกมกรรม



ความรู้สึก
หากคุณเลิกคาดหวังผลแบบคนอยากถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ ๑ แต่คาดหวังความสุขทางใจเป็นที่หนึ่ง คุณจะเห็นผลทันทีที่ทำบุญอย่างบริสุทธิ์ใจเพียงเล็กน้อย เช่นไปเดินเล่นริมสระ เห็นคนให้อาหารปลาก็ไปซื้อมาให้บ้าง ความรู้สึกของคุณจะแตกต่างไปจากการเดินเล่นเปล่าๆในทันทีนั้นเอง คือนอกจากความสบายใจที่ได้เดินเล่น ยังแถมความชุ่มชื่นเข้ามาด้วย แต่อาจเจือจางและไม่ชัดเจนหากสายตาคุณไม่ดูปลา และใจคุณไม่จดจ่ออยู่กับการให้อย่างต่อเนื่อง

หากคุณฝึกสังเกตความจริงจนกระทั่งเกิดความฉลาดในเกมกรรม เวลาให้ทานมีใจอ่อนน้อม เล็งตาดู และเทใจให้ ไม่สักแต่ให้ด้วยความเคยชินหรือท่าทีเฉยเมยแบบหุ่นยนต์ คุณจะหาความสุขจากการให้ด้วยใจรักได้ทุกที่ทั่วโลก

เช่นเดียวกับการถือศีลแต่ละข้อ ถ้าหมั่นสังเกตใจตนเอง คุณจะเห็นความสุขทวีตัวมากขึ้นทุกวัน เมื่อมีแต่ความรู้สึกด้านดี อบอุ่นใจ สบายใจ คุณก็จะเลิกกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต ต่อให้ชีวิตเหมือนเข้าตาจน คุณก็จะไม่จนใจแต่อย่างใดเลย นี่แหละเรียกว่าเป็นสุขจนชีวิตแตกต่างกัน เพราะแม้ความยากจนและสถานการณ์ลำบากก็ขโมยความสุขไปจากใจคุณไม่ได้

เมื่อเผชิญกับสถานการณ์อันน่าเป็นทุกข์ คุณก็ยังยิ้มได้ แม้สำรวจกระเป๋าพบว่าเงินหาย แต่สำรวจในอกในใจแล้ว เพียงพบว่าความสุขยังอยู่กับคุณ คุณก็ยิ้มออก และจะได้ข้อสรุปเยี่ยงคนเคยทำบุญว่า ถ้าไม่เคยบริจาคหนึ่งพัน คุณจะไม่มีวันรู้วิธีทำเงินหายหนึ่งพันด้วยความสบายใจได้เลย



จิต
เมื่อคุณสามารถรักษาสัญญากับตนเอง เช่นตั้งใจรักษาศีลแล้วรักษาได้แม้เกมกรรมจะส่งเรื่องยั่วยวนชวนเสียสัตย์ให้ลองใจ สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดในระยะสั้นคือจิตจะเบา อบอุ่น สว่างจากภายใน แล้วรู้สึกไว้ใจตัวเอง เห็นตนเองเป็นคนที่ไว้ใจได้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็อาจยังมีช่องโหว่ทางความรู้สึก คือกลับไปกลับมาได้ ท้อแท้ได้ ลังเลสงสัยหวั่นไหวได้ หวนไปเชื่อเสียงกระซิบจากกิเลสได้

ถ้าไม่ถอดใจถอยเท้าไปเสียก่อน ให้กำลังใจตัวเองในการรักษาความดีได้นานพอ ในระยะยาวคุณมองเข้ามาข้างในทีไร จะเห็นแต่ความตั้งมั่น ไม่เอาเรื่องผิดๆตั้งแต่ในมุ้ง คือไม่ต้องชั่งใจคิดว่าเอาดีหรือไม่เอาดี ขอเพียงเป็นเรื่องผิดศีล จิตคุณก็ปฏิเสธหมดแล้ว

ถึงขั้นนั้นคุณจะรู้สึกว่าจิตใจสงบเยือกเย็น ความคิดด้านร้ายแม้มีอยู่ก็เบาบางลงมาก สามารถควบคุมความคิดได้ง่ายขึ้น และไม่กลัวเสียงกระซิบในหัวอันร้ายกาจจากภาคความเป็นคนเลวของคุณเอง เพราะตระหนักว่าตัวคุณจริงๆยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม จิตคุณเหมือนอุปกรณ์เครื่องใช้คุณภาพดี แข็งแรงทนทาน ซึ่งไม่น่ากังวลว่าจะเสียหายเองหรือถูกสิ่งอื่นกระทำให้เสียหายง่ายๆ

เมื่อฝึกต่อยอดอีกเพียงนิดเดียว คุณจะเริ่มฉลาดทางจิตมากขึ้นทุกวัน เช่นเห็นถนัดชัดว่าความฟุ้งซ่านก่อเค้าพายุมาจากการเผลอพูดเรื่องไม่ดีของคนอื่นด้วยจิตคิดนินทาว่าร้าย ครั้งต่อมาเพียงเห็นจิตคิดนินทาว่าร้ายปรากฏขึ้น สติก็ระลึกได้ว่านั่นเป็นเหตุแห่งทุกข์ เป็นเหตุแห่งสภาพจิตแย่ๆ ความอยากนินทาว่าร้ายก็หายไป ความฟุ้งซ่านก็ไม่เกิด นั่นแหละเรียกฉลาดครบวงจร คือไม่ใช่แค่สักแต่เข้าใจ ทว่ามีสติเท่าทันและห้ามใจได้ก่อนสายด้วย

ผู้มีความฉลาดทางจิตย่อมมีจิตที่สงบ หนักแน่น และรู้เห็นโลกอย่างเที่ยงตรง อะไรจะมีค่าไปกว่าการมีจิตที่ดีขึ้น ในเมื่อจิตคือสิ่งที่คุณต้องทนรำคาญหรือชื่นชมยินดีอยู่ตลอดวันตลอดคืน และจิตนี่เองเป็นต้นเค้าของกรรมทั้งปวง เมื่อจิตสว่างย่อมปรารถนาที่จะทำกรรมขาว สุคติย่อมเป็นที่หวัง เมื่อจิตมืดย่อมใคร่ที่จะทำกรรมดำ ทุคติย่อมเป็นที่หวัง

สรุปคือขอเพียงจิตคุณดีอย่างเดียว อะไรอย่างอื่นที่จะตามมาก็ดีหมด หากการเปลี่ยนแปลงของคุณเข้าลึกมาได้ถึงจิต ก็แปลว่าทั้งปัจจุบันและอนาคตไม่มีอะไรน่าห่วงอีกแล้ว



หน้าตา


เค้าโครงรูปร่างหน้าตาของคนเราไม่ได้คงเส้นคงวาตายตัวอย่างที่คิด แม้อาหาร อากาศ การออกกำลังกาย ก็สามารถเปลี่ยนแปลงคุณขนาดเห็นเงาตัวเองในกระจกแล้วแปลกใจได้บ่อยๆ

กรรมก็เช่นกัน คุณเปลี่ยนกรรมหน้าตาก็เปลี่ยนตาม โดยเฉพาะในเรื่องของศีลจะเห็นผลชัดรวดเร็ว คือต่อให้คุณเป็นคนผิวดำ เมื่อรักษาศีลได้สะอาดสักระยะ กระทั่งรู้สึกตั้งมั่นในศีล จะเหมือนมีรัศมีความขาวทอตัวออกมาจากภายใน ผิวคุณจะดูขาวขึ้นจนคนอื่นทัก

หากคุณมองคนด้วยความคิดที่ดี จิตเป็นเมตตา ไม่มองด้วยอาการหมิ่น ไม่มองด้วยเลศนัย ไม่มองด้วยความเป็นปรปักษ์ ไม่มองด้วยความระลึกถึงเวรที่ผูกกันมา นัยน์ตาคุณจะมีประกายชวนมองมากขึ้น รวมทั้งรูปตาอาจเต็มขึ้นกว่าเดิม

หากคุณทำบุญด้วยจิตเลื่อมใสขนาดยิ้มได้เต็มปาก ไม่ลังเลที่จะยิ้มชื่นใจในห้วงที่จิตเป็นบุญเป็นกุศล และจดจำจิตที่คิดยิ้มจริงใจสดใสนั้นได้ แจกยิ้มให้ใครต่อใครง่ายๆด้วยไมตรีจิตบริสุทธิ์ รูปปากและกล้ามเนื้อบนใบหน้าทั้งหมดจะถูกตกแต่งให้เป็นยิ้มงามทั่วตลอด ยิ่งหากฝึกพูดความจริง พูดคำอันเสนาะโสต พูดคำสมานฉันท์ และพูดอย่างมีสติ ไม่พูดให้เกิดจิตที่บิดเบี้ยว ปากก็จะอยู่ในรูปรอยปกติที่ดูดีที่สุด ไม่เบี้ยวบิดผิดรูปไป

หากคิดทำเพื่อคนอื่น อยากอนุเคราะห์ อยากเกื้อกูล อยากให้เขาได้ดีมีสุข ขอให้สังเกตรัศมีความรู้สึกไปด้วย จะเหมือนสว่างเรืองออกมาจากภายใน สังเกตเรื่อยๆ ยิ่งทำถี่ ยิ่งทำมาก รัศมีเรืองจากภายในจะยิ่งชัดจนบอกตัวเองได้อย่างหนักแน่นว่ามิใช่อุปาทาน ผิวหนังและกรอบหน้าของคุณจะฉายรัศมีเดียวกับที่คุณรู้สึก และคนอื่นก็จะรู้สึกตาม แต่ช่วงใดใจร้าย ใจจืดใจดำสักพัก รัศมีความรู้สึกดีๆนั้นก็จะหายไปจากกายใจด้วย

ความรู้สึกภายในกับเหตุการณ์ภายนอกค่อนข้างจะเป็นไปตามกัน ถ้ารัศมีความรู้สึกของคุณดีออกมาจากข้างใน ก็จะมีคนทักทายหรืออยากยิ้มแย้มให้คุณ นั่นแปลว่าถ้าภายในของคุณเป็นมิตรกับโลก โลกภายนอกก็จะเป็นมิตรตอบคุณ

รัศมีความสว่างจากภายในแตกต่างจากการบำรุงผิวให้ ‘ดูขาว’ ที่ภายนอก หากคุณเป็นคนมักโกรธ ชอบพูดหยาบเป็นนิตย์ ต่อให้ดั้งเดิมผิวคุณขาว ในที่สุดก็จะหม่นลง แม้บำรุงด้วยการอาบน้ำแร่แช่น้ำนมให้ขาวสะดุดตา มองใกล้ชิดไปนานๆก็จะรู้สึกว่าไม่ชวนชื่นใจอยู่ดี เว้นแต่คุณมีทุนเก่าหนา คือมีคะแนนบวกที่ตกแต่งผิวพรรณให้งามมากมายเหลือเฟือ อย่างนั้นผลของความมักโกรธและพูดหยาบก็อาจไปปรากฏรวบยอดในชาติถัดไป เป็นผิวหนังหยาบๆดำๆ

สรุปคือแววตาก็ดี รูปตาก็ดี รอยยิ้มก็ดี ความอิ่มเต็มและความเปล่งปลั่งของเนื้อหนังก็ดี ล้วนเป็นเสมือนนิมิตที่ฉายออกมาจากจิต แสดงภาวะของจิต จิตคุณเป็นอย่างไร ตัวตนของคุณที่ปรากฏกับภายนอกก็เป็นอย่างนั้น ความเปลี่ยนแปลงทางกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และไม่สำคัญเท่าการเปลี่ยนแปลงของจิต แต่ก็เป็นเครื่องให้กำลังใจที่ดี เพราะเห็นน้ำเห็นเนื้ออย่างเป็นรูปธรรม น่าพึงใจสำหรับผู้ยังติดอยู่กับรูปของตน



สุขภาพ


เมื่อแน่วแน่ที่จะไม่ฆ่าสัตว์ ตลอดจนเว้นขาดจากการดื่มสุรายาบ้ายาอี รัศมีสุขภาพจะไม่บกพร่องเพราะกรรมอันเป็นปัจจุบัน

แต่รัศมีสุขภาพพื้นฐานอันเกิดจากกรรมฆ่าสัตว์เก่าๆยังอาจรบกวนคุณอยู่ ก็บรรเทาได้ด้วยการปล่อยสัตว์ ยิ่งสัตว์ใหญ่ ยิ่งจำนวนมาก ยิ่งต่อเนื่องนานเท่าไร ก็ยิ่งเห็นผลดีชัดเจนขึ้นเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สุขภาพของคุณจะไม่ดีขึ้นเพียงด้วยการปล่อยนกปล่อยปลา ปล่อยวัวปล่อยควายครบพันตัวหรือหมื่นตัวอย่างเดียว คุณต้องออกกำลังกาย กินอาหารถูกสุขลักษณะ เพื่อให้กระดูกแข็งแรง โครงสร้างร่างกายพื้นฐานแน่นหนาเพียงพอด้วย

มลพิษในปัจจุบันอาจทำให้ยากที่คุณจะหาอากาศดีๆมีความบริสุทธิ์ไว้หายใจ กรรมขาวและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออาจช่วยชดเชยอากาศดีๆได้บ้าง แต่ก็ควรหาโอกาสไปฟอกปอดตามท้องถิ่นที่ปราศจากมลพิษเสมอๆด้วย



ฐานะการเงิน


หากคุณมีฐานะการเงินไม่สู้ดี มีแต่ความอัตคัดติดขัด คุณคงหวังพิสูจน์กรรมวิบากเอากับเรื่องลาภก่อนเพื่อน

การไม่คดโกง ไม่ฉ้อฉล ไม่หลอกลวงเอาเงินใครมาอย่างไร้ความยุติธรรม ผนวกกับการทำบุญกับศาสนาด้วยจิตปรารถนาจะได้ช่วยกันสืบทอดพระศาสนาคนละไม้คนละมือ จะเป็นตัวสร้างรัศมีของผู้มีลาภขึ้นในคุณได้ดีที่สุด และจะเด่นชัดตั้งมั่นเมื่อกรรมขาวดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องนานพอ

หากคุณหวังผลทางลัด เร่งรัดลาภด้วยการเสริมดวงด้วยการตกแต่งโหงวเฮ้ง ฮวงจุ้ย หรือด้วยศาสตร์แห่งเคล็ดลางใดๆ ก็อาจได้ผลในแง่ปรับสภาพผิวนอก ฐานะการเงินก็อาจกระเตื้องขึ้นแบบผิวๆ แต่ไม่มีแรงส่งในระยะยาวอย่างแท้จริง

ลาภลอยไม่จำเป็นต้องมาจากล็อตเตอรี่หรือหวยใต้ดิน ถ้าเงินมาง่ายคุณต้องเตรียมใจว่ามันจะไปง่ายด้วย เพราะลาภลอยไม่มีแรงค้ำจุน แตกต่างจากลาภที่มาจากงานประจำและบุญเก่า

ต้องยอมรับว่าการเป็นลูกจ้างกับการมีกิจการของตัวเองนั้น จะเอื้อให้กรรมสบช่องส่งผลแตกต่างกัน หากเป็นลูกจ้าง แม้กรรมจะช่วยอุดหนุนให้ได้ดีขนาดไหน ก็ไม่มากไปกว่าเพดานเงินเดือนและโบนัสที่คุณมีสิทธิ์จะได้รับเท่าใดนัก แต่หากคุณมีกิจการของตัวเอง ผลกำไรจะขึ้นตรงกับกรรมเก่าและกรรมใหม่

การขยันทำงาน ไม่ใช้จ่ายเกินตัว รู้จักเลี้ยงดูลูกเมียและบริวารให้อยู่ดีตามอัตภาพ รวมทั้งรู้จักแบ่งเก็บหอมรอมริบ ก็เป็นตัวแปรที่จะทำให้ฐานะการเงินของคุณเขยิบขึ้นได้ คือรัศมีของความขยัน ความไม่ประมาท และความรู้จักแจกจ่ายเกื้อกูล จะทำให้ชีวิตโดยรวมไม่ตกที่นั่งลำบากทางการเงิน

คุณไม่อาจกะเกณฑ์ว่าเมื่อนั่นเมื่อนี่จะรวยขึ้น แต่คุณสามารถรู้สึกได้ว่ารังสีของทานและความซื่อสัตย์แข็งแรงหรือยัง ถ้ารู้สึกถึงความตั้งมั่นแข็งแรงในภายใน เหตุการณ์ภายนอกก็จะปรากฏสอดรับกันไปด้วย ตรงข้าม หากอาชีพของคุณคือการหลอกลวงและฉกฉวยประโยชน์จากความไม่รู้ของลูกค้า แม้คุณจะได้เงินมาก เงินนั้นก็จะร้อน ไม่ทำให้คุณนอนสบาย มีเหตุให้ต้องเสียเงินทองอย่างไม่น่าจะเสียอยู่เรื่อยๆ หรือหนักกว่านั้นคือมีเงินแต่รู้สึกเหมือนไม่มี นี่ก็คือความยุติธรรมของกรรมที่คุณประจักษ์กับตัวแต่อาจไม่อยากยอมรับ



คนรัก


แต่ละคนมีแรงดึงดูด หรือพูดง่ายๆว่าเสน่ห์ต้องตาต้องใจเพศตรงข้ามไม่เท่ากัน ปัจจัยที่ทำให้ทรงเสน่ห์มีอยู่มาก ต้องยอมรับว่ามนุษย์เราหลงรูป ยึดติดในลักษณะต้องตาก่อนอื่นใด ซึ่งก็สะท้อนให้เห็นว่าแรงส่งของกรรมเก่ามีอิทธิพลสูง ใครเคยทำทานด้วยศรัทธา เคยรักษาศีลด้วยความแน่วแน่ ชาติถัดมาก็เอารูปร่างหน้าตาดีๆไว้ใช้ล่อตาล่อใจใครต่อใครสบายไป

อย่างไรก็ตาม เสน่ห์ที่จับใจคนในระยะยาวมิใช่รูปร่างหน้าตา ทว่าเป็นน้ำใจ ความเมตตา ความรู้จักพูด ความเชื่อมั่น ตลอดจนท่วงทีกิริยา แม้แต่คนที่มีบุญเก่าทางรูปร่างหน้าตาไม่ดีนัก ก็สามารถเพิ่มแรงเสน่ห์อันเป็นภายในได้ในชั่วเวลาที่ปรับเปลี่ยนนิสัยบางอย่างให้ตั้งมั่น ในทางตรงข้าม แม้สวยหล่อเลิศเลอแต่หน้าดำคร่ำเครียดกับเรื่องตกต่ำทั้งหลาย ทั้งเหล้า ทั้งการพนัน ทั้งคำพูดคำจาสารพัดพิษ ก็ทำบุญเก่าทรุดโทรมลง หรือแม้รูปร่างหน้าตายังดีก็ไม่มีใครอยากเข้าใกล้คน ‘กรรมเหม็น’

น้อยคนที่ทราบความลับประการหนึ่งของเกมกรรม นั่นคือเสน่ห์มิได้อยู่แค่ที่รูปร่างหน้าตา ท่วงทีกิริยา และการพูดการจาเท่านั้น ทว่ายังตั้งต้นออกมาจาก ‘วิธีคิด’ อันเป็นของภายในเลยทีเดียว กระแสความคิดจะถักทอรัศมีออกมาเสมอ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนั่งนิ่งๆอยู่ใกล้บางคนแล้วคุณฟุ้งซ่านจับจดตามเขา ขณะที่กับอีกคนคุณรู้สึกมีสติ มีความกระตือรือร้น มีความคิดด้านบวก

คนฟุ้งซ่านมากๆจะขาดเสน่ห์ในกระแสความคิด ส่วนคนคิดได้เป็นระเบียบ และคิดได้อย่างคนตื่นตัวกระตือรือร้น จะก่อรังสีเสน่ห์ในตัวเองโดยยังไม่ทันต้องพูด นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนสัมผัสได้ รู้ประจักษ์ได้ด้วยตนเอง ทว่าไม่มีใครสังเกตกันชัดๆ

อย่างไรก็ตาม เสน่ห์เป็นแค่แรงดึงดูด ไม่ใช่ใบรับประกันว่าคุณจะพบกับคนรักถูกใจ การพบคนรักที่คุณจะรักดูดดื่มจริงๆยังอิงอาศัยเหตุปัจจัยมากกว่าเสน่ห์ เช่นอดีตชาติเคยอยู่ร่วมกันมา และปัจจุบันชาติได้มีโอกาสเกื้อกูลกันระยะหนึ่ง เพราะฉะนั้นอย่าหวังว่ากรรมใหม่ประการเดียวจะช่วยให้คุณพบรักที่หวานซึ้งได้เหมือนฝัน แต่ให้หวังว่าเสน่ห์จะไม่ทำให้คุณเงียบเหงา และในที่สุดจะดึงดูดคู่ที่เคยร่วมบุญให้ได้มาพบกัน



ที่อยู่อาศัย


การเปลี่ยนบ้านใหม่เป็นตัวอย่างที่ดีของการเปลี่ยนภพเปลี่ยนภูมิ เพราะที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมจะเป็นตัวกำหนดว่าทุกๆวันคุณจะรู้สึกเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ประมาณใด ระยะแรกอาจปีติโสมนัสหรือผ่องใสกับความใหม่ของบ้านมาก และแม้ระยะต่อมาจะเริ่มชาชิน แต่ก็มีความสุขความพอใจในที่อยู่เป็นพื้นฐาน

บุญจะไม่ลงมือก่ออิฐถือปูนสร้างบ้านสวยๆให้คุณอยู่ แต่บุญจะทำให้คุณมีสิทธิ์ได้อยู่บ้านสวยๆในทำเลเหมาะๆ บ้านที่เป็นบ้านของคุณอย่างแท้จริงนั้น อาจเป็นเงาสะท้อนของตัวคุณเอง เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในกระจกเงา แต่ตั้งอยู่บนที่ดินผืนที่คุณมีสิทธิ์เป็นเจ้าของ

ถ้าจิตและกรรมของคุณแตกต่างไปมากๆ กระทั่งบ้านเก่าของคุณรองรับไม่ไหว จะมีเหตุบีบคั้นให้หาบ้านใหม่ และมักเป็นบ้านที่สอดคล้องกับจิตและกรรมใหม่ของคุณโดยตรง ฉะนั้นเมื่ออยู่บ้านใหม่คุณจะรู้สึกไม่แปลกแยก ไม่ผิดที่ผิดทาง ภายในสองสามวันจะมีความเป็นกันเองกับบ้านราวกับอยู่ที่นั่นมาตลอด

ต้องเข้าใจว่าภาวะความร่ำรวยไม่ได้วัดจากคฤหาสน์หรือปราสาทราชวังหลังโตใดๆ แต่วัดจากความเปี่ยมสุขที่มีจากสมบัติและสิ่งแวดล้อม ในเมื่อบ้านเป็นตัวคุณ สิ่งแวดล้อมของบ้านมีผลกับคุณ ถ้าคุณย้ายบ้านก็คือเปลี่ยนหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่สุดของชีวิต

การจะมีกำลังเปลี่ยนบ้านนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องเงินอย่างเดียว บางคนแม้อาศัยศาสตร์เช่นฮวงจุ้ยมาช่วยเลือกบ้านให้ชะตาดีขึ้น ทั้งตำแหน่งที่ตั้ง ทั้งทิศทาง ทั้งรูปลักษณะบ้าน ทั้งสิ่งแวดล้อม ฯลฯ แต่ในเมื่อละกรรมเดิมไม่ได้ก็ไม่พ้นต้องเจออะไรแบบเดิมๆอยู่ดี แค่พลิกเหลี่ยมพลิกมุมชะตาเพียงเล็กน้อยจนเหมือนอะไรๆกระเตื้องขึ้นไม่นาน ก็ต้องกลับเป็นเหมือนเมื่อครั้งอยู่บ้านเดิมอีก

ยิ่งคุณทดลองใช้ศาสตร์เกี่ยวกับเคล็ดลางมาช่วยมากขึ้น คุณจะยิ่งพบว่าถ้าไม่มีอะไรกระตุ้นให้คุณเปลี่ยนแปลงจิตใจ วิธีคิด วิธีพูด และวิธีทำ กระทั่งเกิดนิสัยใหม่ตั้งมั่น ชะตาชีวิตของคุณจะย่ำอยู่ในวงจรเดิมๆเสมอ เมื่อภายในอันเป็น ‘ผู้สร้างบ้าน’ ที่แท้จริงของคุณเปลี่ยนแปลง แม้คุณไม่ย้ายบ้าน บ้านเดิมก็จะเกิดการดัดแปลงบางอย่างให้เข้ากับกรรมใหม่ของคุณไปเอง เช่นความ ‘หนัก’ ของคานอัปมงคลบางคานจะเบาลง สัมผัสได้ด้วยจิตของผู้ที่รู้ได้ หรือไม่ก็จะมีเหตุให้ตกแต่งต่อเติม และปรับปรุงลักษณะบ้านให้มีลักษณะเข้าที่เข้าทาง เข้าทิศเข้ามุมดีขึ้นโดยที่คุณไม่ต้องตั้งใจแต่อย่างใดเลย

โดยทั่วไปหากคุณเป็นเจ้าของบ้านใหม่ หรือมีอิทธิพลครอบครองดูแล บ้านจะสะท้อนกรรมให้เห็นชัดประการหนึ่ง คือคุณทำความพอใจให้คนอื่นไว้อย่างไร บ้านและสิ่งแวดล้อมก็จะให้ความพอใจกับคุณอย่างนั้น คุณจะไม่สามารถชอบบ้านที่เข้ากับกรรมของคุณไม่ได้ แม้ฝืนเข้าไปอยู่ก็จะเหมือนคับใจ หรือถูกผลักไสออกมา

เมื่อเห็นตัวอย่างของการเปลี่ยนบ้าน ก็จะอนุมานการเปลี่ยนภพของตัวเองในเกมกรรมใหม่ได้ แต่ขอให้ทราบว่าถ้าบุญของคุณถึงสวรรค์ บ้านหรือปราสาทราชวังไหนๆในโลกมนุษย์ก็ยากจะทำให้คุณรู้จริงๆว่าที่อยู่ในอนาคตควรแก่การพิสมัยสักขนาดไหน

เหตุปัจจัยที่เป็นตัววาดแผนผัง.


๑) ความสม่ำเสมอ

ความสม่ำเสมอของกรรมจะเป็นตัวบอกว่าคุณตัดสินใจเลือกเป็นใครคนหนึ่งแน่ๆ มีเส้นทางเดียวแน่ๆ นิสัยใดของคุณตั้งมั่นตลอดชีวิต นิสัยนั้นจะติดตัวตามไปถึงชาติต่อๆไปอย่างแน่นอน

ความตั้งมั่นของนิสัยใจคอคุณที่รักษาได้ตลอดชีวิตเพียงชาติเดียว จะเอาชนะได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครูในชาติหน้า หรือข้อบีบคั้นต่างๆให้เปลี่ยนแปลง เช่นถ้าคุณยึดมั่นในความถูกต้องดีงาม แม้ต้องโดนความผูกพันอันเหนียวแน่นดึงให้ไปเกิดกับพ่อแม่ที่เลว หรือพบครูที่สอนผิดๆ คุณก็นึกค้าน เพราะบุญเก่าจะเป็นสัญญาณนำร่องให้คิดได้เองตั้งแต่เด็กๆ แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ ที่เมื่อทำบาปแล้วตกอยู่ในสิ่งแวดล้อมเลวร้ายแบบไหนก็กลายเป็นคนเลวร้ายแบบนั้น

อย่างไรก็ตาม กรรมมีหลายแบบ คุณตั้งมั่นในกรรมได้หลายๆชนิด ฉะนั้นผังกรรมใหม่ของคุณในอนาคตย่อมไม่ตื้นเขิน เส้นทางชีวิตและสิ่งที่คุณจะพบตามทางขึ้นอยู่กับกรรมที่ทำอย่างสม่ำเสมอทั้งหลายก่อน ตัวคุณในชาติหน้าอาจคิดว่าเป็นฟ้าลิขิต เป็นเทวดาบันดาล หรือเป็นความเคราะห์ดีเคราะห์ร้ายที่ปราศจากเหตุผล ทั้งที่คุณเองคือสถาปนิก คือวิศวกรสร้างผังกรรมทั้งสิ้น

กรรมที่ทำสม่ำเสมอส่วนใหญ่จะให้ผลทั้งชาตินี้ชาติหน้า แต่บางอย่างอาจให้ผลน้อยในโลกนี้เพราะติดเงื่อนไขทุนเดิม แต่ก็จะให้ผลมากในโลกหน้าวันยังค่ำ ยกตัวอย่างเช่นคุณอยู่ในถิ่นทุรกันดาร มีสมบัติน้อย มีข้าวปลาบริโภคน้อย แต่ใจใหญ่ ชอบให้อาหารหมาแมวไก่กา ตลอดจนเอื้อเฟื้อน้ำท่าให้เพื่อนบ้านเป็นประจำด้วยน้ำใจอยากอนุเคราะห์จริงๆ ทุนเก่าของคุณกับคะแนนใหม่ที่ไม่แรงพอ จะไม่ทำให้คุณพ้นจากสภาพความยากจนทันตา ทว่าเมื่อสิ้นสุดชีวิตนี้ ความเป็นคนใจกว้างจะทำให้คุณได้อยู่ในภพใหม่ที่กว้างขึ้น สว่างสบายและมั่งคั่งขึ้น

แน่นอนว่าหากกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกในทันที คุณจะไม่มีความตกใจ เพราะทุกสิ่งจะเริ่มต้นใหม่หมด นับแต่การลบความจำ การค่อยๆเห็นตนเองเติบโตมาในบ้านที่มีข้าวปลาอยู่ในครัวให้กินไม่จำกัด แต่หากคุณไปเกิดบนเทวโลก คุณจะรู้สึกเหมือนฝันร้ายที่พลิกเปลี่ยนเป็นฝันดีทันทีอย่างน่าตื่นใจ



๒) กรรมที่ทำด้วยเจตนาหนักแน่นเป็นพิเศษ

ความรุนแรงของเจตนาจะย้อนกลับมาเป็นความรุนแรงของสิ่งกระทบเช่นกัน จะเห็นว่าคนเราแม้ทำกรรมชนิดเดียวกันเป็นประจำ แต่ก็มีเจตนาหนักเบาผิดแผกแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นผลก็ย่อมหนักเบาและมีความไม่สม่ำเสมอตามไปด้วย โดยมากผังกรรมใหม่ของคนส่วนใหญ่แม้มีอะไรๆให้คุณเจอซ้ำๆอยู่ร่ำไป ก็มีความน่ายินดียินร้ายที่ผิดแผกแตกต่างในด้านน้ำหนัก แต่ก็จะมีบางคน เจอดีเจอร้ายหนักหนาสาหัสตลอดชีพ นั่นก็สะท้อนว่าน้ำหนักเจตนาของเขาในอดีตชาติคงเส้นคงวาผิดมนุษย์มนาเช่นกัน



๓) กรรมที่ทำด้วยความเพียรนานเป็นพิเศษ

ความเพียรหมายถึงความใส่ใจหรือความพยายามอย่างต่อเนื่อง ผลจะมาในรูปของความยืดเยื้อในการให้ผล หากเกิดใหม่บนสวรรค์หรือนรก จะมีอายุขัยยืนนาน และเมื่อยังต้องท่องเที่ยวเกิดตายอีกหลายครั้ง กรรมนี้ก็จะมีส่วนจัดผังชีวิตด้วยร่ำไป ไม่หมดไม่สิ้นโดยง่าย แม้บางชาติจะไม่ทำกรรมนี้เลยก็ตาม

ยกตัวอย่างเช่นบางคนจะมีนิสัยประเภทจะทำทานต่อเมื่อพบสมณะที่น่าศรัทธา เผอิญชาติหนึ่งมีวาสนาพอจะพบพระพุทธเจ้าและอริยสาวก บังเกิดความเลื่อมใสเป็นล้นพ้น ก็ขวนขวายเพียรใส่บาตร เพียรอาสารับใช้หรือจัดหาสิ่งของให้พวกท่านตลอดชีวิต สะสมคะแนนความเพียรไว้อย่างล้นหลามเกินประมาณถูก

เช่นนี้แม้ชาติต่อๆมาจะเป็นเศรษฐีขี้ตืด ไม่ค่อยบำรุงศาสนา เพราะไม่พบนักบวชที่น่าเลื่อมใสพอ อย่างมากก็ให้ทานคนยากคนจนบ้าง ไม่ได้ทำทานที่มีความสว่างรุ่งเรืองใหญ่หลวง แต่ผลที่เคยถวายสังฆทานชั่วชีวิตด้วยพากเพียรสม่ำเสมอเพียงชาติเดียว ก็จะส่งให้ได้เป็นเศรษฐีใหญ่ทุกครั้งที่เกิดในภพมนุษย์ และเป็นเทวดาผู้มีสมบัติทิพย์มหาศาลทุกครั้งที่เกิดบนสวรรค์



๔) กรรมที่ทำด้วยโสมนัสแรงเป็นพิเศษ

โสมนัสคือเครื่องวัดว่ากรรมที่ทำในครั้งหนึ่งๆมีความใหญ่ในตัวของกรรมเองเพียงใด เพราะจิตและเจตนาในการทำกรรมย่อมปรุงแต่งให้เกิดโสมนัสผิดแผกกันไป

หากโสมนัสในการทำกรรมมีความแรงเป็นพิเศษ ไม่ว่าเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว การเสวยผลจะเป็นไปด้วยความยิ่งใหญ่ กว้างขวาง หากเป็นโสมนัสในกรรมขาว ผลจะน่าชื่นใจแจ่มชัดยิ่ง เช่นการถวายสังฆทานด้วยโสมนัสแรงทุกครั้ง จะทำให้คุณเกิดใหม่ในที่ที่มีสมบัติบันดาลปีติ น่าพิสมัยยากแก่การเบื่อหน่าย

แต่หากเป็นโสมนัสในกรรมดำ ผลก็จะน่าขนพองสยองเกล้ายิ่ง เช่นถ้าคุณแค้นศัตรูคนหนึ่งชนิดฝังกระดูก วันใดสบโอกาส ได้ฆ่าเขาด้วยวิธีตัดมือตัดเท้าทิ้งทีละชิ้น แถมก่อนสิ้นใจบังคับให้เขาดูภรรยาถูกข่มขืนฆ่าอย่างทรมาน แล้วคุณเกิดความปลื้มใจที่ล้างแค้นสำเร็จ ความปลาบปลื้มนั้นคือโสมนัสอย่างแรงเป็นพิเศษในกรรมชั่วที่ใหญ่หลวง เมื่อให้ผลในที่เกิดใหม่จะทำให้คุณต้องเผชิญกับเรื่องโหดร้ายนานัปการ แม้หมดกรรมในนรก มีโอกาสมาเป็นมนุษย์อีก ก็เหมือนทั้งชีวิตจะต้องหัวซุกหัวซุนหลบหนีการไล่ล่าที่เหี้ยมเกรียมร่ำไป คุณมีสิทธิ์ถูกเกมกรรมทรมานด้วยการเหวี่ยงไปเป็นนักโทษที่ผู้คุมไม่ยอมให้ ตายดี และแม้คิดฆ่าตัวตายก็ทำไม่ได้ พูดง่ายๆว่าผังชีวิตจะถูกวาดให้เจอแต่เคราะห์ร้ายน่าสยดสยอง ได้รับความทรมานกายและเจ็บช้ำน้ำใจเกินจินตนาการ



๕) กรรมที่ทำกับบุคคลพิเศษ

แต่ละคนเป็นเป้าให้เกิดการขยายผลกรรมมากน้อยต่างกัน เช่นถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีนิสัยนักเลง แล้วก็ไม่ได้อ่อนน้อมถ่อมตนเป็นพิเศษ แต่บังเอิญเคราะห์ร้ายที่มีคู่เวรคนหนึ่งไปบวชพระ แล้ววาสนาบารมีพอจะบรรลุมรรคผล อย่างนี้พอคุณเจอท่านขณะเป็นอริยบุคคลแล้ว และคุณไปกร่างใส่ท่านแค่ครั้งสองครั้ง น้ำหนักรรมดำก็อาจจะมากขนาดกลายเป็นตัวกำหนดรูปพรรณสัณฐานในอนาคต เช่นตัวเตี้ย มีลักษณะต่ำต้อยน่าดูถูก กับทั้งมีอำนาจน้อย

ตรงข้าม หากคุณชอบกร่าง ประมาณว่าชอบยกตนข่มท่านหรือแสดงท่ายิ่งใหญ่ อาจมีรังแกชาวบ้านเล็กน้อย แต่กับพระสงฆ์องค์เจ้าที่น่าเลื่อมใสแล้วก้มกราบแทบเท้าทุกครั้ง ไม่ทำตัวผยองเลย อย่างนี้กรรมขาวอาจมีน้ำหนักเกินกรรมดำ คือจะมีร่างกายสูงสง่าไม่อายใคร แต่อาจมีอำนาจไม่มากสมความสง่าของร่าง ผังชีวิตมักถูกจัดให้เป็นใหญ่ต่อเมื่อตั้งใจนำงานบุญ แต่ถ้าเป็นงานทางโลกจะไม่ค่อยมีใครให้ตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ

ทั้งบุญทั้งบาป เมื่อทำกับคนทุศีล จะมีผลน้อยกว่าทำกับคนมีศีล

เมื่อทำกับคนมีศีล จะมีผลน้อยกว่าทำกับอริยเจ้าชั้นต้นๆ

เมื่อทำกับอริยเจ้าชั้นต้นๆ จะมีผลน้อยกว่าทำกับอริยเจ้าชั้นสูงเช่นพระอรหันต์

เมื่อทำกับพระอรหันต์ จะมีผลน้อยกว่าทำกับพระปัจเจกพุทธเจ้าผู้บรรลุธรรมด้วยพระองค์เอง

เมื่อทำกับพระปัจเจกพุทธเจ้า จะมีผลน้อยกว่าทำกับพระพุทธเจ้าผู้สถาปนาศาสนาพุทธได้



๖) กรรมที่ทำกับมหาชน

มหาชนคือคนจำนวนมากอันไม่ทราบแน่ว่าเท่าใด จัดเป็นกรรมที่ทำแบบไม่เลือกหน้า เมื่อให้ผลก็ย่อมใหญ่หลวงกว่ากรรมที่ทำเฉพาะคน

กรรมขาวที่ทำกับมหาชนแล้วมหาชนได้รับประโยชน์สุข จะส่งผลให้เป็นคนมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง คือต่อให้ชาตินี้คุณทำดีแบบปิดทองหลังพระ ไม่มีใครรู้เลยว่าเบื้องหลังประโยชน์สุขของมวลชนคือใคร หน้าตาชื่อเสียงเรียงไร แต่คุณทราบแก่ใจว่าสิ่งที่คุณทำไปนั้น เป็นผลดีอย่างชัดเจนกับสังคมหมู่มาก อย่างนี้ชาติถัดไปคุณก็จะฉายรัศมีเด่นเป็นที่ยอมรับกว้างขวางอยู่ดี

ตรงข้าม กรรมดำที่ทำกับมหาชนนั้น จะแปรรูปเป็นคลื่นชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดความรู้สึกเหม็นหน้า ใครเจอก็หมั่นไส้ และมักมีเหตุให้คุณต้องตกไปอยู่ในสภาพให้คนชิงชังมากๆเสียด้วย แม้ว่าคุณจะพยายามทำดี อยากอยู่ในสังคมเยี่ยงคนปกติ สังคมก็มักมาพาลใส่ หรือไม่ก็จับคุณเป็นเป้ายำสหบาทาได้ง่ายๆ โดยไม่มีใครเห็นใจสงสารเสียด้วย



๗) กรรมที่ทำกับวัตถุพิเศษ

วัตถุในที่นี้หมายถึงสิ่งที่ทำไว้เป็นเครื่องหมายยึดเหนี่ยวจิตใจ หรือเป็นศูนย์รวมความเคารพศรัทธา เช่นพระพุทธรูป หรือรูปเคารพของศาสนาทั้งหลาย เมื่อทำด้วยใจที่รู้ว่าเป็นการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ย่อมได้รับผลร้ายเกินคาด เช่นเกิดในตระกูลต่ำ โดนดูถูกดูแคลน ค่าที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ฉะนั้นต้องทำความเข้าใจว่าวัตถุไม่ใช่สักแต่เป็นก้อนดินก้อนหินเท่าๆกัน วัตถุที่มีผลทางใจมากย่อมมีพลังสะท้อนในตัวเองมากไปด้วย



เตรียมพร้อมสำหรับเกมหน้า

ทุกคนที่อ่านนี้ คือผู้ถูกกำหนดไว้ให้ตายทั้งหมดทั้งสิ้น เหมือนนักโทษที่ถูกพิพากษาให้รับโทษประหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยมีความผิดอุกฉกรรจ์สถานเดียวคือไม่รู้ตัวว่ากำลังเล่นเกมกรรม ต้องสั่งสมคะแนน ต้องใช้หนี้ ต้องหาทางหนีเอาตัวรอด

แม้ยังไม่เชื่อสนิทเพราะยังไม่เห็นแจ้งด้วยตนเอง อย่างไรก็ต้องเผื่อขาดเผื่อเหลือไว้บ้าง ไม่ใช่เข้าข้างตัวเอง นึกว่าเมื่อไม่เชื่อก็แปลว่าชาติหน้าคงไม่มี คนฉลาดถูกหลอกให้ศึกษาเรื่องกำเนิดของจักรวาล ถูกหลอกให้คิดเก็งกำไร ถูกหลอกให้คิดพัฒนาเทคโนโลยีเสริมกิเลส ยากจะหันมาสนใจใช้เทคโนโลยีสำรวจความจริงเกี่ยวกับจิตและกรรม โลกจึงเหมือนกระดานลื่นที่ลาดลงต่ำง่ายมากๆ เพราะเต็มไปด้วยคนฉลาดเรื่องนอกตัว แต่หลงเขลาเกี่ยวกับเรื่องในตัวกันแทบทั้งสิ้น

ผู้มีปัญญาย่อมเห็นความไม่แน่นอน เห็นตามจริงว่าแรงดึงดูดของกิเลสนั้นต้านทานได้ยาก แม้แต่อยู่เฉยๆก็เท่ากับกำลังถอยหลังเข้าคลองไปเรื่อยๆ จึงควรปรารถนาหลักประกันในการเดินทางไกลกัน

หากคุณศึกษาแก่นสารของพุทธศาสนาได้อย่างถ่องแท้ ศรัทธาในพระพุทธเจ้าก็จะตั้งมั่น และจะส่งผลให้ได้ไปพบพระพุทธเจ้าองค์ต่อๆไปอีกและจะชี้ให้รู้ตามว่า

๑) กรรมขาวคือบุญที่ทำแล้วเป็นประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ให้ผลเป็นสุข

๒) กรรมดำคือบาปที่ทำแล้วเป็นโทษแก่ตนและคนอื่น ให้ผลเป็นทุกข์

๓) กรรมครึ่งขาวครึ่งดำคือบุญที่เจือบาป ให้ผลครึ่งสุขครึ่งทุกข์

๔) กรรมไม่ขาวไม่ดำคือเจริญสติรู้เท่าทันเหตุแห่งทุกข์ ให้ผลเป็นนิพพาน

ทุกครั้งที่สำนึกผิดอย่างแท้จริง คุณจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นคนดีมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะทีละนิดทีละหน่อยแบบหยอดเหรียญลงกระปุก ในที่สุดก็กลายเป็นความดีกองใหญ่ขึ้นมาได้

คนเราเป็นโรคทางใจตลอดเวลา ต่อให้แสนดีแค่ไหน พอทำดีมาถึงจุดหนึ่งคุณจะเป็นโรคหลงตัว โรคนี้เองทำให้ผลดีกลับไม่ดีเต็มที่ เช่นคุณไปอิจฉาริษยาหรือแข่งขันกันกับคนดีมีบุญด้วยกัน ก็กลายเป็นความหายนะของฝ่ายขาวด้วยกัน แต่หากปลูกฝังความสำนึกผิดไว้แต่เนิ่นๆ ตั้งแต่คุณยังไม่ใช่คนแสนดีที่หลงตัว ไม่ว่าคุณไปสูงแค่ไหนก็จะมีเครื่องฉุดมิให้ลอยตามลมเป็นว่าวขาดสายตลอดกาล

บทสรุปของการมีชีวิตที่คิดไม่ถึง


๑) มองชีวิตเป็นเกม เกมกรรมคือเกมแห่งการปกปิด ไม่ใช่เปิดเผย คุณต้องศึกษา ต้องใส่ใจรายละเอียด โดยเอาชีวิตของตนเองเป็นที่ตั้งของการศึกษาอย่างสำคัญ และมีชีวิตของคุณเอง ซึ่งไม่ใช่เพียงชีวิตเดียวเป็นเดิมพัน



๒) อ่านเกมให้ออก แค่เริ่มเล่นเกมคุณก็มีหนี้แล้ว ไม่ใช่ไม่มี เกมเต็มไปด้วยแรงบีบคั้น คุณต้องทนแรงยั่วยุให้ได้ นโยบายที่ควรจำให้ขึ้นใจคือลดแต้มลบให้เหลือน้อยที่สุด เพิ่มแต้มบวกให้ได้มากที่สุด อย่าคิดว่าเกมกรรมเป็นเกมตื้นๆ ปลูกโพธิ์วันนี้พรุ่งนี้ได้อาศัยร่มเงาทันใจ อย่าไปคิดว่ากรรมจะล้าสมัย คุณเห็นโลกเลวร้ายก็ไม่จำเป็นต้องร้ายตามเขา ถ้าทำดีอยู่ในเขตเล็กๆของคุณ เดี๋ยวเขตเล็กๆนั้นก็จะน่าอยู่ หรือแปรเป็นโลกใหม่ที่สุขสงบเป็นส่วนตัวได้



๓) พยายามหยุดเล่นเกมเสีย

เกมกรรมเป็นเกมแห่งความสูญเปล่า เล่นด้วยความเจ็บปวด เพื่อผลเป็นทุกข์น่าเหน็ดหน่ายยืดเยื้อไม่จบไม่สิ้น คุณไม่มีทางหนีนรกพ้นถ้าคิดเล่นเกมไปเรื่อยๆ วันหนึ่งต้องแพ้ แต่ถ้าอย่างน้อยชาตินี้คุณเห็นความจริง เห็นคุณค่าของการหยุดเกม ชาตินี้คุณจะเล่นเกมอย่างมีเป้าหมาย มีสาระแก่นสารถึงที่สุด



ณ ตอนนี้ เวลานี้มีแต่บทต่อไปในชีวิตจริงของคุณเอง ที่เหลือเวลาน้อยเกินกว่าจะศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับเกมกรรมอันวิจิตรพิสดารทั้งหมด จึงควรรวบรัดตัดความ ศึกษาและลงมือยุติเกมหฤโหดนี้เลยดีกว่า เพราะมีสิทธิ์ทันก่อนจะต้องเริ่มเกมใหม่ด้วยความไม่รู้อีก


ที่มา หนังสือมีชีวิตที่คิดไม่ถึง โดย ดังตฤณ
จาก: FW mail
__________________


ขอความสุข ความเจริญในธรรม จงมีแด่ทุกท่าน เทอญ

Submit "ศาลาริมทางกับเรื่องเล่า" to แชร์ไปที่ Facebook Submit "ศาลาริมทางกับเรื่องเล่า" to แชร์ไปที่ Twitter Submit "ศาลาริมทางกับเรื่องเล่า" to แชร์ไปที่ Printerest

Comments

Trackbacks

Total Trackbacks 0
Trackback URL: