สาวชัยภูมิ ลูกพ่อขุน
ลีซาน 1 (หีบลิขิตชีวิต)
by
, 18-11-2013 at 20:35 (4196 เปิดอ่าน)
พระเจ้ายองโจพระราชาลำดับที่ยี่สิบ เอ็ดของราชวงศ์โชซอน ทรงปกครองแว่นแคว้นให้เจริญรุ่งเรือง สร้างความเกรียงไกรทั่วทั้งแผ่นดิน แต่ในทางกลับกันในราชสำนักกลับเต็มไปด้วยการแก่งแย่งอำนาจ
พระเจ้ายองโจทรงคุมขังองค์รัชทายาท ไม่เพียงเท่านั้นพระองค์ยังทรงมีรับสั่งให้โบยตีรัชทายาทอย่างหนักอีกด้วย
“นั่น แนซอนใช่ไหม”
“ฮือ องค์ชาย ฮือ พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันคือแนซอน องค์ชาย
ไม่ทราบว่า ฮือ ยังพอทนไหวมั้ยพ่ะย่ะค่ะ ฮือ”
“ข้า ข้ายังไม่เป็นไร”
” นี่เป็นวันที่หกแล้ว ที่ไม่ได้เสวยอะไรเลย ฮือ ทำไมมีเรื่องโหดร้ายแบบนี้เกิดกับพระองค์ได้ ฮือ องค์ชาย ฮือ ทรงอดทนอีกหน่อยเถอะนะ หม่อมฉันจะหาวิธี ช่วยองค์ชายออกมาให้ได้ ฮือ”
” แนซอนๆ ข้า มีของอย่างหนึ่ง จะฝากไปถวายเสด็จพ่อ เฮ่อ เจ้าได้ยิน ที่ข้าพูดมั้ย เฮ่อ หึ ก่อนข้าจะตาย ยังไงก็ต้อง ไปถวายเสด็จพ่อให้ได้ล่ะ”
“พ่ะย่ะค่ะ เชิญรับสั่งมาได้ ฮือ หม่อมฉันจะนำไปถวายเอง แม้จะแลกด้วยชีวิตก็ตาม หม่อมฉันจะถวายให้ได้ ฮือ โอ๊ะ”
ทุกคนตกใจ องครัชทายาทรีบถาม “เกิดอะไรขึ้น แนซอนๆ เกิดอะไรขึ้นกับแนซอนใช่ไหม หา”
แนซอนสั่งทุกคน “ฮึ่ม หึ ทุกคนห้ามถอยหลัง”
“ฝ่าบาทมีรับสั่งห้ามมาเข้าใกล้แถวนี้ ท่านเป็นมหาดเล็กกล้าขัดพระบัญชาเชียวหรือ” นายกองว่าแนซอน
“หึ ถือว่าขอร้องล่ะ ให้ข้าป้อนน้ำซักถ้วย ให้องค์ชายได้เสวยหน่อยเถอะ จากนั้น พวกเราทุกคนจะยอมทิ้งอาวุธ ยอมให้จับแต่โดยดี”
“ใครบอกว่าจะจับพวกเจ้า ฮึ่ม”
” ทำไม กลัวว่าถ้าปล่อยข้าไว้ เรื่องที่องค์ชายถูกปรักปรำจะรู้ไปถึงคนนอกหรือไง หึ เจ้าก็เป็นฝ่ายพวกมันด้วยหรือ มันเป็นใคร ถึงกล้ายุยงให้ฝ่าบาทและรัชทายาททรงบาดหมาง ทำให้รัชทายาทของเราต้องมารับกรรมในสภาพแบบนี้”
“หุบปาก อย่าปล่อยพวกมันไว้ จัดการ”
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน
” นั่นเป็นวันที่ 19 เดือน 5 ปี “ยิมบู” เป็นวันที่รัชทายาท “ซาโต” ถูกเสด็จพ่อของพระองค์คือ “พระเจ้ายองโจ” กักขังในลังไม้ล่วงเข้าสู่วันที่ 6 พระเจ้ายองโจนั้น หลังจากทรงเถลิงราชสมบัติเป็นพระราชาองค์ที่ 21 แห่งโชซอน ก็ได้ทรงนำความผาสุกและเจริญรุ่งเรืองมาสู่บ้านเมืองเป็นอย่างมาก แต่ว่า การแก่งแย่งชิงดีระหว่างขุนนาง ทั้งสายเก่าและสายใหม่ ยังคงคุกรุ่นไม่สร่างซา พาให้การเมืองในยุคนั้นมีความซับซ้อนอย่างมาก ระหว่างนั้น มีเหล่าขุนนางสายใหม่ที่อาศัยบารมีของรัชทายาท หวังยึดอำนาจบริหารมาอยู่ในกลุ่มของตนให้มาก แต่ฝ่ายที่ต่อต้านเกรงจะสูญเสียอำนาจ จึงตั้งข้อหาให้ร้ายรัชทายาท เป็นเหตุให้พระเจ้ายองโจทรงกริ้ว ด้วยเหตุนี้ ทำให้รัชทายาทเริ่มเกิดความไม่พอพระทัย ถึงขนาดไม่กล้าเข้าเฝ้าเสด็จพ่อคือพระเจ้ายองโจอีก จากนั้นไม่นาน องค์ชายซาโตก็ถูกจับไปขังในลังไม้ ด้วยข้อหาที่ไม่เป็นธรรมต่อพระองค์”
” วันนั้น คือวันที่ 19 เดือน 5 ปี 1762 รัชทายาทถูกขังอยู่ในลังไม้ ทรงพยายามต่อสู้กับความสิ้นหวังและเจ็บปวด แต่ดูเหมือนว่า ความตายจะค่อยๆ คืนคลานเข้ามาอย่างช้าๆ และเงียบๆ และวันต่อมา เป็นวันที่โชคชะตา ได้ลิขิตชีวิตข้าใหม่ อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว”
องค์ชายลีซานโอรสองค์รัชทายาทซาโตลอบเข้าไปในที่คุมขังเพื่อพบองค์รัชทายาทซาโตผู้เป็นพ่อในยามวิกาล
ซอง ซงยอนถือกำเนิดในครอบครัวซึ่งพ่อเป็นจิตรกรวังหลวง ด้วยเหตุนี้จึงมีโอกาสได้ติดตามพ่อเข้าวังหลวงบ่อยครั้ง จากความช่วยเหลือของญาติพี่น้องทำให้นางได้เข้าวังหลวงอย่างเป็นทางการ
ตกดึก นางกำนัลวังหลวงมีคำสั่งให้ซงยอนไปนำอาหารในห้องครัวออกมา ทำให้ซองซงยอนซึ่งเพิ่งเข้าวังหลวง ได้ไม่นานนักหลงทาง
ใน เวลาเดียวกันนั้นเอง ปาร์คเทซูซึ่งเข้ารับการอบรมจากกรมมหาเล็กนั้นเกิดความหวาดกลัว ที่จะต้องเป็นขันที ด้วยความหวาดกลัวจึงทำให้เทซูตัดสินใจหลบหนีไปจากวังหลวง
ในคืนเดียว กันนี้เอง เทซู องค์ชายลีซานและซองซงยอนซึ่งมีเป้าหมายที่แตกต่างกันนั้นได้พบกันเข้าโดย บังเอิญ องค์ชายลีซานบอกให้ทั้งสองคุกเข่า
“อะไรนะ”
“หึ ยังไม่เข้าใจอีกหรือ ข้าบอกให้คุกเข่าไงล่ะ”
ลี ซานฟังซองซงยอนเล่า “จริงหรือ แสดงว่ารุ่นพี่ของเจ้าทำไม่ถูก แต่ยังไงก็ตาม การออกมาเดินในวังตอนกลางคืนก็ถือว่าผิดกฎ ทีหลังต้องระวังตัวหน่อย เข้าใจมั้ย แล้วเจ้าล่ะ ออกมาทำอะไร หัวหน้าเจ้าสั่งให้หาของกินตอนกลางคืนเหมือนนางหรือไง”
“ข้า ข้าน่ะหรือ ข้าเพียงแต่ ออกมา เดินเล่นเท่านั้น”
“หา อะไรนะ เดินเล่นหรือ ในวังมีกฎเข้มงวดขนาดไหน พวกเจ้าอยู่ในระหว่างฝึกหัด ทำเหมือนเด็กเล่น แล้วจะผ่านการฝึกได้ยังไง”
“แล้วเจ้าล่ะ เจ้าเป็นใคร” ซองซงยอนย้อน
ลีซานอึกอัก เทซูคล้อยตาม “นั่นสิ ข้าก็สงสัย นี่ เจ้าก็เป็นมหาดเล็กฝึกหัดเหมือนกัน มีสิทธิ์อะไรมาว่าข้าน่ะ”
“เอ่อ คือ คือข้า”
“ไม่งั้นเจ้าก็ต้องคุกเข่าเหมือนกัน เพราะออกมาเพ่นพ่านตอนกลางคืน จริงมั้ย”
“เรื่องบางอย่างข้าไม่จำเป็นต้องอธิบายให้พวกเจ้ารู้” ลีซานว่า
“อะไรนะ”
“ทำไมล่ะ ทีเราทำผิดยังให้คุกเข่า มันไม่ยุติธรรมนี่นา”
“ข้าว่าหน้าตาเจ้าดูแปลกๆ นะนี่ ข้าฝึกมาหลายวันยังไม่เคยเห็นหน้า เจ้าเป็นใครน่ะ”
“นั่นสิ เจ้าเป็นใคร หา บอกชื่อมาซิ”
“เอ่อ ข้า ข้าชื่อ ชื่อของข้าคือ บูต๊อก ข้าชื่อบูต๊อก ที่ไม่เคยเห็นข้าก็เพราะ ข้า ข้ามีที่พักอยู่ที่อื่น”
“อย่ามาโกหกหน่อยเลย โธ่เอ๊ย แค่มหาดเล็กฝึกหัดจะมีที่พักพิเศษได้ยังไง”
“เฮอะ เรื่องพวกนี้เจ้าไม่รู้หรอก แสดงว่าเพิ่งเข้าวังมาไม่นานล่ะสิ”
“หา อะไรนะ”
ลี ซานคุยต่อ “มหาดเล็กฝึกหัด ถ้าได้คะแนนสูงสุด จะมีการแบ่งหน้าที่ตามความถนัด เดือนก่อนข้าเพิ่งผ่านการฝึก และตอนนี้ก็ไปรับใช้องค์ชายน้อยอยู่”
“หา จริงหรือ มีเรื่องแบบนี้ด้วย เจ้าเคยได้ยินมั้ย” เทซูถาม ซองซงยอนส่ายหน้า
” ไม่เข้าใจเลยว่าพวกเจ้าเรียนประสาอะไร ก็เพราะงมโข่งอยู่อย่างงี้ถึงถูกรุ่นพี่แกล้งบ่อยๆ หึ ข้ามีงานต้องทำ ไม่ว่างคุยด้วย แต่ยังไง พวกเจ้าก็ห้ามไปไหนอีก รีบกลับที่พักไปซะ”
“เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป ถ้าเจ้าคุ้นเคยในวังดี ช่วยอะไรหน่อยได้ไหม ข้าจำเป็นต้องไปห้องเครื่องให้ได้น่ะ”
ลีซานอึกอัก “เอ่อ แต่ แต่ว่า”
“แค่บอกว่าไปทางไหนก็พอ ไม่รบกวนมากหรอก”
“ขอโทษจริงๆ ข้าช่วยเจ้าไม่ได้ เพราะว่า องค์ชายน้อยรับสั่งให้ข้าไปทำงานสำคัญบางอย่าง”
“งั้นหรือ”
“หึ เอางี้ เรามาทำแบบนี้ดีกว่า”
เทซูฟังแผนของลีซานแล้วก็ตกใจ “ตำหนักซีมินตังหรือ จะบ้าหรือไง ที่นั่นห้ามคนเข้าออกเด็ดขาดนะ”
“ทำไมหรือ ที่นั่นเป็นที่ไหนน่ะ” ซองซงยอนแปลกใจ
“เป็นที่ๆ กักขังรัชทายาท อุ๊ย เอ่อ สรุปคือห้ามไป ถ้าไม่อยากตายซะก่อน”
“ไม่ได้ให้เข้าไปในนั้น แค่ช่วยดูต้นทาง” ลีซานขอร้อง
“แล้วเจ้าเห็นว่าไง จะไปกับเขามั้ย” ซองซงยอนถามเทซู
“เรื่องอะไร ข้าไม่รนหาที่อย่างงั้นหรอก ตั้งใจว่าจะหนีออกจากวังก่อนฟ้าสาง อุ๊ย”
ซองซงยอนตกใจ “หา”
“เอ่อ เอาเป็นว่า ข้าไม่ไปด้วย ข้าไปตามทางของข้าดีกว่า”
“เดี๋ยวก่อน นี่ หึ เอาเถอะ งั้นข้าไปกับเจ้า ข้าช่วยเจ้าเอง แต่ข้าก็ต้องไปห้องเครื่องเหมือนกัน”
“หึ เจ้ายอมช่วยข้าจริงหรือ” ลีซานซาบซึ้งใจซองซงยอน
“อึม แล้วตำหนักซีมินตังไปทางไหนล่ะ”
“ไปทาง เอ่อ ช่างเถอะ เราไปห้องเครื่องก่อนดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาก”
ซองซงยอนตื่นเต้น “จะไปห้องเครื่องจริงหรือ”
ลีซานพยักหน้า “อึม”
“เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป ข้า ข้าไป กับพวกเจ้าด้วย”
“จริงหรือ”
“แต่ แต่ว่า ข้าแค่ไปห้องเครื่อง ไม่ไปที่อื่นล่ะ”
ลีซานโมโหนิดๆ “หึ เจ้าหมอนี่ ทำเป็นอวดเก่งนักนะ”
“หา ว่าไงนะ ว่าข้าอวดเก่งหรือ นี่ แล้วเจ้าเก่งนักหรือไง อายุเท่าไหร่น่ะ”
ลี ซานตัดบทแล้วพากันเดินไป แล้วก็พาทั้งสองมาที่คุมขังองค์รัชทายาทซาโต เขาบอกเทซูกับซองซงยอนว่าถ้าเขาเข้าไปได้แล้วให้รีบไปจากที่นี่ เพราะถ้าอยู่ต่อจะมีอันตรายมาก แต่ก่อนจะแยกย้าย เทซูก็ถามซองซงยอนว่าชื่ออะไร
“ข้าชื่อซงยอน ซองซงยอน”
“แหะ ข้าชื่อปาร์คเทซู”
ลีซานเร่งทั้งสอง “เราไปกันเถอะ ลืมบอกไป ถ้าจะหนีออกจากวังละก้อ อย่าไปทางประตู “กึมโฮ” จะดีที่สุด”
“หา อะไรนะ ใครจะหนีไปไหน ใครว่าข้าจะออกจากวัง หา แปลกจริง เขารู้ได้ไงว่าเราคิดหนีน่ะ”
องค์ชายลีซานโอรสองค์รัชทายาทซาโตลอบเข้าไปในที่คุมขังเพื่อพบองค์รัชทายาทซาโตผู้เป็นพ่อในยามวิกาลจนได้
“นี่มัน อะไรกันนี่ ฮือ ไม่น่าเชื่อ ฮือ ทำไมทำกับเสด็จพ่อข้าแบบนี้ ฮือ ช่างเป็นความโหดร้ายซะจริงๆ ฮือ เสด็จพ่อ ฮือ เสด็จพ่อๆ”
“นั่นใคร ใครมา อยู่ข้างนอกใช่ไหม”
“เสด็จพ่อ”
“ฮือ หา ลูกซาน นั่นเจ้าหรือ ฮือ ฮือ ลูกซาน ลูกซานใช่ไหม”
“พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันเอง หม่อมฉันมาเยี่ยมเสด็จพ่อ”
“ลูกซานๆ”
“ฮือ เสด็จพ่อ ฮือ ทำไมถึงได้ผอมไปขนาดนี้ ทำไมมือของเสด็จพ่อ ถึงได้ดูผอมแห้งขนาดนี้ล่ะพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าเป็นไงบ้าง เจ้า สบายดีใช่ไหม”
“อึม พ่ะย่ะค่ะ ฮือ หม่อมฉันสบายดี”
“ดีแล้ว งั้นก็ดี รีบไปซะ เจ้าห้ามมาอยู่ที่นี่”
“ฮือ เสด็จพ่อ ฮือ หม่อมฉันเอาของกินมาให้เสด็จพ่อเสวยหน่อยนะ หม่อมฉัน”
“ไม่ต้อง รีบไปซะ”
” หม่อมฉันไม่ไป ฮือ หม่อมฉันจะดูเสด็จพ่อเสวยก่อน ฮือ เพราะมีคนติดตามมาด้วย หม่อมฉันเลยไม่กล้าหยิบเยอะ ฮือ เสด็จพ่อรีบเสวยเร็วเข้า ฮือ จะได้แข็งแรงและมีกำลังหน่อย ฮือ แล้วพรุ่งนี้ หม่อมฉันจะเอามาให้อีก ฮือ หม่อมฉันจะมา”
“บอกให้เจ้า รีบไปซะ”
“เสด็จพ่อ”
“เร็วเข้า เจ้าต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป เพราะฉะนั้น รีบไปจากที่นี่ ได้ยินมั้ย”
“ฮือๆๆ เสด็จพ่อ หม่อมฉันไม่ไป หม่อมฉัน จะไม่ให้เสด็จพ่ออยู่นี่คนเดียว ฮือ”
” รีบไปซะ เพราะเจ้า ต้องอยู่ต่อไป ฮือ ฟังนะลูกพ่อ ในหีบเสื้อผ้า หึ มีภาพที่พ่อเขียนไว้ หึ เจ้ารีบนำไป ถวายต่อเสด็จปู่โดยเร็ว แล้ว หลังจากนั้น หึ เสด็จปู่จะทรงอนุญาต ให้พ่อ ได้เข้าเฝ้าซักครั้ง หึ อีกอย่าง หึ เจ้าต้องให้สัญญากับพ่อ โตขึ้น ต้องเป็นพระราชาที่ดี หึ วันหน้าวันหลัง เกิดรู้ว่า ทำไมพ่อถึงถูกลงโทษ หึ เจ้าก็อย่าโกรธ อย่าเคียดแค้น โดยเฉพาะเสด็จปู่ของเจ้า อย่าให้ ความอาฆาตทำลายอนาคตของเจ้าเอง หึ ได้ยินที่พ่อพูดหรือเปล่า คำพูดของพ่อ เจ้าต้องจำไว้ด้วยล่ะ”
“พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ ฮือ เสด็จพ่อ”
“งั้นก็รีบไปซะ หึ ไม่ต้องอยู่ที่นี่ รีบไปเร็ว”
“เสด็จพ่อ ฮือๆๆ”
“บอกให้รีบไปไงเล่า ได้ยินมั้ย ไปสิ”
ลีซานจะไม่ยอมไป ทันใดนั้นซองซงยอนก็เข้ามาเรียกลีซานว่า บูต๊อก และบอกว่ามีคนกลุ่มใหญ่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
ซองซงยอนกับลีซานหนีการจับกุมของทหารไปเจอกับเทซู เขาบอกว่าอีกทางก็มีทหารเช่นกัน ก่อนจะพากันหนีไปอีกทางหนึ่งอย่างเหนื่อยหอบ
“โอย เหนื่อยจะแย่ วิ่งจนเห็นดาวเห็นเดือนเลยล่ะ”
ลีซานหอบ “เจ้าสองคน ทำไมย้อนกลับมาอีกล่ะ”
“ข้าเห็นทหารเดินไปทางโน้น เกิดพวกเจ้าโดนจับได้มิแย่หรือ” เทซูว่า
ซอง ซงยอนก็บอกว่า “ข้าก็กำลังจะหนี เห็นเทซูวิ่งกลับมา และมองไปไกลๆ ก็เห็นคบเพลิงสว่างไปทั่ว รู้ว่าเจ้าคงไม่เห็นอะไรแน่ ก็เลยย้อนกลับมาบอก”
“เฮ่ย ข้าล่ะอยากจะบ้า ทำไงดีล่ะนี่ จะทำไงกับนกน้อยของข้าดี” เทซูบ่น
“หึ ขอบใจมากนะ หึ บุญคุณที่พวกเจ้าช่วยข้าไว้ ชาตินี้ข้าจะไม่มีวันลืม ไม่ต้องห่วง”
“อย่าพูดอย่างงั้นสิ เจ้าก็ถือว่าช่วยเราเหมือนกัน” ซองซงยอนว่า
“สรุปคือตอนนี้แย่แน่ ให้พวกทหารรู้เข้า พรุ่งนี้เช้าต้องมีการตรวจค้นครั้งใหญ่ ฮือๆๆ”
ลี ซานก็คิดเช่นนั้น “ใช่ ข้าก็คิดอย่างงั้นเหมือนกัน เรื่องนี้ถ้าให้ใครรู้เข้า เราจะถูกตัดหัวหมด เพราะฉะนั้น เราต้องปิดเป็นความลับไว้”
“ต้องเป็นความลับอยู่แล้ว เพราะเราเป็นเพื่อนนี่นา”
“เพื่อนหรือ” ลีซานมองหน้าเพื่อน
“ใช่ เป็นเพื่อน”
เทซูบอกทั้งสองว่า “เอางี้ เราสัญญาว่าจะไม่บอกให้ใครรู้ เกี่ยวก้อยกันดีมั้ย มา”
ซองซงยอนเห็นด้วย “ดีมาก สัญญาแล้วนะ ต่อไปถ้ามีอะไรเราจะช่วยเหลือกัน และปิดเป็นความลับไว้ มา สัญญาเร็วเข้า”
“อึ้ม สัญญา หึๆๆ”
“ข้าก็สัญญา”
ลีซานเข้าเฝ้าพระเจ้ายองโจ เพื่อขอเข้าไปในตำหนักตงกุง พระเจ้ายอนโจรับสั่งถามว่าเข้าไปทำไม
“เรื่องนี้ หม่อมฉันทูลไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ” ลีซานตอบ
“เจ้านี่มันกำแหงนัก”
ลีซานรีบทูล “ฝ่าบาท”
“ช่างเถอะ ถึงเจ้าพูดหรือไม่พูด ข้าก็ไม่อนุญาตอยู่ดี หมดเรื่องแล้วออกไปได้ เดี๋ยวข้าต้องไปเยี่ยมชาวบ้านอีก”
” เอ่อ จะเสด็จไป ทรงเยี่ยมราษฎรหรือ วันนี้ฝ่าบาท จะออกจากวังหรือพ่ะยะค่ะ เสด็จพ่อหม่อมฉันถูกขัง ไม่แน่ว่าอาจทรงทนไม่ไหวและภายในวันนี้ก็จะ ทำไมฝ่าบาทไม่ทรงเหลียวแลเสด็จพ่อบ้างพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อหม่อมฉัน ไม่เคยแม้แต่จะตำหนิเสด็จปู่ซักคำ และยังสอนหม่อมฉันว่าห้ามโกรธเสด็จปู่ด้วย แต่ว่า ทำไมเสด็จปู่ถึงโหดร้ายกับเสด็จพ่อถึงเพียงนี้ ฮือ มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หม่อมฉันขอร้องไปช่วยเสด็จพ่อหน่อยเถอะพ่ะย่ะค่ะ เสด็จปู่ ได้โปรดไปช่วยเสด็จพ่อด้วย”
“เจ้าออกไปซะ”
“เสด็จปู่”
” บอกให้ออกไปเดี๋ยวนี้ไง นึกจะพูดอะไรก็พูด ไม่มีหัวคิด ไม่รู้กาลเทศะ โตป่านนี้ยังโง่นัก สักแต่เถียงข้างๆ คูๆ เหมือนพ่อเจ้าไม่มีผิด มหาดเล็กจงฟัง”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“ให้กรมวังจัดการ ให้องค์ชายลีซานไปอยู่นอกวังซะ”
“เสด็จปู่”
“ไปอยู่กับแม่เจ้า ให้นางอบรมสั่งสอนแล้วค่อยกลับมาใหม่”
“เสด็จปู่ ฮือ”
ขณะที่องค์ชายลีซานกำลังถูกพาเสด็จออกนอกวัง ก็เห็นเทซูถูกจับร้องโวยวายอยู่ก็จะเข้าไปช่วย แต่มหาดเล็กห้ามไว้
เทซูไม่ยอมบอกว่ามีใครไปกับเขาบ้าง แม้ซองซงยอนจะถูกนำตัวมาให้ชี้ เทซูก็บอกว่าไม่รู้จักนาง ซองซงยอนเองก็ถูกกาบีคาดคั้นว่านางไปที่ตำหนัก ซีมินตังใช่ไหม ซองซงยอนปากแข็งปฏิเสธว่าไม่ได้ไป ลีซานเห็นก็ถามเสียงดัง
“พวกเจ้าทำอะไรน่ะ”
“เอ่อ องค์ชาย” กาบีอึ้งไป ซองซงยอนอึ้งตกใจ
“พวกเจ้าบังอาจนัก ยังไม่รีบปล่อยนางอีก อยากตายหรือไง”
“เอ่อ เพคะ องค์ชาย”
“บูต๊อก บูต๊อก เจ้าจริงหรือนี่ หา”
จากต้นฉบับบันทึกแห่งความเงียบถูกสร้างเป็นละครเรื่องลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน