มะม่วงหิมพานต์
ชื่อวิทยาศาสตร์ Anacardirm occidentale Linn. วงศ์ ANACARDIACEAE
ชื่ออื่น ยกร่อง(ใต้) กะแตแก(มาลายู,นราธิวาส) กายี(ตรัง) ตำหยาว ท้ายล่อ กาหยี ม่วงล่อ หัวครก กะแตแหล กาจู กาหยู ส้มม่วงชูหน่าย(ใต้) นายอ(มาลายู-ยะลา) มะม่วงกาสอ(อุตรดิตถ์) มะม่วงกุลา มะม่วงสังกา มะม่วงสิงหน มะม่วงหยอด(ภาคเหนือ) มะม่วงทูนหน่วย "ส้มม่วงทุนหน่วย(สุราฎร์ธานี) มะม่วงนยางหุย หิม (ระนอง) มะม่วงไม่รู้หาวมะม่วงมะโหใหม่ (เงิ้ยวแม่ฮ่องสอน) ยาโหยยามักม่วงหิมพานต ์(อุดรธานี-อีสาน)พานต์มะม่วงสิโห(เชียงงอ) มะม่วงเล็ดล่อห้ยยาโอยหมาก
ประโยชน์ทางยา
ราก สรรพคุณแก้โรคท้องร่วงและเป็นยาฝาดสมาน ใบ สรรพคุณเป็นยาสมานลำไส้บรรเทาอาการท้องร่วง
ใบแก่ ใช้บดใส่แผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก ละใบสดนำมาเผาไฟ สูดดมควันเพื่อรักษาอาการ ไอ เจ็บคอ เมล็ด สรรพคุณแก้กลากเกลื้อน โรคผิวหนัง ทำให้เนื้อชา ยาง ช่วยกัดทำลายเนื้อที่เป็นตุ่ม ไต ตาปลา โรคเท้าแตก และแก้เลือดออกตามไรฟัน
ประโยชน์ทางอาหาร
มีส่วนประกอบของ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และวิตามิน สูงกว่าผลไม้อื่นใด ยอดและใบอ่อนสด รับประทานเป็น "ผักเหนาะ" ร่วมกับน้ำพริก แกงเผ็ด ขนมจีนน้ำยา มีรสฝาด มีสรรพุคุณสามานลำไส้บรรเทาอาการท้องร่วง ส่วนเมล็ดนิยมทำให้สุกก่อนโดยการเผาไฟหรือคั่ว นำไปผัดหรือยำร่วมกับอาหารอื่น หรือรับประทานเป็นของว่าง
มะม่วงหิมพานต์เป็นไม้ตระกูลเดียวกับมะม่วง จำแนกตามสีของผลมี 2 พันธุ์คือ ผลสุกสีเหลืองจัด และผลสุกสีแดงคล้ำ ผลคล้ายกับผลชมพู่ เรียกกันว่า ผลปลอม เมื่อสุกกลายเป็นสีเหลือง หรือสีแดงคล้ำ มีรสเปรี้ยวอมหวาน นิ่มและมีกลิ่นหอม ผลปลอมชาวบ้านทั่วไปเรียกว่าเต้า (cashewapple) ส่วนปลายสุดของผลปลอมเป็นส่วนของดอกเรียกว่าเมล็ดหรือลูกในหรือหัวใน (nut) รูปร่างคล้ายไต ระยะแรกสีม่วงแล้วกลายเป็นสีเขียวอ่อน
Bookmarks