นายดำ เป็นคนบ้านนอก จิตใจงดงามใสซื่อ อยู่กับไร่กับนามาตลอด แต่ปีนี้อยากมีรายได้เพิ่ม เมื่อหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยวจึงเดินทางเข้าเมืองเพื่อหางานทำ เหมือนมีโชคช่วยได้ทำงานเป็นยามอยู่สำนักงานของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้จัดการเป็นคนกรุงเทพฯ
นายดำ เป็นคนอีสาน พูดภาษากลางไม่เป็น หนำซ้ำยังฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่แกก็พยายามที่จะเรียนรู้ ด้วยความเป็นคนขยัน สู้งาน จึงได้รับการไหว้วานเรียกใช้อยู่เสมอ
อยู่มาวันหนึ่ง ผู้จัดการจะกลับกรุงเทพ จึงอยากซื้อของไปฝากเพื่อนมิตร คิดใช้นายดำช่วยทำธุระ จึงเรียกนายดำให้เข้ามาหาแล้วถามว่า “นายดำ รู้จักเนื้อแห้งมั้ย”
นายดำตอบอย่างมั่นใจ ด้วยภาษาอีสานว่า “ฮู้ครับ”
ผู้จัดการชื่นชมพร้อมไหว้วาน “ดีมาก ไปซื้อมาให้หน่อยซักสองกิโลนะ”
นายดำหายไปเกือบสองชั่วโมง ทั้งๆที่ตลาดอยู่ติดสำนักงาน นายดำเดินกลับมาด้วยความเหนื่อยล้า ตรงไปยังโต๊ะผู้จัดการ ที่นั่งรอยู่ด้วยแววตาแห่งความสงสัย
ผู้จัดการถามด้วยความอยากรู้ “เป็นไงนายดำ เนื้อแห้งได้มั้ย”
นายดำตอบด้วยภาษาอีสานอย่างเหนื่อยหล้าว่า “เนื้ออีแฮ้ง บ่มีดอกครับ หาเบิดสู่หม่องแล้ว”
ผู้จัดการพูดด้วยความหงุดหงิดพร้อมส่ายหน้า “โธ่.... ไอ้ควายเอ้ย”
นายดำตอบสวนทันทีด้วยความซื่อ “ควายกะบ่ฆ่าครับ มันเป็นวันพระ”
ผู้จัดการ ด่าอย่างเสียหัว “นายนี่แย่ฉิบหาย”
นายดำยิ้มเล็กน้อยที่ริมฝีปาก พร้อมพูดอย่างมั่นใจว่า “เจ้านายครับ......ว่าหยังแต่แย้ ขี้กะปอมกะบ่มี สู่มื้อนี้....”
ผู้จัดการนั่งรถกลับกรุงเทพด้วยมือเปล่า
Bookmarks