กว่าจะมาเป็นดาบ
คุณสุเมธ ตันติเวชกุล เล่าประสบการณ์ดีดีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงรับสั่งให้กำลังใจ ซึ่งเป็นประโยคที่ดีมาก...อยากเล่าต่อๆตั้งนานแล้ว จนเกือบลืมเลยครับ...คงได้ประโยชน์ กับบางคนที่กำลังเจอมรสุมกับงาน
จะได้รู้สึกดีผมจำมาถูกบ้างผิดบ้าง เนื้อหาประมาณนี้ครับ...
องคมนตรีท่านบอกว่า... "ตอนนั้นผมกำลังทำงานอยู่ในสภาพจิตใจที่แย่มาก มันไม่มีกำลังใจจะทำอะไร ท้อแท้กับงานมากไม่มีใครเข้าใจเหมือนทำดีแตไม่ได้ดีในหลวงท่านทรงเสด็จมาพอดี และท่านได้เห็นสีหน้าผมไม่สู้จะดีท่านได้สอบถามจนได้ความว่าผมกำลังท้อแท้กับงาน ท่านจึงตั้งคำถาม พร้อมรับสั่ง ว่า...
ท่านสุเมธเคยขายเศษเหล็กไหม?
เศษเหล็กเหล่านั้น เวลาขาย คุณค่ามันต่ำมากใช่ไหม คงได้เงินมาไม่กี่บาทใช่ไหม?
แล้วถ้าเราเอาเศษเหล็กเหล่านั้นมาหลอมรวมกันเป็นแท่ง เวลาหลอมนี่ เหล็กมันคงรู้สึกร้อนมากใช่ไหม?
พอหลอมเสร็จเรา นำมาทำเป็นดาบ คงต้องนำมาตีให้แบนอีกใช่ไหม?
เวลาตีก็ต้องคอยเอาไปเผาไฟด้วย ต้องตีไป เผาไปอยู่หลายรอบกว่าเป็นรูปเป็นร่างดาบอย่างที่เราต้องการต้องผ่านความเจ็บปวดร้อนอยู่นานแถมเมื่อเสร็จแล้วถ้าจะให้สวยงามดังใจ ก็ต้องนำไปแกะลวดลายอีกใช่ไหม?
เวลาที่แกะลวดลายก็คงต้องใช้ของแข็งมีคมมาตี ให้เป็นลวดลายอีก แต่เมื่อเสร็จเป็นดาบที่งดงามก็จะมีคุณค่าที่สูงมากเทียบกับเศษเหล็กคงจะต่างกันลิบลับ... จะเห็นว่ากว่าที่เศษเหล็กไม่มีคุณค่ามากนัก จะกลายเป็นดาบอันงดงามนั้นต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย ทั้งความเจ็บปวดต่างๆกว่าจะประสบความสำเร็จ ดังนั้นขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า ...
"ใครไม่เคยถูกตีถูกทุบ เจอเรื่องเลวร้ายในชีวิตมาเลยนั้น
จงอย่าได้คิดทำการใหญ่”
:l-:l-:l-:l-:l-:l-:l-:l-:l-:l-:l-:l-
Bookmarks