พระธาตุ


พระธาตุ

เกี่ยวกับอัฐิของพระอรหันต์ที่ต่อมาได้กลายเป็นพระธาตุนั้น องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโนได้แสดงธรรมไว้อย่างละเอียดลออ ดังนี้

“...เวลาท่านผู้สิ้นกิเลสท่านมรณภาพเอาศพไปเผา อัฐิก็คือกระดูกเหมือนกันกับเราๆท่านๆ แต่กลายเป็นพระธาตุได้ยังไง อันนี้จะเป็นองค์ท่านเองรู้ชัดในธาตุขันธ์ของท่านเองคนอื่นไม่รู้ เวลามีชีวิตอยู่จิตของท่านสง่างามจ้าครอบธาตุขันธ์อันนี้ ครอบธาตุขันธ์นี้แล้วเราก็บอกชัดเจนแล้วว่าจิตตั้งแต่บรรลุธรรมปึ๋งขึ้นมาแล้วนี่ละที่ว่าฟอกธาตุขันธ์ที่เป็นเรือนร่างของจิตที่บริสุทธิ์นั้น ฟอกมาโดยลำดับ

กระแสของจิตที่บริสุทธิ์นี้กระจายออกทั่วสรรพางค์ร่างกาย เรียกว่า ฟอกธาตุขันธ์ที่เป็นส่วนหยาบเหมือนคนทั่วๆไปนี้ให้กลายเป็นส่วนละเอียดเข้าไปๆ ท่านรู้ของท่าน จิตของท่านผู้ที่หลุดพ้นแล้วท่านรู้ คือร่างกายนี้เป็นเรือนร่างของจิตที่บริสุทธิ์ทีนี้เวลาจิตบริสุทธิ์แล้วนั้นการฟอกจิตนี้ฟอกโดยหลักธรรมชาติตั้งแต่วันบรรลุมา ฟอกนี่เรียกว่าหลักธรรมชาติ


อย่างละเอียดลออเรื่อยๆ.. ซักฟอกอยู่ธรรมดา ยืน เดิน นั่ง นอนซักฟอกอยู่นั้นเป็นหลักธรรมชาติ ... ที่เด่นที่สุดก็คือเวลาท่านเข้าสมาธิสมาบัติภาวนาของท่าน นั่นละกระแสของจิตเข้ามานี้หมด ทีนี้พอเข้ามานี้หมดกระจายฟอกธาตุขันธ์ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทีนี้ท่านมองดูธาตุขันธ์ของท่านถ้าพูดเทียบกับโลกนี้เรียกว่าเป็น “ทองทั้งแท่ง” อยู่ในนี้


แต่สายตาของเราก็เป็นคนเหมือนท่านๆ เราๆ แต่สายตาของธรรมท่านเห็นของท่านเอง เป็นเหมือนทองคำทั้งแท่งๆ พากันเข้าใจเสียนะนี่ละเรื่องธรรมที่บริสุทธิ์ดูเรือนร่างของตัวเอง เป็นส่วนหยาบก็รู้ชัดๆ เป็นโดยลำดับอย่างนี้ละ เวลาท่านมรณภาพไปแล้วจะไม่กลายเป็นพระธาตุได้ยังไง ก็กระจ่างอยู่ภายในตั้งแต่ท่านยังไม่ตายอยู่แล้ว ธาตุขันธ์ถูกซักฟอกเป็นธาตุขันธ์ที่ละเอียดลออจนกลายเป็นธาตุขันธ์ ที่บริสุทธิ์ของพระอรหันต์

แต่สายตาของโลกก็เป็นธาตุขันธ์ธรรมดาเหมือนเรา แต่สายตาของธรรมที่เป็นผู้รับผิดชอบคือจิตที่บริสุทธิ์ของท่านครองร่างอยู่นี้ ท่านดูกระจ่างของท่านอยู่ตลอดเวลา เห็นชัดเจนหมด…”


หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
จากหนังสือญาณสัมปันนธัมมานุสรณ์หน้า๓๙๘