เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง

เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง


เทคนิกการต่อกิ่งมะม่วง
เทคนิกการต่อกิ่งมะม่วง การต่อกิ่งหรือการเสียบกิ่งคือการสอดส่วนของพืชหรือกิ่งพืชต้นหนึ่งลงบนต้นพืชอีกต้นหนึ่ง และส่วนทั้งสองของพืชจะเชื่อมประสานติดต่อกัน และเจริญไปเป็นพืชต้นใหม่...

การทำอาชีพด้านการเกษตรโดยเฉพาะการทำสวนไม้ผล สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะต้องคำนึงถึงคือ การคัดเลือกต้นพันธุ์ดี มีประวัติการให้ผลผลิตสูงและมีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด จากนั้นจึงขยายพันธุ์เพื่อเพิ่มปริมาณต้นพันธุ์ดีให้มากขึ้น ไม้ผลชนิดหนึ่งอาจขยายพันธุ์ได้หลายวิธี แต่ละวิธีมีความยากง่ายและมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกัน ดังนั้นนักขยายพันธุ์จึงจำเป็นที่จะต้องทราบถึงวิธีที่เหมาะสมของไม้ผลแต่ละชนิด และควรทราบถึงเทคนิคและขั้นตอนการขยายพันธุ์พืชแต่ละวิธี เพื่อช่วยให้การขยายพันธุ์พืชประสบผลสำเร็จมากขึ้น ในที่นี้จะขอนำเสนอเทคนิคการต่อกิ่ง ซึ่งการต่อกิ่งเป็นศิลปะของการต่อชิ้นเนื้อเยื่อพืช 2 ชิ้นเข้าด้วยกันด้วยวิธีต่างๆ เมื่อแผลเชื่อมกันสนิทแล้วเจริญเติบโตเป็นต้นเดียวกันชิ้นส่วนที่อยู่ด้านบนรอยต่อเรียกว่า กิ่งพันธุ์ดี ส่วนที่อยู่ด้านล่างรอยต่อทำหน้าที่รากเรียกว่าต้นตอ ในปัจจุบันการต่อกิ่งได้รับความนิยมทำเป็นการค้าในไม้ผลหลายชนิด ได้แก่ พืชตระกูลส้ม มะม่วง มะขาม ขนุน มะปราง และน้อยหน่า ในฉบับนี้จะขอนำเสนอเรื่อง เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง มีขั้นตอนและวิธีการดังนี้

การต่อกิ่งหรือการเสียบกิ่งคือการสอดส่วนของพืชหรือกิ่งพืชต้นหนึ่งลงบนต้นพืชอีกต้นหนึ่ง และส่วนทั้งสองของพืชจะเชื่อมประสานติดต่อกัน และเจริญไปเป็นพืชต้นใหม่ โดยส่วนที่อยู่ใต้รอยต่อจะทำหน้าที่เป็นรากดูดน้ำ และแร่ธาตุอาหาร เรียกว่า ต้นตอ (rootstock, understock, stock) และส่วนที่อยู่เหนือรอยต่อจะทำหน้าที่เป็นกิ่งก้านสาขาที่ให้ดอกและผลเรียกว่ากิ่งพันธุ์ดี (Scion or cion)

การต่อกิ่งแบบเสียบลิ่ม (Cleft or Wedge grafting) นิยมทำในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนยอด และมักเป็นกิ่งที่มีขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กก็ได้ วิธีการคือผ่าครึ่งต้นตอความยาวประมาณ 2.5-5.0 เซนติเมตร (1-2นิ้ว) ขึ้นอยู่กับชนิดพืชและอายุของต้นตอ เทคนิคการผ่าต้นตอโดยวางใบมีดให้เอียงด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อให้รอยแผลเรียบ ถ้าหากใช้มีดผ่าโดยตรงจะทำให้รอยแผลแตกนำไปก่อนที่คมมีดจะไปถึงจะทำให้แผลไม่เรียบ การเตรียมยอดพันธุ์ดีปกติควรมีตา 3-4 ตา เฉือนโคนกิ่งพันธุ์ดีเป็นรูปลิ่มยาวเท่ากับรอยแผลของต้นตอ สอดรอยแผลของกิ่งพันธุ์ดีตรงรอยแผลของต้นตอจัดเนื้อเยื่อเจริญของต้นตอและยอดพันธุ์ดีให้ชิดกัน ถ้าต้นตอมีขนาดใหญ่กว่ากิ่งพันธุ์ดี ควรจัดรอยแผลให้ชิดด้านใดด้านหนึ่ง แล้วนำไปใส่ในถุงพลาสติกใส มัดปากถุงให้แน่น เก็บไว้ในโรงเรือนที่มีแสงส่องผ่านไม่เกิน 30 % ในกรณีของมะม่วง มะขาม ขนุน น้อยหน่า และส้มจะใช้เวลาประมาณ 25-30 วัน จึงเปิดปากถุง โดยจะสังเกตเห็นยอดพันธุ์ดีบางต้นจะเริ่มแตกใบ แต่ถ้าเป็นลำไย ลิ้นจี่ และมะปรางจะใช้เวลาอยู่ในถุงอบนาน 45-60 วัน (ภาพที่ 1-8 แสดงขั้นตอนการต่อกิ่งมะม่วงแบบเสียบลิ่ม) ในกรณีที่ไม่นำต้นที่ต่อกิ่งใส่ในถุงอบ ต้องริดใบของยอดพันธุ์ดีออกให้หมด แล้วพันด้วยพลาสติกตั้งแต่รอยแผลจนมิดยอดพันธุ์ดี วิธีนี้จะง่ายและทำได้รวดเร็ว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย (ภาพที่ 9- 11)



เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง
ภาพที่1.อุปกรณ์การตัดต่อกิ่ง

เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง
ภาพที่ 2.เลือกต้นตอและยอดพันธุ์ให้มีขนาดใกล้เคียงกัน

เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง
ภาพที่ 3 ผ่าตรงกลางต้นตอลึก 2.5 – 5 เซนติเมตร (1-2 นิ้ว) โดยชี้ ปลายมีดลง

เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง
ภาพที่ 4 เฉือนโคนกิ่งพันธุ์ดีเป็นรูปลิ่มยาวเท่ากับรอยแผล ของต้นตอ

เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง
ภาพที่ 5 สอดแผลของกิ่งพันธุ์ดีลงบนต้นตอจัดให้กิ่งชิดด้านใดด้านหนึ่ง

เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง
เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง
ภาพที่ 6 พันด้วยพลาสติก(ซ้าย) ใช้ เชือกฟางผูกแทนการพัน พลาสติก(ขวา)

เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง
ภาพที่ 7 นำกิ่งที่ต่อใส่ไว้ในถุงพลาสติกใสมัดปากถุงให้สนิท

เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง
ภาพที่ 8 ประมาณ 25-30 วันยอดพันธุ์ดีจะเริ่มแตกใบให้เปิดปากถุงอีกประมาณ 5 วันจึงนำต้นออกมา

เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง
ภาพที่ 9 เฉือนโคนกิ่งพันธุ์ดีเป็นรูปลิ่มยาวเท่ากับรอยแผลของต้นตอ(ซ้าย)
สอดกิ่งพันธุ์ดีลงบนต้นตอจัดเยื่อเจริญให้


เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง
ภาพที่ 10 พันพลาสติกให้มิดยอดนำต้นพันธุ์ที่ต่อกิ่งไว้ในโรงเรือนที่มีแสงส่องไม่เกิน 30%

เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง
เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง
ภาพที่ 11 หลังต่อกิ่ง 12 วัน ยอดพันธุ์ดีเริ่มแตกใบให้เปิดพลาสติกเฉพาะบริเวณยอด(ซ้าย)
ยอดใหม่จะแตกภายใน 20 วัน(ขวา)


เทคนิคการต่อกิ่งมะม่วง








สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ผศ.พาวิน มะโนชัย นางจิรนันท์ เสนานาญ สาขาไม้ผล ภาควิชาพืชสวน คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 053-875122 มือถือ 081-9515907