สูตรลูกประคบเฉพาะโรค


"สูตรลูกประคบเฉพาะโรค ๒ สูตร"

สูตรแก้อาการเหน็บชา มีอาการชาตามปลายมือ ปลายเท้า ให้นำสมุนไพรเหล่านี้มาทำลูกประคบ แล้วประคบไปตามบริเวณปลายมือปลายเท้า หรือบริเวณที่มีอาการเหน็บชา สมุนไพรดังกล่าว
ประกอบด้วย

เปลือกกุ่ม 1 บาท เปลือกมะรุม 1 บาท เปลือกทองหลาง 1 บาท เถาวัลย์เปรียง 1 บาท เถาเอ็นอ่อน 1 บาท
ไพล 1 บาท เกลือ 1 บาท

สมุนไพรดังกล่าวข้างต้นให้ใช้สัดส่วน "เสมอภาค" หมายถึง หากใช้อัตราส่วน 1 บาท ก็ให้สมุนไพรทุกชนิดในอัตรา 1 บาท เช่นกัน โดยการนำสมุนไพรทั้งหมดนี้มาหั่นหรือซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือตำพอเป็นชิ้น ๆ ไม่ต้องละเอียดมาก เสร็จแล้วให้นำไปคั่วในกระทะ พอได้ที่ก็เทสุราผสมลงไปแล้วคนให้วจนเข้ากัน เนื่องจากสมุนไพรดังกล่าวมีเปลือกแข็งเป็นส่วนใหญ่จึงต้องใช้สุราเข้าไปดึงตัวยาออกมา
จากนั้น ก็ให้แบ่งสมุนไพรออกเป็นส่วน ๆ ไปห่อด้วยผ้าทำเป็นลูกประคบสมุนไพร ประคบตามบริเวณที่เป็นเหน็บชา แต่เนื่องจากการทำลูกประคบสมุนไพร สูตรนี้มีการเติมสุราลงไปแล้ว และสุราก็มีฤทธิ์ร้อนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรนำลูกประคบไปนึ่งก่อนนำมาประคบเมื่อห่อด้วยผ้าเหมือนลูกประคบแล้วก็ให้ประคบไปเลย

► สูตรแก้ลมอัมพฤกษ์-อัมพาต อาการที่เรียกว่า "ลมอัมพฤกษ์และอัมพาต" ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยได้ยินนี้ ลักษณะอาการก็คือ มือและเท้าไม่มีแรง บางครั้งแม้แต่จะหยิบจับอะไรก็ทำไม่ได้ บางคนยังมีอาการชาตามมือตามเท้าควบคู่กันไปด้วย เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นโรคเกี่ยวกับเส้นและระบบประสาท

สาเหตุของอาการเหล่านี้ ก็เนื่องมาจาก ตามปลายมือปลายเท้า โลหิตไหลเวียนไม่สะดวก หรือมีโลหิตคั่งค้าง ทำให้ไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงจนเกิดอาการมือเท้าไม่มีแรงในที่สุด โดยคนที่มักจะมีอาการลมอัมพฤกษ์-อัมพาตนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีอาการเส้นเลือดในสมองแตก คนที่ประสบอุบัติเหตุจนทำให้การสั่งการของสมองบกพร่อง นอกจากนี้คนที่มีความดันโลหิตสูง รวมทั้งคนที่มีอาการเครียดเป็นประจำ ก็เสี่ยงต่อการเป็นลมอัมพฤกษ์-อัมพาตด้วย สมุนไพรที่นำมาทำลูกประคบเพื่อรักษาอาการดังกล่าว ประกอบด้วย

ไพล 1 บาท ว่านน้ำ 1 บาท การบุร 4 บาท ใบพลับพลึง 3 ใบ กุยช่าย 1 กำมือ

สมุนไพรทั้ง 4 อย่างในสัดส่วนที่ระบุไว้ มาตำให้แหลกจนเข้ากันดี จากนั้นให้นำการบูรและต้นกุยช่าย มาซอยสั้น ๆ ผสมใส่ลงไป หลังจากส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้ว ก็ให้แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ทำเป็นลูกประคบ 4 ลูกสับเปลี่ยนประคบไปตามบริเวณที่เป็นลมอัมพฤกษ์-อัมพาต โดยใบกุยช่ายนี้มีสรรพคุณช่วยกระจายเลือดที่คั่งค้างอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ทำให้โลหิตไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น

โดย ทางแพทย์สายพุทธ