ตามดูสถานที่เกิดเหตุ ผีจ้างหนัง : คำชะโนด.....????

[bawlek]

ตามดูสถานที่เกิดเหตุ ผีจ้างหนัง : คำชะโนด
ภาพประกอบทางอินเตอร์เนท
ภาพนักแสดงจาก ภาพยนต์เรื่องผีจ้างหนัง





คำร่ำลือเรื่อง "ผีจ้างหนัง" นั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2532 ตอนนั้นมีผู้มีติดต่อบริษัทหนังเร่แห่งหนึ่งให้นำหนังกลางแปลงไปฉายที่บ้านวังทอง จ.อุดรธานี ในอัตราค่าจ้าง 4 พันบาท แปลกที่ค่าจ้างนั้นจ่ายเป็นเศษเหรียญทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีสัญญาพอถึงตี 4 ต้องหยุดฉายหนังแล้วรีบเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดออกจากพื้นที่ไป
แม้จะฟังประหลาดอยู่สักหน่อยเพราะปกติผู้ว่าจ้างมักชอบให้ฉายหนังถึงเช้า แต่เจ้าของบริษัทหนังเร่ก็ไม่ติดใจ กระทั่งลูกน้องที่ไปทำหน้าที่ฉาย กลับมาเล่าว่า สงสัยไปฉายหนังให้ผีดู เพราะช่วงหัวค่ำไม่มีผู้ชมสักคน แต่พอ 3 ทุ่มไปก็มีมากันเป็นจำนวนมาก โดยคนที่มาหากเป็นหญิงจะนุ่งห่มขาว ผู้ชายจะนุ่งห่มสีดำ แถมนั่งกันอยู่คนละด้าน อีกทั้งระหว่างหนังฉายนั้นก็ไม่มีการพูดคุย ไม่มีการลุกขึ้นเดิน และไม่มีร้านขายของสักร้าน ต่างจากการฉายในงานอื่นอย่างสิ้นเชิง
ไม่เพียงแต่แค่นั้น เพราะพอถึงตี 4 คนที่มาดูก็หายไปหมด ครั้นพอแวะซื้อบุหรี่ที่ร้านแถวนั้น คุยให้ฟังว่าไปฉายหนังมา ชาวบ้านก็งง บอกว่าไม่เห็นมี
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
เอาละซิ เกิดอะไรขึ้น
เมื่อเป็นอย่างนี้เจ้าของบริษัทจึงตามไปพิสูจน์ถึงที่ และสิ่งที่ได้เห็นก็คือมีรอยล้อรถแล่นเข้าไปในท้องนา ขณะที่ดงชะโนดเป็นป่าทึบ ที่อยู่บนเกาะกลางทุ่ง ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีสะพานเชื่อมต่อ ดังนั้น ไม่เพียงแต่รถยนต์จะไม่สามารถแล่นเข้าไปได้แล้ว ป่าที่มีต้นไม้หนาทึบ ขึ้นแทบจะติดๆ กันนั้น มองดูก็รู้ว่าไม่สามารถขึงจอหนังได้แน่
เรื่องราวความลึกลับนี้สร้างความสนอกสนใจให้ผู้กำกับฯ "วุ้น ทรงศักดิ์ มงคลทอง" เป็นอย่างมาก เขาจึงใช้เวลาเป็นปีเพื่อศึกษา และพบว่าคนพื้นที่ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว แต่เคารพและนับถือคำชะโนดว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นเมืองพญานาค
แล้วเขาก็จับเรื่องราวมาผูกเป็นหนัง ซึ่งถึงตอนนี้ถ่ายทำเสร็จสรรพ และพร้อมจะฉายรับฟังความเห็นของผู้ชม ในเดือนหน้า
หากก่อนจะถึงวันนั้น เพื่อให้อินกับเรื่องมากขึ้น ทรงศักดิ์ก็พานักแสดงนำชาย "อิงค์ อชิตะ ปราโมช ณ อยุธยา" กับ "นะโม ทองกำเหนิด" และสื่อมวลชนไปชมสถานที่เกิดเหตุ และเป็นสถานที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ โดยมีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 5 ประสานเรื่องข้อมูล และพาไปชมสถานที่น่าสนใจอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้าปู่-ย่า ศาลเจ้าจีนขนาดใหญ่ ที่เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์,พิพิธภัณฑ์บ้านเชียง ที่เพิ่งปรับปรุงใหม่และจะเปิดให้ชมในต้นเดือนหน้า
จากนั้นก็ถึงเวลาไปป่าคำชะโนด
ป่าคำชะโนดหรือ "วังนาคินทร์ คำชะโนด" ชื่อที่คนสมัยก่อนเรียกนั้น มีลักษณะเหมือนเกาะกลางน้ำ แต่ไม่ว่าช่วงไหนจะมีน้ำมากสักแค่ไหน หรือพื้นที่อื่นจะถูกน้ำท่วมมากแค่ไหน ป่าคำชะโนดไม่เคยได้รับผลกระทบ คล้ายๆ จะเป็นเกาะที่ลอยน้ำได้ ยังไงยังงั้น
ในป่าเต็มไปด้วยต้นไม้ชนิดหนึ่ง ลักษณะเหมือนต้นไม้ 3 ประะภท คือปาล์ม มะพร้าว และต้นตาล รวมกัน นั่นแหละ "ต้นชะโนด" นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำอยู่ตรงกลาง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นประตูสู่เมืองบาดาล และน้ำในบ่อนี้เป็นน้ำที่มีความเป็นมงคล ใครนำไปลูบหน้า ลูบศรีษะ จะเกิดมงคลแก่ตัว
คนที่จะเข้าไปในป่าคำชะโนดนั้น ต้องถอดรองเท้าไว้ที่ทางเข้า ซึ่งเป็นสะพานปูน มีราวสะพานเป็นรูปพญานาค โดยบริเวณสะพานนั้น จะมีอยู่จุดหนึ่งที่ไม่เชื่อมต่อกัน เป็นช่องว่างห่างประมาณ 1 ฟุต ด้วยเหตุผลว่าแต่ไหนแต่ไรมา ในหน้าน้ำสะพานมักจะแตกหักตรงจุดนี้เสมอ ซ่อมกี่ครั้ง ด้วยวัสดุชนิดใด พอถึงหน้าน้ำ เหตุการณ์ก็ยังเหมือนเดิม
เมื่อเข้าไปด้านในแล้ว ใครๆ ก็ต้องไปสักการะศาลหลวงปู่ศรีสุทโธ แล้วถ้าสนใจก็อาจลูบฆ้อง ใครลูบแล้วฆ้องเกิดเสียงดังกังวาน (โดยไม่ต้องตี) ก็เชื่อว่าเป็นลูกหลานที่สืบเชื้อสายมาจากพญานาค
นี่คือสิ่งเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นจริงที่นี่
"สถานที่เกิดเหตุ "ผีจ้างหนัง""

(หยิบมาเล่าจาก มติชน ออนไลน์ ขอบคุณครับ....)