:heart:รักร้อย..ทุกข์ร้อย:heart:
อ่านพบแนวคิดดี ๆ เลยนำมาเผยแพร่คับ
สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ บุพพาราม กรุงสาวัตถี ครั้งนั้นหลานคนหนึ่งของนางวิลาขามหาอุบาสิกาได้ตายลง นางวิชาขามีความเศร้าโศกเสียใจเพราะความอาลัยรักหลานเป็นอันมาก วันหนึ่งเวลาเที่ยงขณะที่นางยังไม่คลายความโศก ได้เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า หลังจากกราบและนั่งเรียบร้อยแล้ว พระพุทธเจ้าได้ตรัสทักขึ้นก่อนว่า
"วิสาขา เธอไปไหนมาจึงมีผมเปียกและผ้าก็เปียก?"
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หลานอันเป็นที่รักที่พอใจของหม่อนฉันได้ทำกาละลง หม่อนฉันจึงมีผมเปียก และผ้าก็เปียกด้วยเหตุนี้แหละเจ้าค่ะ"
"วิสาขา เธออยากมีลูกมีหลานเท่ากับจำนวนพลเมืองของกรุงสาวัตถีอย่างนั้นหรือ"
"หม่อนฉันต้องการอย่างนั้นเจ้าคะ"
"โดยส่วนเฉลี่ย คนในกรุงสาวัตถีนี้ตายวันละเท่าไหร่ วิสาขา ?"
"เฉลี่ยแล้วคนในเมืองนี้ตายวันละ 1 คนก็มี 2-3 คนก็มี จนถึง 10 คนก็มี ที่จะไม่มีวันคนตายเลยนั้นไม่มีเลยเจ้าค่ะ?"
"วิสาขา เธอจะทำอย่างไร ถ้าเธอมีลูกหลานเท่ากับจำนวนคนในกรุงสาวัตถีนี้ แล้วต้องมีลูกหลานของเธอตายลงทุกวัน เธอมิต้องร้องไห้ผมเปียกผ้าเปียกทุกวันไม่มีวันส่างอยู่ชั่วนาตาปีเช่นนั้นหรือ ?"
"หม่อมฉันเข็ดแล้ว ลูกหลานเท่าที่มีอยู่ก็พอแล้วเจ้าค่ะ หม่อมฉันไม่ต้องการลูกหลานมากมายเท่าจำนวนพลเมืองของกรุงสาวัตถีอีกต่อไปแล้วเจ้าค่ะ"
"วิสาขา ด้วยประการฉะนี้แล ผู้ใดมีสิ่งที่รัก 100 ผู้นั้นก็มีทุกข์ 100 ผู้ใดมีสิ่งที่รัก 50 ก็มีทุกข์ 50 ผู้ใดมีสิ่งที่รัก 10 ผู้นั้นก็มีทุกข์ 10 ผู้ใดมีรัก 5 ผู้นั้นก็มีทุกข์ 5 ผู้ใดที่มีรัก 1 ผู้นั้นย่อมมีทุกข์ 1 ผู้ใดไม่มีสิ่งที่รักเลยผู้นั้นก็ย่อมไม่มีความทุกข์เลย เรากล่าวว่าผู้ใดไม่มีความรัก ผู้นั้นก็ย่อมไม่มีความโศก ปราศจากธุลีไม่มีอุปายาส"
ที่มา พลังจิต.คอม
__________________
จงมองตนเองก่อนมองผู้อื่น ความสุขอยู่คู่กับความทุกข์เสมอ
ใครเห็นสรรพสิ่งว่าไม่จริง...นั้นคือ....ผู้รู้จริง
Bookmarks