1. เขาไม่จำเป็นต้องชอบคน แต่จะต้องสนใจในความเป็นคนของคนเราอย่างลึกซึ้ง

2. เขาจะต้องมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้คนอื่นๆ เห็นเหมือนอย่างที่เขาเห็น

3. เขาจะต้องอ่อนไหวต่อสภาพของมนุษย์ และผลักดันตนเองให้แสดงเกี่ยวกับสภาพ
ของมนุษย์นั้น

4. เขาจะต้องรักใคร่หลงใหลในถ้อยคำ เพื่อที่วลี ประโยค และจังหวะของถ้อยคำจะ
ได้เข้าสิงสู่ในความรู้สึกและตัวเขาตลอดเวลา

5. ในฐานะของบุคคล เขาจะต้องรู้สึกผูกผันกับสิ่งที่ตนเองเขียนอย่างลึกซึ้ง ในฐานะ
ของศิลปินเขาจะต้องแยกตัวเองออกจากงานของตนให้ได้ โดยเรียนรู้ที่จะแยกแยะ
ว่าสิ่งใดดีและไม่ดีเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเขียน

6. เขาจะต้องเรียนรู้ว่าการเขียนหนังสือคือการเขียนใหม่ เรียบเรียงใหม่ เขาต้องสามารถ
ที่จะตัดทิ้งต้นฉบับของเขาได้โดยไม่ลังเล สามารถที่จะขัดเกลาความเป็นเด็กของเขา
โดยไม่รู้สึกแหยงหรือขยาด

7. เขาจะต้องผูกพันตัวเองอย่างล้ำลึกเกี่ยวกับเรื่องรายละเอียด สิ่งนี้มักจะเป็นสิ่งที่บอก
และแยกให้เห็นความแตกต่างของงานเขียนที่ประสบความสำเร็จและที่ประสบความล้ม
เหลวได้

8. เขาจะต้องเรียนรู้และตระหนักว่าการเขียนคืองานประจำวัน ไม่ได้เกิดจากความบันดาล
ใจชั่วครั้งชั่วยาม เขาจะต้องมีเวลาที่นั่งลงเขียนหนังสือทุกวัน การเป็นนักหนังสือพิมพ์
เป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้ตัวเองได้เขียนหนังสือทุกวัน นักเขียนที่เริ่มต้นไม่สามารถจะอ้าง
เรื่องการงานของเขามาเป็นเหตุว่าทำให้เขาเขียนหนังสือไม่ได้

9. เขาจะต้องรู้ว่ามีนักเขียนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเลี้ยงตัวได้ด้วยการเขียนหนังสือ
น้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับคนที่มีงานอย่างอื่นทำ

10. เขาจะต้องยอมรับในที่สุดว่าเหตุที่เขาไม่ได้เขียนหนังสือ ไม่ได้เป็นนักเขียนเพราะเขา
ไม่ต้องการจะเป็น เพราะคนที่เป็นนักเขียนและประสบความสำเร็จนั้น เขียนได้ในทุก
สภาวะของการดำรงชีวิต ในทุกสภาพที่ไม่เอื้ออำนวย

11. บ่อยครั้งที่เขาอาจจะหยุดคิด คิดว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ล้วนแต่มีคนเคยเขียนไป
ก่อนแล้ว เราไม่มีอะไรที่จะเขียนได้เลย แต่เขาต้องเตือนตัวเองว่าเรื่องอย่างโรมิโอ
จูเลียตนั้น นักเขียนอิตาเลียนคนหนึ่งเคยเขียนมาแล้ว แต่เช็คสเปียร์เล่าเรื่องได้ดีกว่า
และเรื่องเดียวกันนี้ยังนำมาเล่ากันใหม่ คือเรื่องเวสต์ไซด์สตอรี่

12. นักเขียนจะต้องเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่กับตะกร้า ซึ่งไม่ได้หมายความว่าโลกทั้งโลกได้
สิ้นสุดลงแล้วสำหรับความเป็นนักเขียนของเขา เขาหลีกเลี่ยงตะกร้าได้ มีวิธีหลายวิธี
วิธีหนึ่งคือย่าส่งเรื่องไปยังหนังสือที่เจ๊งไปแล้วเมื่อสี่ห้าปีก่อน

13. " นักเขียนจะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัญหาของความหว้าเหว่ เนื่องจากการเขียนหนังสือ
เป็นอาชีพที่หว้าเหว่ เป็นถนนสายหนึ่งที่บุคคลจะต้องเดินคนเดียว "



15 ปีที่แล้วบทความนี้
แปลโดย วาณิช จรุงกิจอนันต์
จากหนังสือฝรั่งเล่มหนึ่ง
ตีพิมพ์ใหม่โดย มติชนสุดสัปดาห์
ในคอลัมน์ของ วาณิช จรุงกิจอนันต์


ผมเห็นว่าดี จึงนำมาพิมพ์ให้ได้อ่านกัน
และขอขอบคุณที่ให้ผมได้เป็นส่วนหนึ่งของ

...บ้านมหา ดอท คอม....
:g:g:g