วันหนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศล ผู้ครองกรุงสาวัตถีได้เสด็จเข้าสู่นิทรารมย์ในราตรีกาล ครั้นล่วงปัจฉิมยามใกล้รุ่งได้ทอดพระเนตรเห็น พระสุบินนิมิตอันใหญ่หลวง ถึง 16 ประการอันเป็นพระสุบินที่แปลกประหลาด จึงทรงตกพระทัยตื่นบรรทมและครั้นรุ่งเช้า ก็ได้ให้พวกพราหมณ์ปุโรหิตประจำราชสำนักทำนายพวกพราหมณ์ปุโรหิต ก็พากันทำนายว่า เป็นพระสุบินที่ร้าย และว่าพระองค์จะต้องประสบภัยอันตราย 3 ประการ ไม่เสียราชทรัพย์ก็จะมีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน หรือไม่ก็ต้องสวรรคต อย่างใดอย่างหนึ่งและแนะให้พระองค์ทำพิธีบูชายัญสัตว์ เพื่อสะเดาะห์เคราะห์เมื่อพระนางมัลลิกา พระมเหสีทราบเรื่องเข้าจึงทูลให้ไปขอคำแนะนำจากพระพุทธเจ้า ซึ่งพระพุทธองค์ก็ได้ทรงทำนายว่าเหตุร้ายนั้นจะมีแน่นอน เพียง แต่มิใช่เกิดแก่พระเจ้าปเสนทิโกศลหรือแว่นแคว้นของพระองค์ แต่เหตุร้ายเหล่านี้จะเกิดแก่สัตว์โลกทั่วๆ ไปและแก่พระศาสนาของพระพุทธองค์ในภายภาคหน้าเมื่อล่วงเลยพุทธกาลไปแล้ว 2500 ปี เมื่อศาสนาเสื่อมลง (กล่าวกันว่าอายุของพุทธศาสนาในกัลป์นี้ ยืนยาวเพียง 5,000 ปี หลังจากนั้นต้องรอยุคของพระศรีอาริยเมตตไตรย์พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปเสด็จมาโปรดสัตว์)
ความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล และคำทำนายของพระพุทธเจ้าทั้ง 16 ประการ ประกอบด้วย
1.ทรงฝันว่า มีโคตัวผู้สีเหมือนดอกอัญชัญ 4 ตัว ต่างคิดจะชนกันก็พากันวิ่งมาสู่ท้องพระลานหลวงจาก 4 ทิศ ฝูงชนต่างรอดูโคทั้งสี่ก็ส่งเสียงคำรามลั่น แต่แล้วต่างก็ถอยออกไป ไม่ชนกัน -พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า ในอนาคตในชั่วศาสนาของพระองค์เมื่อโลกหมุนไปถึงจุดที่เสื่อมลง มนุษย์ไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรมฝนฟ้าจักแล้ง ทุพภิกขภัยจักเกิดขึ้น คล้ายเมฆตั้งเค้าจะมีฝนมีเสียงคำรามกระหึ่ม แต่แล้วก็ไม่ตก กลับเลยหายไปเหมือนโคตั้งท่าจะชนกัน แต่ไม่ชนกันฉะนั้น
2. ทรงฝันว่าต้นไม้เล็กๆ และกอไผ่ที่โตเพียงคืบบ้าง ศอกบ้าง ก็ออกดอกออกผลแล้ว -พระพุทธองค์ทรงทำนายว่า ต่อไปเมื่อโลกเสื่อม มนุษย์แม้จะมีอายุเยาว์มีวัยยังไม่สมบูรณ์ก็จะมีราคะ กล้า และสมสู่กันตั้ง แต่อายุยังน้อยและจะมีลูก แต่เด็กๆ เหมือนต้นไม้เล็กๆ แต่ก็มีผลแล้ว
3.ทรงฝันว่า ทรงเห็นแม่โคใหญ่ๆ พากันดื่มนมของฝูงลูกโคที่เพิ่งเกิด -ทรงทำนายว่า ต่อไปในอนาคตการเคารพนบนอบผู้ใหญ่ เช่น พ่อแม่ครูบาอาจารย์จะเสื่อมถอย คนเฒ่าคนแก่พ่อแม่เมื่อหมดที่พึ่งหาเลี้ยงตนไม่ได้ ก็ต้องง้อ ต้องประจบเด็กๆดังที่แม่โคที่ต้องกินนมลูกโคฉะนั้น
4. ทรงฝันว่าผู้คนไม่ใช้วัวตัวใหญ่ ที่สมบูรณ์แข็งแรงเทียมแอกลากเกวียนกลับไปใช้โครุ่นๆ ที่ยังปราศจากกำลังมาลากเมื่อมันลากเกวียนให้แล่นไม่ได้ มันก็สลัดแอกนั้นเสีย - ทรงทำนายว่าในภายหน้าเมื่อผู้มีอำนาจไม่ตั้งอยู่ในธรรมแทนที่จะยกย่องและมอบหมายหน้าที่ ให้กับผู้มีสติปัญญา ความรู้กลับไปมอบยศศักดิ์ให้กับคนหนุ่มที่อ่อนหัด ด้อยประสบการณ์ทำให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่ดี กิจการต่างๆ ก็ไม่สำเร็จก็เหมือนใช้โครุ่นมาเทียมแอก เกวียนก็แล่นไม่ได้ฉันใด ก็ฉันนั้น
5.ทรงฝันว่า เห็นม้าตัวหนึ่ง มีปากสองข้างฝูงชนก็เอาหญ้าไปป้อนที่ปากทั้งสองข้าง มันก็กินทั้งสองข้าง -ทรงทำนายว่า ในอนาคตเมื่อผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจไม่ดำรงอยู่ในธรรมตั้งคนพาล หรือคนไม่มีศีลธรรมไว้ในตำแหน่งอันมีผลต่อผู้อื่นคนเหล่านั้นก็จะไม่นึกถึงบาปบุญ คุณโทษ แต่จะตัดสินคดีต่างๆ ตามแต่ใจชอบ โดยเอาสินบนจากทั้งสองฝ่ายเป็นประมาณดังม้าที่กินหญ้าทั้งสองปาก
6. ทรงฝันว่า ฝูงชนเอาถาดทองราคาแพงไปให้หมาจิ้งจอกแก่ตัวหนึ่ง พร้อมเชื้อเชิญให้หมาจิ้งจอกตัวนั้นถ่ายปัสสาวะใส่ถาดทองนั้น - ทรงทำนายว่าต่อไปคนดีมีสกุลทั้งหลายจะสิ้นอำนาจวาสนา คนตระกูลต่ำหรือคนพาลจะได้เป็นใหญ่เป็นโต และคนมีตระกูล ก็จะต้องยกลูกสาวให้แก่ผู้ไร้ตระกูลเหล่านั้น เหมือนเอาถาดทองไปให้หมาปัสสาวะรด
7.ทรงฝันว่ามีชายคนหนึ่งนั่งฟั่นเชือก แล้วหย่อนไปในที่ใกล้เท้าแม่หมาจิ้งจอกโซตัวหนึ่ง นอนอยู่ใต้ตั่งที่บุรุษนั้นนั่งอยู่แล้วก็กัดกินเชือกนั้น โดยที่เขาไม่รู้ตัว - ทรงทำนายว่าในกาลข้างหน้า ผู้หญิงจะเหลาะแหละ โลเล ลุ่มหลงในสุรา เอา แต่ แต่งตัวเที่ยวเตร่ ประพฤติทุศีลแล้วก็จะเอาทรัพย์ที่สามีหาได้ด้วยความลำบากไปใช้ หรือให้ชายชู้เหมือนนางหมาโซที่นอนใต้ตั่ง คอยกัดกินเชือกที่เขาฟั่นและหย่อนลงไว้ใกล้เท้า
8. ทรงฝันว่ามีตุ่มน้ำเต็มเปี่ยมตุ่มหนึ่งวางอยู่ตรงประตูวัง แวดล้อมด้วยตุ่มว่างๆเป็นอันมาก แต่คนก็ยังไปตักน้ำใส่ตุ่มที่เต็มอยู่ จนล้นแล้วล้นอีกโดยไม่เหลียวแลจะตักใส่ตุ่มที่ว่างๆ นั้นเลย - ทรงทำนายว่า ในอนาคตเมื่อศาสนาเสื่อม คนเป็นใหญ่หรือมีอำนาจจะเบียดเบียนหรือเอาเปรียบผู้ด้อยกว่า คนที่รวยอยู่แล้วก็จะมีคนจนหารายได้ ไปส่งเสริมให้รวยยิ่งขึ้นดังฝูงชนที่ต้องตักน้ำใส่ตุ่มใหญ่ที่เต็มอยู่แล้วจนล้นส่วนตุ่มที่ว่างอยู่กลับไม่ไปใส่น้ำ
9.ทรงฝันเห็นสระแห่งหนึ่ง มีบัวนานาชนิดขึ้นอยู่เต็มและมีท่าขึ้นลงโดยรอบ สัตว์ต่างๆ ก็พากันดื่มน้ำในสระแต่แทนที่น้ำบริเวณที่สัตว์เหยียบย่ำจะขุ่น กลับใสสะอาดส่วนน้ำที่อยู่ลึกกลางสระที่สัตว์ไม่ไปดื่มหรือเหยียบย่ำแทนที่จะใส กลับขุ่นข้น - ทรงทำนายว่า ต่อไปเมื่อคนมีอำนาจไม่ตั้งอยู่ในธรรม ขาดเมตตา คอยใช้อำนาจรีดนาทาเร้นหรือกินสินบน ชาวบ้านชาวเมืองก็จะหนีไปอยู่ตามชายแดนหรือที่อื่นๆ ทำให้ที่นั้นๆที่คนพากันไปอยู่มีความมั่นคงเป็นปึกแผ่น เหมือนน้ำรอบๆ สระที่ใสส่วนเมืองหลวงกลับว่างเปล่า เหมือนกลางสระที่ขุ่น
10. ทรงฝันว่าเห็นข้าวที่คนหุงในหม้อใบเดียวกัน สุกไม่เท่ากัน โดยแบ่งออกเป็น 3ส่วนคือ ข้าวแฉะ ข้าวดิบ และข้าวสุกดี - ทรงทำนายว่า ในอนาคตเมื่อคนทั้งหลายไม่อยู่ในศีลในธรรมกันมากขึ้นก็จะทำให้ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล หรือตกไม่ทั่วถึงทำให้การเพาะปลูกบางแห่งได้ผล บางแห่งก็ไม่ได้ผลเช่นเดียวกับข้าวที่มีสุกบ้าง ดิบบ้าง และแฉะบ้าง
11. ทรงฝันว่าคนนำแก่นจันทน์ที่มีราคาแพง ไปแลกกับเปรียงเน่า (อ่านว่า เปฺรียง มี 3ความหมาย คือ 1. นมส้มผสมน้ำแล้วเจียวให้แตกมัน 2.น้ำมันจากไขข้อวัวและ 3.เถาวัลย์เปรียง แต่ในที่นี้น่าจะหมายถึงเถาวัลย์เปรียงเทียบกับแก่นจันทน์ที่เป็นไม้เหมือนกันมากกว่า 2 ความหมายแรก) -ทรงทำนายว่า กาลภายหน้า พระภิกษุอลัชชีเห็นแก่ได้ทั้งหลายแทนที่จะนำธรรมะ ที่พระพุทธองค์สอน ไปสอนสั่งให้คนหลุดพ้นจากความทุกข์และละความโลภ กลับใช้เป็นเครื่องมือเพื่อหากินหาปัจจัยบริจาคเข้าตัวเอง เหมือนเอาแก่นจันทน์ (ธรรมะคำสอนที่ดี)ไปแลกเอาเถาวัลย์เน่า (ลาภอามิสที่ได้รับมาซึ่งไม่จีรังและไม่ช่วยให้พ้นทุกข์จริงๆ ได้)
12.ทรงฝันเห็นกระโหลกน้ำเต้าจมน้ำได้ - ทรงทำนายว่า ต่อไปคำพูดของคนที่ไม่ควรจะได้รับความเชื่อถือ กลับจะได้รับความเชื่อถือโดยเปรียบถ้อยคำของคนที่ไม่น่าเชื่อว่า มีน้ำหนักเบาเหมือนกับผลน้ำเต้าซึ่งปกติจะลอยน้ำ แต่เมื่อคนเชื่อว่า คำพูดเหล่านั้นมีน้ำหนักหรือหนักแน่น จึงเปรียบคำพูดนั้นว่า มีน้ำหนักราวกับน้ำเต้าที่จมน้ำได้
13. ทรงฝันว่า ศิลาแท่งทึบขนาดเรือนลอยน้ำได้เหมือนเรือ - ทรงทำนายว่า ถ้อยคำของคนที่ควรได้รับการเชื่อถือซึ่งหนักแน่น มีน้ำหนักเปรียบประดุจแท่งศิลา กลับไม่ได้รับความเชื่อถือหรือกลายเป็นถ้อยคำที่ไม่มีน้ำหนักเหมือน เรือที่ลอยได้ข้อนี้ตรงกันข้ามกับข้อที่แล้ว คือคนหันไปเชื่อคำพูดคนที่ไม่ควรเชื่อ เหมือนสิ่งที่ควรลอยกลับจมสิ่งที่ควรจมกลับลอย
14. ทรงฝันว่า ทรงเห็นฝูงเขียดตัวเล็กๆวิ่งไล่กวดงูเห่าตัวใหญ่ และกัดเนื้องูเห่าขาดเหมือนกัดก้านบัวแล้วกลืนกินเข้าไป - ทรงทำนายว่า เมื่อมนุษย์ปล่อยตัวปล่อยใจตามกิเลสราคะ สามีจะตกอยู่ในอำนาจของเมียเด็ก และจะถูกดุด่าว่ากล่าวเช่นเดียวกับคนรับใช้ เหมือนเขียดตัวเล็กๆ แต่กลับกินงูได้
15.ทรงฝันว่า ฝูงพญาหงส์ทอง ที่มีขนเป็นทอง ถูกแวดล้อมด้วยกา - ทรงทำนายว่าในอนาคตผู้มีตระกูลต้องไปเที่ยวประจบ และสวามิภักดิ์ต่อผู้ไม่มีตระกูลเหมือนหงส์ทองแวดล้อมด้วยกา
16. ทรงฝันว่าฝูงแกะพากันไล่กวดฝูงเสือเหลือง และกัดกิน ทำให้เสืออื่นๆ สะดุ้งกลัวจนต้องหนีไปแอบซ่อนตัวจากฝูงแกะ - ทรงทำนายว่า ต่อไปภายหน้า คนชั่วหรือคนที่ไม่ดีจะเรืองอำนาจ และใช้อำนาจเป็นธรรม ทำให้คนดีถูกทำร้ายหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องหลบหนี ซ่อนตัวจากภัยร้ายเหล่านี้เหมือนเสือซ่อนตัวจากแกะ
เมื่อพิจารณาความฝัน จะเห็นว่าหลายข้อในความฝัน เป็นสิ่งที่ผิดไปจากธรรมชาติ เช่น แม่โคกินนมลูกโคม้าสองปาก เขียดกินงู และแกะกินเสือ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีนัยอันไปสู่พุทธทำนายทั้งสิ้น หลายคนอาจจะสงสัยว่าพระเจ้าปเสนทิโกศล กษัตริย์ในสมัยพุทธกาล ทำไมฝันได้ไกลไปถึงอนาคตอันไม่เกี่ยวข้องกับพระองค์ได้ถึงเพียงนี้ ผู้เขียนเชื่อว่า คงเป็นเพราะเทวดาดลใจ ให้พระองค์ฝันแปลกประหลาด เพื่อพระบรมศาสดาจะได้ฝากพุทธทำนาย เป็นคำพยากรณ์อันอมตะไว้ เป็นเครื่องเตือนสติให้มนุษย์โลกได้ตระหนัก และระมัดระวังภัยพิบัตินานัปการที่จะเกิดขึ้นในภายหน้าหลังจากที่พระพุทธองค์ดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้วเพราะคงเล็งเห็นด้วยญาณวิเศษแล้วว่านับวันคนเราก็จะห่างไกลจากหลักธรรมคำสั่งสอนของพระองค์จนเป็นเหตุให้มนุษย์มุ่งทำลายเอารัดเอาเปรียบทั้งเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง และสิ่งแวดล้อมรอบตัวเพื่อกอบโกยไปบำรุงบำเรอกิเลสแห่งตน โดยขาดความรัก ความเมตตาต่อกันจึงทำให้คนเห็นแก่ตัว และมีผลให้สภาพแวดล้อม ธรรมชาติแปรปรวนไปหมด
ในปัจจุบันเหตุการณ์หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ เช่น ฝนแล้งอันทำให้เพาะปลูกได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้างปัญหาเรื่องศีลธรรมและจริยธรรม เช่น เด็กและเยาวชนแก่แดดขึ้นมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยเพิ่มขึ้น ลูกขาดความกตัญญูและความเคารพยำเกรงต่อพ่อแม่ อลัชชีหรือพระทุศีลมีมากขึ้นชายแก่ตกอยู่ในอำนาจเมียเด็ก หรือปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมเช่น คนขาดความรู้ประสบการณ์ ได้รับแต่งตั้งให้ปกครองบ้านเมืองเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ผู้มีอำนาจรับสินบนก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป คนรวยยิ่งรวย เพราะมีช่องทางและโอกาสเอาเปรียบคนจนเหมือนตุ่มใหญ่ที่คนตักน้ำไปใส่จนเต็มแล้วเต็มอีกแล้วปล่อยตุ่มเล็กให้ว่างเปล่า ตัวอย่างเหล่านี้ล้วนไม่พ้นคำพยากรณ์ที่ทรงทำนาย บอกแก่พระเจ้าปเสนทิโกศลว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตของสมัยโน้น ก็คือ สมัยนี้หรือปัจจุบันนั่นเอง
อย่างไรก็ดีก็ยังมีพุทธทำนาย เพิ่มเติมที่มีผู้ถอดความจากศิลาจารึก เชตมหาวิหารสวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย ความว่าพระพุทธองค์ได้ทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า....เมื่อศาสนาตถาคตล่วงเลยไปถึงกึ่งพุทธกาลสัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดในยุคนั้น จะพบกับความลำบากทุกชาติทุกศาสนาตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนเวียนไปใกล้ความแตกทำลายแผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟมนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทิศ คนในสมัยนั้น(ปัจจุบัน)จะมีวิสัยโหดดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิตจะรบราฆ่าฟันกันถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวายในกุศลตามวัจนะของตถาคต ก็จะระงับร้อนไม่รุนแรงบ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงในพระรัตนตรัย และคุณบิดามารดาเหตุร้ายภัยพิบัติจักเบาบางแต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น...ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตเสื่อมลงมากเพราะพุทธบริษัทไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม เชื่อคำของคนโกง กล่าวคำเท็จไม่เคารพหลักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับการเชื่อถือในสังคมผู้มีศีลธรรมประพฤติชอบ กลับไม่มีคนเคารพยำเกรงพระธรรมจะเริ่มเปล่งแสงรัศ มีฉายส่องโลกอีกวาระหนึ่ง
เมื่อมีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์(น่าจะหมายถึงพระศรีอาริยเมตตไตรย์)....จะเสด็จมาเสริมสร้างพระศาสนาของตถาคตให้รุ่งเรืองสืบไปอีก 5,000 พระวรรษาคำทำนายของตถาคตนี้ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อนับเป็นกรรมของสัตว์โลกที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตนผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศีลห้าประการ เจริญเมตตากรุณาประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดษ รู้จักพอ ไม่หลงมัวเมาในอำนาจและลาภยศตั้งใจประพฤติตนตามคำสอนของตถาคตให้มั่นคงจึงจะพ้นอันตรายในยุคกึ่งพุทธกาล นี่คือพุทธทำนายที่ทรงตรัสไว้ กว่า2500 ปีล่วงมาแล้ว ส่วนใครจะเชื่อ จะปฏิบัติหรือไม่อย่างไรก็คงเป็นไปตามกรรม ของ แต่ละคนดังพระพุทธองค์ว่า ไว้
Bookmarks