กำลังแสดงผล 1 ถึง 10 จากทั้งหมด 10

หัวข้อ: +คนก่อนตายจะต้องเห็นนิมิตรก่อน+

  1. #1
    ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา สัญลักษณ์ของ sompoi
    วันที่สมัคร
    Mar 2007
    ที่อยู่
    japan
    กระทู้
    5,708
    บล็อก
    23

    +คนก่อนตายจะต้องเห็นนิมิตรก่อน+

    คนก่อนจะตายต้องเห็นนิมิตก่อน*


    "..ตามที่หนังสือโบราณท่านเขียนไว้ *"**คนก่อนจะตายต้องเห็นนิมิต"
    สมัยหลวงพ่อปาน *ท่านก็เขียนไว้ ท่านบอกว่าลอกมาจากตำรับตำรา ท่านบอกว่า
    *คนก่อนจะตายต้องเห็นนิมิต
    *คือ
    ๑) เวลาก่อนจะตาย ถ้าเห็นไฟ กองไฟ หรือดวงไฟ แสดงว่าคนนั้นตายแล้วตรงไปนรกทันที
    ไม่ผ่านสำนักพระยายมราช
    ๒) เวลาก่อนจะตาย ถ้าเห็นป่า จะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
    ๓) เวลาก่อนจะตาย ถ้าเห็นก้อนเนื้อ จะเกิดเป็นคน
    ๔) เวลาก่อนจะตาย ถ้าเห็นสิ่งที่เป็นบุญเป็นกุศล เช่นของที่เราเคยให้ทาน
    หรือวัดที่เราเคยทำบุญ พระที่เราเคยไหว้จะเป็นพระพุทธรูปก็ตาม พระสงฆ์ก็ตาม
    เป็นอันว่าสิ่งที่เป็นบุญเป็นกุศลอย่างนี้ ก็จะไปเกิดบนสวรรค์คือไปสู่สุคติ
    ตามที่หลวงพ่อปานเขียนมาอย่างนี้
    อาตมาไม่ใช่ต้องการพิสูจน์แต่ได้ไปประสบเข้าโดยคาดไม่ถึง
    นั่นก็คือมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งชื่อ *"**จวน" *นามสกุลจำไม่ได้
    อยู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เวลานั้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ สมัยท่านจอมพลแปลก
    พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี ได้เกณฑ์คนไปทำงานที่จังหวัดเพชรบูรณ์
    ต้องการจะเอาคนงานทั้งหมดเป็นทหารต่อต้านญี่ปุ่น คุณจวนก็ไปทำงานที่นี่ด้วย
    เมื่อเลิกสงครามก็เลิกทำงาน กลับมาก็ปรากฏว่าเป็นโรคไข้
    ต่อมาก็เป็นวัณโรคคือเป็นโรคฝีในท้อง เป็นโรคปอด
    วันสุดท้ายของชีวิตของเธอ อาตมาไปเทศน์ที่จังหวัดสุพรรณบุรี
    พอดีกลับมามีคนเขาบอกว่า "จวนป่วยหนัก" ประมาณ ๔ โมงเย็น
    อาตมานิมนต์พระไปเป็นเพื่อนอีก ๔ องค์
    ที่นำพระไปด้วยก็คิดว่าคนป่วยหนักถ้าเห็นพระอาจจะเป็นมงคลก็ได้
    เพราะตามตำราท่านบอกว่า ถ้าเห็นสิ่งที่เป็นกุศลคนนั้นจะไปสวรรค์
    พอไปถึงคุณจวนก็อาการหนักจริงๆ หายใจช้าๆ แล้วก็เบาลงๆ อาตมาไปนั่งข้างๆ
    เรียกชื่อ "จวน จำฉันได้ไหม" ท่านเหลียวหน้ามาพยักหน้าตอบว่า "จำได้"
    เสียงเบามาก จึงถามเธอว่า "เวลานี้เห็นอะไรไหม ไม่ใช่เห็นฉัน
    มีภาพอะไรลอยข้างหน้าบ้าง"
    ท่านก็ตอบว่า* "**เวลานี้มีภาพไฟลอยข้างหน้า"*
    ท่านก็แสดงอาการหวาดกลัวไฟมาก เมื่อฟังเท่านั้นก็ตกใจ คิดว่าท่าจะไม่ได้การแล้ว
    *นิมิตอย่างนี้ถ้าเห็นตายแล้วไปนรกทันที *
    ก็คิดอะไรไม่ถูกจึงถามว่า "จวน ภาวนาว่า*พุทโธ*ได้ไหม"
    เธอส่ายหน้าบอกว่า "คิดไม่ออก"
    อาตมาจึงหันไปถามภรรยาท่านว่า "มีสตางค์ไหม"
    เธอก็ตอบว่า "มี"
    ก็เลยบอกว่า "ถ้ามีละก็ขอสัก ๒๐ บาทได้ไหม"
    เธอก็นำธนบัตรใบละ ๒๐ บาทมาให้ อาตมาก็นำไปใส่มือจวน
    เอามือทั้งสองประกบกันในท่าพนมมือแล้วบอกว่า
    *"**จวน เอาอย่างนี้นะ ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง เราจะตาย
    หรือไม่ตายนั้นไม่มีความสำคัญ ตั้งใจทำบุญก็แล้วกันนะ เวลานี้ฉันมาพร้อมกับพระ
    ๔ องค์ ขอจวนตั้งใจชำระหนี้สงฆ์ ให้คิดว่าของต่างๆ
    ในวัดทั้งหลายที่มีพระสงฆ์ก็ดี หรือไม่มีพระสงฆ์ก็ดี
    เป็นวัดร้างมีพระพุทธรูปก็ดี หรือเป็นวัดร้างไม่มีพระพุทธรูปก็ดี
    หรือเป็นที่ธรณีสงฆ์ ไม่มีสภาพเป็นวัดก็ตาม เราไปนำอะไรมาจากที่นั่นก็ตาม
    จะเป็นของหนักก็ดี ของเบาก็ดี ของน้อยก็ตาม ของมากก็ตาม มีค่ามากก็ตาม
    มีค่าน้อยก็ตาม ขอชำระหนี้สงฆ์ด้วยเงิน ๒๐ บาท"*
    ท่านก็พูดเบาๆ ตามแล้วก็น้อมทำท่าผงกศีรษะนิดหน่อย ก็เลยบอกพระ ๔ องค์ว่า
    "คุณทั้งหลายถ้าเห็นชอบให้ สาธุ พร้อมกันนะ"
    พระทั้งหลายก็* "**สาธุ"*พร้อมกัน พอพระสงฆ์สาธุพร้อมกัน
    รู้สึกว่าจิตใจของท่านสดชื่นขึ้นมามาก ถามว่า "จวน เวลานี้เห็นภาพอะไร
    ไฟหายไปแล้วหรือยัง"
    ท่านก็ตอบ *"**ไฟหายไปแล้ว"*
    ถามว่า "เห็นภาพอะไร"
    ท่านบอก *"**เห็นภาพพระประธานในพระอุโบสถวัดบางนมโค"
    *เพราะว่าท่านเคยบวชที่วัดบางนมโคและก็ไปทำวัตรเป็นประจำ


    ถามว่า "เห็นชัดไหม"
    ท่านก็บอก "เห็นชัด อยู่ใกล้มาก"
    เลยบอกว่า "จวน นึกในใจก็ได้นะ ออกเสียงมันจะเหนื่อย นึกภาวนาในใจว่า *พุทโธ*"
    แทนที่ท่านจะนึกในใจกลับออกเสียงว่า "พุทโธๆ ๆ ๆ" เบาๆ ว่าไปสัก ๓-๔ ครั้ง
    รู้สึกว่าหายใจเบาลงแต่ว่ามีเสียงเล็กน้อย
    ถามว่า "จวน เวลานี้เห็นพระไหม"
    ท่านตอบว่า "เห็นพระ"
    ถามว่า "ชัดขึ้นไหม"
    ท่านก็ตอบว่า* "**ชัดเจนแจ่มใสมาก สุกสว่างใหญ่กว่าเดิมมาก"*
    เลยบอกว่า *"**ถ้าอย่างนั้น นึกถึงพระเป็นที่พึ่งนะ
    นึกถึงว่าเวลานี้เราอยู่กับพระพุทธเจ้า ภาพที่เห็นคือภาพพระพุทธเจ้า
    พระพุทธเจ้าท่านมาสงเคราะห์ จะหายจากโรค ถ้าจำเป็นต้องตายก็ไปสวรรค์"*
    ท่านยิ้มนิดหนึ่งแล้วบอกว่า* "**พอพูดจบก็มีวิมานลอยมาอยู่ข้างหน้า
    พระท่านก็ชี้บอกว่า วิมานนี้เป็นของเธอ"*
    จึงถามว่า *"**เวลานี้ต้องการอยู่บ้านหรือต้องการอยู่วิมาน"*
    ท่านก็ตอบเบาๆ ว่า* "**ต้องการวิมานครับ"*
    ก็ไม่ต้องรบกวนให้เหนื่อยต่อไปจึงบอกว่า "ตั้งใจไปวิมานนะ ภาวนาว่า*พุทโธ*"
    ท่านก็ภาวนาเบาๆ ว่า "พุทโธๆ ๆ ๆ"
    ในที่สุดก็เงียบไปพร้อมกับคำภาวนาและลมหายใจเข้าออก
    *รวมความว่า*ท่าน*ตายคู่กับพุทโธ*
    *เป็นอันว่า นิมิตเครื่องหมายมีจริง*อาตมาพบมาเองหลายสิบราย
    และวิธีแก้ก็มีวิธีเดียวคือวิธีนี้ เพราะว่าเวลานั้นอย่างอื่นมันแก้กันไม่ได้
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินชำระหนี้สงฆ์ ถ้าบังเอิญเขาไม่เป็นหนี้สงฆ์
    ก็เป็นสังฆทานและวิหารทาน รวมความว่าเป็นบุญใหญ่ที่เขาจะพึงได้รับ
    *เป็นอันว่ามนุษย์เราที่ตาย ทุกคนจะเห็นนิมิตก่อน*
    แต่ว่านิมิตที่ดีและถูกตัดรอนเพราะกฎของกรรมก็มี.."


    ที่มาข้อมูลhttp://www.thaisquare.com/Dhamma


    มองต่าง..อย่างปลง

  2. #2
    ท่องเวบ สัญลักษณ์ของ pui.lab
    วันที่สมัคร
    Jul 2006
    ที่อยู่
    โสดไม่มีใครเอา หรือว่าเราไม่เอาใคร
    กระทู้
    8,954
    บล็อก
    9
    ๔) เวลาก่อนจะตาย ถ้าเห็นสิ่งที่เป็นบุญเป็นกุศล เช่นของที่เราเคยให้ทาน
    หรือวัดที่เราเคยทำบุญ พระที่เราเคยไหว้จะเป็นพระพุทธรูปก็ตาม พระสงฆ์ก็ตาม
    เป็นอันว่าสิ่งที่เป็นบุญเป็นกุศลอย่างนี้ ก็จะไปเกิดบนสวรรค์คือไปสู่สุคติ
    ตามที่หลวงพ่อปานเขียนมาอย่างนี้

    ยังไม่เคยตาย แต่ว่าฝันแบบนี้บ่อยๆ แปลว่าอย๋างงงงงคะส่ม
    บ้านมหาดอทคอม เว็บไซต์ส่งเสริม ศิลปะ วัฒนธรรมไทย ศิลปิน ความรู้ออนไลน์
    st1: มิตรภาพและรอยยิ้ม กับดีเจคนไกลบ้าน st1:

  3. #3
    เห็นด้วยครับพี่มิ๊ก
    ก่อนตายดวงจิตเราเป็นอย่างไรก็เป็นเหตุไปสู่ภพหน้า ถ้าจิตเราเบิกบาน นึกถึงความดีงามที่เคยทำมาสุขคติภูมย่อมเป็นที่หวัง ในทางตรงกันข้ามถ้าจิตเศร้ามองทุกขติภูมเป็นอันต้องหวัง
    เสียดายความดีที่มีให้
    เสียดายหัวใจและเวลา
    เสียดายที่ที่โดนหลอกตลอดมา
    เสียดายคุณค่าความจริงใจ

  4. #4
    boontam2511
    Guest
    การทำบุญสมปรารถนา ของคน ของพระ ไม่เหมื่อนกัน

  5. #5
    ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา สัญลักษณ์ของ sompoi
    วันที่สมัคร
    Mar 2007
    ที่อยู่
    japan
    กระทู้
    5,708
    บล็อก
    23
    เจ๊ปุ้ย / คาดว่า เพราะเจ๊ เป็นคนบุญ จิตใตกะเลยมุ่งใฝ่ไปทางนั่นอ่ะจ้า ..อนุโมทนา สาธุนำเด้อเจ๊

    พอกะเทิน / พี่กะคึดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดในเวลาภายในขณะนั่นของพระ ที่เพิ่นสามารถเฮ็ดได่คือกันล่ะหล่า ละกะคึดไปอิกนำแง่หนึ่งกะคล้ายไปทางจิตวิทยานำเนาะ..แล้วแต่ควมเสื่อแต่ละคนเนาะ..ใช้พิจารณญาณกันเอาจ้า..บ่มีไผ๋สามารถพิสูจน์ได่ แต่ถ่ามีโอกาสทำบุญไว่กะดี บ่เสียหายหยังเนาะจ้า..
    มองต่าง..อย่างปลง

  6. #6
    ฮอดมื้อนั่นมากะแล้วแต่บุญกรรมที่ทำไว้หละจ้าพี่มิก...เห็นอันใด๋กะคือสิรับเอาอันนั่นหละจ้า..รับได้เสมอ
    คนที่กล้าจะพ่ายแพ้เท่านั้น...ที่จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

  7. #7
    สาวต้นอ้อ
    Guest
    อ้อไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะว่าชีวิตของคนเราก่อนตายจะเห็นนิมิตร
    ถือว่าได้ความรู้ใหม่เชรยวล่ะค่ะ พี่มิ๊ก ( เรียกตามคุณพอกระเทินค่ะ)

    อ้อชอบคำกล่าวที่ว่า...

    "ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง เราจะตาย
    หรือไม่ตายนั้นไม่มีความสำคัญ ตั้งใจทำบุญก็แล้วกัน
    "

    ขอบคุณพี่มิ๊กมาก ๆ น่ะค่ะที่เอาข้อมูลดี ๆ แบบนี้มาฝากค่ะ

  8. #8
    chaleepv
    Guest
    อยากเหงก้อนเนื้อ อยากเปงคน เพราะเทวดา ทำบุญมะได้

    คนทำได้ อิอิ

    แป่ว

  9. #9
    กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ chaleepv
    อยากเหงก้อนเนื้อ อยากเปงคน เพราะเทวดา ทำบุญมะได้

    คนทำได้ อิอิ

    แป่ว
    แม่นตั๊วเนาะครับ เวลาเทวดาสิจุติ พวกหมู่ๆเทวดากะสิมาอวยพร อวยพรว่า "ขอให้ได้ไปเกิดในมนุษยภูมิ" แสดงว่ามนุษย์ภูมิเป็นที่หวังของเทวดาทั้งหลาย ในทางกลับกัน มนุษย์กลับอวยพรให้ไปเกิดที่สวรรค์
    เสียดายความดีที่มีให้
    เสียดายหัวใจและเวลา
    เสียดายที่ที่โดนหลอกตลอดมา
    เสียดายคุณค่าความจริงใจ

  10. #10
    ธีรวัฒน์ ผู้เจริญ
    Guest
    ขอบคุณครับที่ให้ความฮู้ใหม่ๆๆๆๆๆๆๆๆ

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •