เมื่อดอกไม้เริ่มบาน....เราดีใจ
แต่ตอนที่ใบไม้หล่นร่วง
ไม่มีใครทันสังเกตุ
คนกรุงเทพฯ อาจรู้สึกเฉยๆ
กับความอบอุ่นของแดดฤดูร้อน
แต่สองวันในรอบหนึ่งปี ที่ลมหนาววูบผ่าน
กลับเป็นความทรงจำที่มีค่า
เตรียมเสื้อหนาวหนา เฝ้ารอคอยการพัดผ่านมาถึง
เรารู้ว่าฤดูฝนนั้นยาวนาน
แต่ใครรู้บ้างว่าวันแรกของฤดูฝนนั้น....คือวันไหน
ไฟแช็คมักถูกลืมไว้ที่ไหนสักแห่ง
แต่เราก็บอกกับตัวเองว่า...ช่างมันเถอะ
น้ำแข็งเหลือ....แต่โซดาหมด
โซดาหมด....แต่น้ำแข็งเหลือ
หรือทุกอย่างยังไม่หมด
แต่ร้านกำลังจะปิด
เราเริ่มคุยกันออกรสชาติ
เมื่อเวลาเหลือน้อยเต็มที
บุหรี่งอๆ ตัวสุดท้ายในซอง
จะถูกจุดและมอดไหม้ไปด้วยความรู้สึกเสียดาย
น้ำชาไม่มีวันร้อนได้ตลอดไป
แล้วน้ำชาที่ไม่ร้อน
เรายังเรียกว่าน้ำชาอยู่รึเปล่า
หลายๆครั้งที่เราไม่ทันได้นึก
ว่าชั่วขณะนี้ เรากำลังหายใจอยู่
ลมหายใจแรกของทารกน้อย
เป็นการหายใจเข้า
หรือว่าหายใจออก
แล้วลมหายใจสุดท้ายล่ะ
สิ่งที่เราคุ้นเคยว่ามันมีอยู่
สิ่งที่เราเชื่อว่ามันเคยอยู่ตรงนั้นเสมอ
สิ่งเหล่านั้นมักจะถูกมองผ่านไป
แต่บางสิ่งที่เราไม่มี
ไม่เคยมี
หรือ ไม่อาจมี
บ่อยครั้ง ที่มันกลายสภาพเป็นสิ่งตกค้าง
หลงเหลืออยู่ในใจของเรา
บางที...
ความรักที่เป็นไปไม่ได้ ของใครสักคน
อาจจะเป็นความสวยงามที่สุดในชีวิต
จดหมายน้อยจากความหลังเพียงฉบับเดียว
เดินทางมาจากไกลแสนไกล
ช่วยยืดอายุความปรารถนาในใจไม่ให้แผ่วบางลงตามวันเวลา
ความคิดถึง
ยังคงแอบซ่อนตัวอยู่ตามบทเพลงต่างๆ
รอให้ใครสักคนจับได้
ก่อนจะหันกลับไปปิดตา
นับหนึ่งถึงสิบไหม่
วันพรุ่งนี้
อาจมีใครสักคน
เดินทางกลับมาจากชมพูทวีป
เพื่อนำความจริงมาเปิดเผย
หรือใครบางคน ที่ได้เดินทางไป
เขาอาจจะไม่ย้อนกลับมาอีกเลย
เก็บความจริงไว้ ณ ดินแดนห่างไกล
....ชั่วนิรันดิ์
สะเก็ดแผลที่แห้งแล้ว
หลุดลอกออกไปตอนไหน
การจามครั้งสุดท้ายก่อนจะหายจากการเป็นหวัด
นั้นคือเมื่อไหร่
เด็กนักเรียนนั่งหาวจนน้ำตาเล็ด
เฝ้ามองเข็มนาฬิกา
อยากเร่งให้มันเดินเร็วกว่านี้
เมื่อไหร่จะหมดคาบเรียนเสียทีนะ
ในขณะที่วันหยุดสุดสัปดาห์นั้นแสนสั้น
ทำไมต้องรู้สึกว่าชีวิตทั้งชีวิตนั้นต้องอยู่แต่ในห้องเรียน
บทเพลงยังคงบรรเลงไปอย่างช้าๆ
ดอกไม้ก็เริ่มบานอีกครั้ง...
จิ้งหรีดในเมืองสีเทา
Bookmarks