เครื่องปรุง ปลากรอบ ใบมะขาม ฝักบักขามอ่อน และดอกบักขาม (ถ้ามี) ส้มบักขามเปียก หอมแดง ข่าแก่ ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกแห้ง ผักชีฝรั่ง มะนาว น้ำปลา
ทีเด็ดเคล็ดไม่ลับ
- เนื้อสัตว์ที่จะนำมาต้มโคล้งต้องปิ้ง ย่าง เผา ทอด มาจนสุกเสียก่อน ถ้าเป็นปลาช่อนหรือปลาสลิดเค็ม (และแห้ง) หัวปลาช่อนแห้ง (เค็ม) ก็ต้องนำมาย่างไฟให้หอมเสียก่อน
- เครื่องปรุงที่เพิ่มขึ้นมาจากต้มยำทั่วไปคือหอมแดงเผาบุบพอแตก พริกที่ใส่ในต้มโคล้งใช้พริกแห้งปิ้งไฟจนเกรียม
- ต้มโคล้งอีกสูตรหนึ่งไม่ใส่เครื่องต้มยำ คือ ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด
ลงมือกันเลย ตั้งหม้อใส่น้ำสะอาดลงไปประมาณครึ่งลิตร ตามด้วยส้มมะขามเปียก แกะเอาแต่เนื้อก้อนเท่าหัวแม่มือ หรือบักขามอ่อน ๒-๓ ฝัก บุบพอแตกก็ได้ หอมแดงเผาไฟปอกเปลือกบุบพอแตก ๕-๗ หัว ใส่ลงไปต้มด้วยกัน พอน้ำในหม้อเดือดใส่ปลากรอบที่คั่วไว้แล้วลงไปเคี่ยวสักพัก พอเนื้อปลาอมน้ำแกงใส่ข่าแก่ฝานเป็นแว่น ๕-๗ แว่น ตะไคร้หั่นเป็นท่อนขนาด ๒ องคุลี ๔-๕ ท่อน ใบบักขามอ่อนที่ปลิดเอาก้านแข็งๆออกแล้ว และดอกมะขามรวมกัน ๒ กำมือ ลงไป พอเดือดอีกครั้งใส่ใบมะกรูดแล้วยกลง
เมื่อจะตั้งสำรับ อุ่นต้มโคล้งให้เดือดอีกครั้ง พริกแห้งเม็ดใหญ่เสียบไม้อังกับเปลวไฟห่างๆให้เกรียมหอม ๒-๓ เม็ด (ถ้าชอบเผ็ดจะใช้พริกขี้หนูแห้งก็ได้) ตักต้มโคล้งใส่ถ้วยให้มีทั้งเนื้อปลาและใบมะขาม ปรุงรสเปรี้ยว เค็ม เพิ่มด้วยมะนาวและน้ำปลาจนพอใจ บิดผักชีฝรั่ง ๔-๕ ใบ โรยหน้าตามด้วย บิพริกแห้งที่ปิ้งไว้โรยหน้าอีกหนึ่ง ซดร้อนๆ ชุ่มหัวอกชื่นหัวใจดีคัก
Bookmarks