สาวๆ จ๋า เมื่อหน้าฝนมาเยือนการเดินทางย่อมไม่สะดวกสบายเหมือนฤดูอื่นๆ แต่เรียกแท็กซี่ได้แล้วก็อย่างเพิ่งดีใจ อย่าเผอเรอนั่งสบายๆ ในแอร์ชุ่มช่ำจนลืมนึกถึงความปลอดภัยละ

1. เริ่มตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ เวลาเปิดประตูบอกที่หมายให้สังเกตว่าในรถมีทะเบียนรถที่เป็นแผ่นเหล็กติดอยู่ที่บริเวณประตูหรือไม่ และสังเกตว่าคนขับหน้าตา ท่าทาง ดูน่าไว้วางใจหรือไม่ มีอาการมึนเมารึเปล่า

2. เมื่อขึ้นไปนั่ง ควรจำทะเบียนรถทันที หรือจดใส่กระดาษไว้ ดูชื่อคนขับ และดูรูปบัตรที่ติดในรถกับคนที่ขับว่าตรงกันหรือไม่ แต่จะให้ดีที่สุดควรโทรศัพท์หาคนที่กำลังจะไปหา แล้วบอกไปเลยดังๆ ให้คนขับได้ยินว่า " ฉันขึ้นรถ TAXI เขียว-เหลือง ป้ายทะเบียน กทม. มจ.xxxx กำลังจะไปแล้วนะ เดี๋ยวเจอกัน” ไม่ต้องอายเพราะความปลอดภัยของเราใครจะรับผิดชอบ จริงไหม

3. ถ้าโดยสารคนเดียวควรเลือกนั่งเบาะหลังที่นั่งคนขับ โดยนั่งให้ชิดประตูเพราะจะทำให้การพยายามทำอันตราย ต่อผู้โดยสารโดยตรงเป็นไปได้ยากขึ้น แต่เวลาจะลงรถควรลงทางประตูด้านซ้ายเพราะจะได้เป็นการกันไม่ให้คนขับลงจากรถแล้วมาทำอันตรายในระยะประชิดได้

4. พยายามอย่าบอกว่าไม่รู้หรือไม่ชินกับเส้นทาง ถึงแม้จะมาจากต่างจังหวัด ถ้าคนขับถามว่าไปทางไหนดี ควรบอกไปว่า “ไปทางไหนก็ได้......แต่ให้ดีเลือกทางที่รถไม่ค่อยติด และไม่เข้าซอยเปลี่ยว ” ถ้าไม่รู้ทางทั้งคนนั่งและคนขับ อาจเปลี่ยนรถคันใหม่ หรือถามทางกับคนแถวนั้น แต่ที่ที่จอดถามต้องปลอดภัย คนพลุกพล่าน

5. หากคนขับแท็กซี่ชวนคุย ควรคุยเฉพาะเรื่องเส้นทางเท่านั้น ไม่ควรคุยเรื่องส่วนตัว เพราะจะเป็นการนำไปสู่การคุยเรื่องทะลึ่งลามกได้

6. ขณะนั่งบนรถควรสังเกตอะไรบ้าง
* เส้นทางตลอดเวลาที่ผ่าน อาทิ เช่น ป้ายบอกชื่อถนน ชื่อซอย ถ้ารู้สึกผิดปกติให้โทรหาญาติหรือเพื่อนโดยบอกเส้นทางที่ผ่านมาทุกระยะ

* หากคนขับ ปรับกระจกมองข้างหลัง มาดูระดับขา หรือ ระดับหน้าอกของเรา ควรลงจากรถเพราะอาการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าคนขับไม่ให้เกียรติต่อผู้โดยสารผู้หญิง และบ่งบอกว่าเขาอาจกำลังคิดอะไรที่ไม่ดีอยู่ แต่หากจำเป็นต้องนั่งต่อควรเอากระเป๋ามาปิดขาหรือเอามากอดอกไว้ ทำท่าทางให้ดูน่าเกรงใจ ที่สำคัญก่อนออกจากบ้านก็ควรจะดูแลตัวเองเบื้องต้นไว้บ้าง เช่น ไม่แต่งตัวโป๊เกินไป หรือมีเสื้อคลุมที่มิดชิดติดตัว

* ควรสังเกตว่าคนขับขยับมือมาที่ช่องแอร์หรือฉีดสเปรย์ที่ช่องแอร์หรือไม่ ถ้าผิดสังเกต เริ่มรู้สึกมีอาการแปลกๆ เช่น รู้สึกปวดหัว คลื่นไส้จะอาเจียน รู้สึกเหมือนจะเป็นลม ไม่มีเรี่ยวแรง แสดงว่าคุณอาจโดนมอมยา ควรหาที่ปลอดภัยคนเยอะๆ สว่างๆ แล้วลงจากรถ รีบโทรหาญาติหรือเพื่อนทันที หากโชคดีควรหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เยอะๆ หาที่พิงแล้วจะค่อยๆ ดีขึ้น

* ควรระวังคนขับบางรายที่ใช้วิธีช่วยขนสัมภาระ แล้วพยายามจะแตะเนื้อต้องตัวแบบไม่ตั้งใจ บางคนฉวยโอกาสนี้ป้ายยาสลบใส่โดยที่ผู้โดยสารไม่รู้ตัว

7. สิ่งที่สำคัญที่สุดเวลานั่งแท็กซี่ คือ
* อย่าคิดว่า “ คงไม่มีอะไร นั่งหลายครั้งแล้วไม่เห็นมีอะไรเลย” เพราะจะทำให้คุณปิดโอกาสในการระมัดระวังภัยของตัวเอง

* อย่าเผลอหลับบนรถแท็กซี่เด็ดขาด ไม่ว่าจะเหนื่อย ไม่สบาย หรือเมาแค่ไหนก็ตาม

8. ถ้าถูกพาไปที่เปลี่ยว อย่าเปิดโอกาสให้คนขับประชิดตัว ควรพยายามชิงหนีออกมาก่อน ถ้าไม่มีอาวุธป้องกันตัวให้เอารถเป็นที่กำบัง หรือ วิ่งรอบรถพร้อมกับ ร้องตะโกนให้คนช่วยเพื่อถ่วงเวลา ถ้านานแล้วยังไม่มีใครมาช่วย ให้ตะโกนดังๆ ว่า " ตำรวจมาแล้ว ตำรวจช่วยด้วย " ให้คนร้ายหันไปมอง แล้ววิ่งสุดชีวิต ถ้าฉวยจังหวะนั้นได้ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะวิ่งห่างจากคนร้ายได้ประมาณ 100 เมตร

9. ถ้าบอกให้จอดแล้วไม่ยอมจอดแต่ยิ่งขับเร็วขึ้น ก่อนอื่นต้องตั้งสติดีๆแล้วเปิดประตูด้านหนึ่ง (ควรเป็นประตูด้านซ้ายของเบาะผู้โดยสาร จำไว้ว่าเราต้องนั่งเบาะข้างหลังคนขับ) ให้สะบัดค้างไว้นอกรถเพื่อสร้างจุดสังเกต มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะมีคนสังเกตเห็นและช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ