-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
หัวใจกับนม
นมสดหนึ่งแก้ว
เมื่อหลายปีมาแล้ว ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
เด็กชายเคลลี่ ซึ่งอยู่ในครอบครัวที่มีฐานะยากจน
เขาต้องหาเงินไปโรงเรียนเองด้วยการนำสิ่งของใส่กระเป๋า
เดินไปขายตามบ้านที่อยู่ในเมืองใกล้เคียง
วันหนึ่งเขาพบว่าเมื่อจ่ายค่ารถและค่าสินค้าแล้ว
เขามีเงินในกระเป๋าเหลือเพียง 10 เซ็นต์ เท่านั้น
ขณะนั้นเขากำลังหิวมาก แต่เงินสดที่เขามีอยู่นั้น
ไม่พอที่จะซื้ออาหารแม้แต่เพียงมื้อเดียว
ดังนั้นเขาจึงคิดจะไปขออาหารจากบ้านที่กำลังเดินไปถึง
แต่เมื่อกดกริ่ง หญิงสาวเจ้าของบ้านมาเปิดประตู
เด็กชายเคลลี่ กลับเกิดความละอายใจที่จะขออาหาร
เหมือนกับขอทาน เขาจึงขอเพียงน้ำเปล่าเพียงแก้วเดียวเท่านั้น
แต่เจ้าของบ้านสาวสังเกตุเห็นท่าทางของเด็กชายเคลล
ี่
ว่าคงจะกำลังหิวเธอจึงได้นำเอานมสดแก้วใหญ่มาให้เคลลี่ดื่ม
เด็กชายเคลลี่ดื่มนมอย่างกระหายจนหมดแก้วแล้วถามว่า
"ผมต้องจ่ายเงินค่านมถ้วยนี้ให้คุณเท่าไหร่ครับ"
เจ้าของบ้านสาวตอบว่า
"ไม่ต้องจ่ายเงินหรอก แม่ของฉันสอนไม่ให้รับสิ่งตอบแทน
จากการให้น้ำใจไมตรี"
เคลลี่ซาบซึ้งใจมากและตอบว่า
"ถ้าเช่นนั้น ผมขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
จากหัวใจของผมก็แล้วกันนะครับ"
ขณะที่เด็กชายเคลลี่ได้เดินออกจากบ้านหลังนั้น
เขาไม่เพียงแต่รู้สึกว่ามีกำลังแข็งแรงขึ้นจากนมสด
แก้วโตเท่านั้น แต่เขาได้มีความเข้าใจในเรื่องของ
น้ำใจไมตรีเพิ่มขึ้นด้วย
อีก30 ปีต่อมา มีหญิงคนหนึ่ง ป่วยหนักด้วยโรคหัวใจ
ซึ่งแพทย์ท้องถิ่นไม่สามารถรักษาได้
จึงส่งไปให้แพทย์ผู้เชียวชาญพิเศษด้านโรคหัวใจทำการรักษา
เมื่อได้อ่านประวัติผู้ป่วยแล้ว.....
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านนั้นได้สะดุดใจกับชื่อหมู่บ้าน
ของผู้ป่วยคนนั้น จึงตั้งใจรักษาด้วยการผ่าตัดหัวใจอย่างพิเศษ
โดยใช้อุปกรณ์ทันสมัยที่สุดและยาราคาแพงที่ดีสุด
จนผู้ป่วยหายเป็นปกติพร้อมจะกลับบ้าน
ผู้ป่วยมีความกังวลว่าค่ารักษาพยาบาลคงจะมีราคาแพง
หลายหมื่นดอลลาร์ ซึ่งเธอเข้าใจว่าคงจะต้องทำงานทั้งชีวิต
กว่าเธอจะหาเงินค่ารักษาพยาบาลได้เพราะเธอไม่มีประกันสุขภาพ
และยังไม่สามารถไปเบิกได้จากที่ไหนได้
แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนนั้น ได้บอกเจ้าหน้าที่แผนกบัญชี
ให้นำใบเก็บเงินไปให้เขา แล้วหมอก็ใช้ปากกาเขียนข้อความ
สองบรรทัด แล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ บอกให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้
โดยไม่ต้องจ่ายเงินเลย ข้อความที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านนั้น
เขียนในใบเรียกเก็บเงินนั้นมีว่า
"จ่ายค่ารักษาพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ด้วยนมสดหนึ่งแก้ว"
ลงนาม นายแพทย์ โฮเวอร์ด เคลลี่
ข้อความด้านบนนี้ นำมาจากฟอร์เวิร์ดเมลซึ่งไม่ได้ยืนยันว่า
เป็นเรื่องจริง ถึงเราจะพยายามให้ท่านไม่เชื่อเรื่องพวกนี้
แต่ท่านก็ยังจะเชื่ออยู่ดี
Rada Ampansaeng
-
Super Moderator
Guide & Photographer
-
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา
เคยได้อ่านเรื่องนี้จากเวบที่ไหนสักแห่งเหมือนกันเลยแต่เหตุเกิดที่เมืองไทย เด็กชายคนหนึ่งในย่านตลาดเล็กๆ..เรื่องเหมือนกันเลย แต่ต่างกันที่ไม่ใช่นม .ไม่สำคัญหรอก. แต่รู้สึกว่าอ่านเรื่องทำนองนี้ทีไร ใจก็อยากให้เป็นเรื่องจริงทุกที..รู้สึกดีอ่ะ..หัวใจ(ที่ใกล้นม)พองโตไปด้วย..อิอิ..
-
Membership renewed
ถ้ามีโอกาสก็หยิบยื่นให้ผู้ด้อยโอกาสนำกัน เท่านี้สังคมไทยเฮากะน่าอยู่แล้ว
-
ดูแลตรวจสอบเนื้อหา
เคยอ่านมาเหมือนกัน
เคยอ่านแต่นานมาแล้ว...(เหมือนคุณส้มป่อย) ..แต่ยุคนี้สมัยนีแต่ละบุคคลเห็นแก่ตัวกันมาก..สังคมขาดคุณธรรม..ทุกอย่างมันวังเวงไม่รู้จะพึ่งพระพึ่งเจ้าเข้าทรงที่ใด..เลยอยากให้อ่านเผื่อว่าจะเป็นการเตือนสติหลาย ๆ คน..แม้มิใช่เรื่องจริง...แต่ก็อยากให้เกิดจริง ๆ ในชีวิตที่................(ความคิดปลายเปิด สำหรับทุกคน).......
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
กฎฟอรั่ม
Bookmarks