คุณรู้ไหม ความรักมันก็เหมือนกับการรอรถเมล์
เมื่อรถเมล์มา คุณมองไปที่มัน และบ่นกับตัวเองว่า
"อี๋... คนเพียบเลย ไม่มีที่นั่งด้วย"
และคุณก็พูดกับตัวเองว่า "ฉันรอคันต่อไปดีกว่า"
และคุณก็ปล่อยให้รถเมล์คันนั้นผ่านคุณไปแล้วรอรถเมล์คันที่ 2
เมื่อรถคันที่ 2นั้นมา คุณมองไปที่รถเมล์นั่นแล้วบ่นว่า
"อี๋... รถเก๊าเก่า มันต้องนั่งไม่สบายแน่เลย"
แล้วคุณก็ปล่อยให้รถเมล์คันนั้นผ่านไปอีกครั้ง และตัดสินใจที่จะรอรถเมล์คันต่อไป
และแล้วรถเมล์อีกคันก็มาถึง
คราวนี้มัน คนไม่เยอะ และรถก็ไม่เก่าแต่คุณก็ยังบ่นอีกว่า
"อี๋... แอร์ก็ไม่มี ตอนนี้อากาศร้อนจะตาย รอรถคันใหม่ดีกว่า"
อีกครั้งหนึ่งที่คุณปล่อยให้รถเมล์ผ่านคุณไป และตัดสินใจที่จะรอรถอีกคัน
ท้องฟ้าชักเริ่มครึ้มๆ และก็มันก็เริ่มสายแล้ว
คุณชักเริ่มกระวนกระวายในการรอรถเมล์
จนแล้วจนรอดรถเมล์ก็ยังไม่สักที
นั่นแหล่ะคุณจึงเริ่มรู้แล้วว่าคิดผิดที่ไม่ขึ้นรถคันก่อนหน้านี้
คล้ายๆกับคุณยอมที่จะเสียเงินและเวลา เพื่อที่จะให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ถ้าหากว่าคุณคิดว่ารภเมล์ธรรมดาที่ผ่านมาเป็นรถแอร์ไม่ได้เหรอไง
แอร์อาจจะเสีย หรือไม่ก็คิดว่ามันเป็นแอร์ที่เย็นพอสำหรับคุณ
การที่คนมากมาย ต้องการที่จะได้อย่างที่เราต้องการมันไม่ผิดหรอก
แต่คุณจะไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอ ที่คุณหยิบยื่นโอกาศที่ตัวเองควรจะได้ให้คนอื่นไปถ้าหากว่าคุณเจอรถเมล์คันนั้น คันที่อาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณต้องการ
ก็เพียงแค่ กดปุ่มเรียกรถเมล์(โบกรถ) แล้วขึ้นรถเมล์ เท่านั้นก็จบ
แต่เดี๋ยวก่อน ฉันแน่ใจเลย ว่าคุณต้องเคยเจออย่างนี้มาก่อน
คุณเห็นรถเมล์กำลังวิ่งมา (แน่นอนว่ามันเป็นรถเมล์คันที่คุณต้องการ)
คุณโบกมือเรียกให้รถหยุด แต่คนขับดันเบลอ
ไม่เห็นว่าคุณโบกมือ แล้วรถคันนั้น .... รถคันนั้นที่คุณรอมาตั้งนานก็ผ่านคุณไปต่อหน้าต่อตาดีแล้ว เมื่อรถเมล์ที่คุณต้องการผ่านไปแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำคราวนี้คือการเดินมันก็คล้ายกับชีวิตรักของเราๆ เหมือนกับที่เรารอรถที่เราต้องการ
เพียงแค่ขึ้นไปบนรถ ให้โอกาศรถนั้นได้โอบอุ้มความรักคุณไว้
และการที่คุณเดินนั้นแหล่ะที่คุณปล่อยให้ความรักหลุดลอยไป
คุณจะไม่มีวันเสียอะไรถ้าคุณคิดจะรัก
แต่ถ้าคุณไม่ดึงรักที่ผ่านเข้ามาไว้ คุณก็จะเสียโอกาสที่คุณควรจะมี.
Bookmarks