พุทธพจน์ ว่าด้วยรัก

พุทธพจน์ ว่าด้วยรัก

จากหนังสือ สาระแห่งชีวิต คือรักและเมตตา
พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก

ความโศกย่อมเกิดแต่ของที่รัก
ภัยย่อมเกิดแต่ของที่รัก
ความโศกย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้พ้นวิเศษแล้ว
จากของที่รัก ภัยจักมีแต่ที่ไหน


ความโศกย่อมเกิดแต่ความรัก
ภัยย่อมเกิดแต่ความรัก
ความโศกย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้พ้นวิเศษแล้ว
จากความรัก ภัยจักมีแต่ที่ไหน


ความโศกย่อมเกิดแต่ความยินดี
ภัยย่อมเกิดแต่ความยินดี
ความโศกย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้วิเศษแล้ว
จากความยินดี ภัยจักมีแต่ที่ไหน


ความโศกย่อมเกิดแต่กาม
ภัยย่อมเกิดแต่กาม
ความโศกย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้พ้นวิเศษแล้ว
จากกาม ภัยจักมีแต่ที่ไหน


ความโศกย่อมเกิดแต่ตัณหา
ภัยย่อมเกิดแต่ตัณหา
ความโศกย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้พ้นวิเศษแล้ว
จากตัณหา ภัยจักมีแต่ที่ไหน



พระพุทธเจ้า ตรัสแก่ภิกษุสาวก ถึงเรื่องความรักไว้ว่าความรักเป็นความร้าย ความรักเป็นสิ่งทารุณและเป็นเครื่องทำลายความสุขของปวงชน ทุกคนต้องการความสมหวังในชีวิตรัก แต่ความรักไม่เคยให้ความสมหวังแก่ใครถึงครึ่งหนึ่งแห่งความต้องการ ยิ่งความรักที่ฉาบด้วยความเสน่หาด้วยแล้วก็เป็นพิษแก่จิตใจ ทำให้ทุรนทุรายดิ้นรนไม่รู้จักจบสิ้น ความสุขที่เกิดจากความรักนั้น เหมือนความสบายของคนป่วยที่ได้กินของแสลง

เธอทั้งหลายอย่าได้พอใจในความรักเลย เมื่อหัวใจยึดถือไว้ด้วยความรัก หัวใจนั้นจะสร้างความหวังขึ้นอย่างเจิดจ้า แต่ทุกครั้งที่เราหวัง ความผิดหวังก็จะรอเราอยู่


“การไม่มีภรรยา เป็นลาภอันประเสริฐ
การไม่มีสามี เป็นลาภอันประเสริฐ”


ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เช่นนี้ เพื่อเตือนว่าชีวิตคู่มีทุกข์สุขคละเคล้ากันไป แต่เกือบทุกคู่ ทุกข์จะมากกว่าสุข ตามวัย ตามสัญชาตญาณของสัตว์โลก มักแสวงหาชีวิตคู่แล้วก็เกิดความรัก ความผูกพัน ตามมา

ความรู้สึกว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม เป็นความสุขอย่างที่สุดนั้น เป็นความรู้สึกของตัณหาเพื่อที่จะได้ความสุขนั้น เหมือนต้องติดหนี้สินมากมาย เพราะเมื่อได้ดำเนินชีวิตคู่ไปแล้ว หลายคน รู้สึกว่าตัวเองได้คำนวณผิดพลาดไป ดอกเบี้ยแพง ตั้งใจแก้ตัว พยายามอย่างไรก็ติดลบตลอด มีทุกข์มาก มีสุขน้อย หลายคู่ก็ผิดหวัง เหมือนมีหนี้สิน ชดใช้ไม่รู้จักจบจักสิ้น