แมลงสาป และนางสาวหนู ๒ ตัว

นางสาวหนู ๒ ตัว เพิ่งทำปริญญาบัณฑิตเสร็จมาใหม่ๆ ระบบการศึกษาที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนกล้าคิดกล้าแสดงออก ส่งผลให้บัณฑิตใหม่เป็นไปตามกรอบแนวคิดนั้นเอง

ระหว่างที่เดินกลับบ้านนอกนั่นเอง ทั้ง ๒ มองเห็นแมงสาปซึ่งกำลังทำนา ก็ให้นึกแปลกใจว่า ทำไมเจ้าแมลงสาปต้องลงแรงขนาดนั้น ทำไมไม่ใส่ใจเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่นักประดิษฐ์คิดขึ้นมาเพื่อแบ่งเบาภาระของสัตว์ เทคโนโลยีผลิตได้มากกว่าและเร็วกว่ากำลังของสัตว์หลายเท่านัก ผลของการผลิตสอดรับความต้องการของสัตว์ที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยความเหนื่อยหน่ายต่อการทำนาแบบเก่า ทั้ง ๒ จึงเดินปรี่เข้าไปหาแมลงสาป "นี่ เจ้าแมลงสาป .. โลกเปลี่ยนไปถึงไหนแล้ว เจ้าไม่รู้บ้างหรืออย่างไร ทำอยู่อย่างนี้มันจะทันกินหรือ หัดเปลี่ยนความคิด เข้าสู่ระบบการผลิตแบบใหม่เสียบ้าง เมื่อไรจะรวยกันกับการทำแบบหาเช้ากินค่ำอย่างนี้ นี่แหละหนา..สัตว์ผู้ไม่มีความรู้ ทำอะไรก็เหมือนกับคลำหาสิ่งไม่มีในห้องมืด" นางสาวหนูนากล่าว พร้อมกับสั่นหัวหันหน้าไปทำตาน่าเหนื่อยหน่ายกับนางสาวหนูหริ่ง

หนูหริ่งจึงสมทบไปว่า "สัตว์ที่ไร้การศึกษาก็อย่างนี้แหละ" พร้อมกับหันหน้าไปทางแมลงสาปและเอ่ยขึ้นว่า "นี่...หัดไปหาความรู้ใหม่ๆ ซะบ้าง จะได้ทันกิน" จากนั้นจึงเดินผ่านไป ได้ยินเสียงแว่วๆของแมลงสาปว่า ขอบคุณจ้า แล้วจะพยายามตามทำตามคำแนะนำนั้นนะ"

อันว่าความรู้นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรซื้อขาย ผู้รู้จึงกล่าวว่า พึงแสวงหาความรู้เมื่อยังมีชีวิต เพื่อนำความรู้นั้นไปพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและรอบข้าง ความรู้ดังกล่าวไม่ควรแลกเปลี่ยนเป็นค่าเงินตรา ด้วยว่า เงินตราเป็นของร้อน ความรู้เป็นของเย็น เห็นจะไม่เหมาะหากนำความร้อนและความเย็นมาอยู่ในที่เดียวกัน

ตอนเย็นวันเดียวกัน แมลงสาปได้นำข้าวไร่ที่ผ่านการคัดกรองแล้วจำนวนหนึ่งไปฝากนางสาวหนูทั้ง ๒ เพื่อแทนคำขอบคุณที่ให้คำแนะนำ และเป็นการต้อนรับบัณฑิตใหม่ที่จะมาพัฒนาหมู่บ้านนี้ด้วย

น้ำใจของสัตว์ เมื่อมิตรมาเยี่ยมบ้านก็ต้องรู้จักการต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี นี้เป็นโอวาทของบรรพบุรุษที่สอนไว้ นางสาวหนูทั้ง ๒ จึงต้อนรับแมลงสาปตามสถานะ

หลังจากพูดจาปราศรัยและกินกันอิ่มหนำสาราญกันตามสถานะ มีคำหนึ่งแมลงสาปถามหนูบัณฑิตทั้ง ๒ "เป็นอย่างไรบ้าง รสชาติของข้าวที่ฉันปลูกเอง" คำตอบที่ได้คือ "อร่อยดีมาก หวานมันดี รสชาติของข้าวในเมืองไม่เหมือนรสชาติข้าวที่กินวันนี้เลย มีอีกไหม หากมีเอามาขายหน่อยนะ ฉันจะขอซื้อทั้งหมดเลยก็ได้"

แมลงสาปจึงตอบไปว่า ข้าวที่จะขายนั้นไม่มี จะมีก็แต่ของที่จะให้ไปเท่านั้น ฉันรู้สึกปลื้มใจมากที่ฉันเป็นผู้ได้ทำเพื่อให้แก่หนูผู้มีการศึกษา.." จากนั้นจึงขอลากลับบ้าน ก่อนที่จะนำข้าวมาให้นางสาวหนูในวันรุ่งขึ้นอีก

อนึ่ง สัตว์ที่ดูถูกดูหมิ่น สบประมาทสัตว์อื่นว่าต่ำต้อย แม้สัตว์นั้นจะมีการศึกษาสูงก็ชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีจิตใจตกต่ำ แต่สัตว์ ที่แม้ระดับการศึกษาทางสังคมจะอยู่ในระดับต้นๆ หากมีจิตใจเอื้อเฟื้อ ปรารถนาประโยชน์ของเพื่อนบ้าน เห็นความสำคัญของความสมานสามัคคี มองชีวิตสัตว์อื่นด้วยกันว่าเป็นเพื่อนร่วมสุขร่วมทุกข์ เอื้อเฟื้อต่อกันด้วยสิ่งสวยงาม สัตว์นี้ชื่อว่าสัตว์ประเสริฐ มีจิตใจที่สูงส่งแท้ ดังนั้น ผู้รู้ทั้งหลายจึงยกย่องสัตว์ประเภทนี้ท่ามกลางสังคมสัตว์เสมอๆ