เชิญมานั่งฮ่วมบ้าน เฮือนซานหลังใหญ่
มาฮ่วมไขผญาสร่อย กลอยเว้าเล่าคดี ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๑๕ ต.ค ๒๕๕๑
ฮอดยามสอบเข้ามาแล้วบ่เห็นแป่วฮู้ป่อง เลยบ่เห็นพี่น้องมั่วยุ่งยากแต่การ
อภัยเด้อทุกๆ ท่านหลานบ่ปล่อยไลหนี บทกวีผญาธรรมสิพร่ำเพียรเขียนแต้ม ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๙ ต.ค ๒๕๕๑
พี่น้องเอ้ย..
ครั้นบ่คาไม้อิ้ว สิปิ่วไหว่ใส่ทางลม สาแหล่ว
ครั้นบ่คายาขม สิซดซมน้ำหวานมิ้ม
ย้านแต่ไลลืมถิ่ม ครองธรรมพระเจ้าพ่อ
เลยบ่ต่อปากต้าน ขานเว้าย้านเก่าหมอง ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๒๘ ก.ย ๒๕๕๑
ศรีเวฬุคามมุนี ยิ้มในใจอยู่เป้ยๆ
ย้อน "อ้ายเก่งคนเลย"เคยเข้ามาไขฮ่วม
เพิ่นบ่จาทางความ แต่หากรวมเลขเพิ่ม เติ่มให้ใส่คะแนน ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๒๖ ก.ย ๒๕๕๑
อ้าย "บ่าวโจ่โล่" เอ้ย บัดนี้เด้อ..
บัดนี้ปิ่นโตเฮียมสิมีคนซ่อยซ้น พายโซนบัดยามย่าง
มีผู้ถือรอบข้าง ปิ่นโตฮ้างย่างตาม
ศรีเวฬุคามมุนี
๒๕ ก.ย ๕๑
"น้องแพรจ้า" สาวซ่ากัลยางาม
ได้จ่ายคำพาที เอ่ยคดีแถลงต้าน
ย้านหลายเด้..
ย้านแต่ต้มกินหว่าน ซดหวานน้ำตาลใหม่
ลืมผู้ไขวาทเว้า ผญาเค้าเก่าปฐม ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๒๒ ก.ย ๒๕๕๑
ฟังเสียงข่าวป่าวฮ้อง ว่าน้ำนองไหลล่อง
ไหลล้นคลองห้วยเค้า ทั่งโถมเข้าขอกคาม
ผู้เพิ่นอยู่ใกล้น้ำ เลยหน้าก่ำโทมนา
ทั้งเคหาคาเม ถืกพัดเภท์พังล้ม ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๑๖ ก.ย ๕๑
บินเจิดเจ้ยจ้ายป่าแสบงบก
เซินวนวกเวินไวไหวว่อน
วอนวอยเว้าสำเนาแต้มแต่ง
“แหลวแดง” ผ่ายเจิดจ้ายหม่าย “ดิน”
ศรีเวฬุคามมุนี
๑๔ ก.ย ๕๑
อิสระ มายามเยี่ยม เฮียมบ่ทันได้ถามไถ่
ขอบพระคุณน้ำใจ พันธไมตริ์มิตรมุ่ง
มัวยุ่งยากการ ฯ
...............................
ยากยุ่งหยั่ง สันหลังแทงกระดูก
จมูกทังดั้ง ดังดั้นตันคาง
ส่วงค้ำข้าง หูกางค้ำงอน
ตาส้อนลิ้น ขาปิ้นก่ายกัน
......
ยากคัก
ศรีเวฬุคามมุนี
๑๓ ก.ย ๕๑
มีแนวกินแซบซ้อย ให้ซ่อยแบ่งกันซิม
ซ่อยกันลิมลองรส ซดซมน้ำแกงฮ้อน ฯ
น ภุญฺเช สาธุเมกโก
ไม่พึงบริโภคของอร่อยผู้เดียว
ศรีเวฬุคามมุนี
๑๑ ก.ย ๕๑
พี่น้องเอ้ย...
มวลมนุษย์ในโลกใต้ หากแตกต่างพงษ์พันธุ์
แนวไผมันเหล่ากอ ต่อเครือไปคนก้ำ ฯ
ปจฺเจกจิตฺตา ปุถู สพฺพสตฺตา
ประดาสัตว์ ต่างคนก็แต่ละจิตแต่ละใจ
ศรีเวฬุคามมุนี
๑๐ ก.ย ๒๕๕๑
ออนซอนเด้…
ออนซอนขุนเทืองท้าว ได้เมียสาวเป็นนาคใหญ่
ออนสอนเด้นางไอ่
สั่งขุนไล่ฆ่าอ้าย พังคีท้าวจนบ่าวตาย ฯ
ออนซอนเด้..
แอวท้าวก่ำบัดโยกย้าย ลายแคนจ่ายใส่นางลุน
ออนซอนบุญนางผมหอม ได้อยู่ดอมคำแสนท้าว ฯ
ออนซอนตาวลืมต้น ออนซอนโพนบ่อนพราหมณ์นั่ง
เทศน์พระเวสน์แต่ปางหลัง ออนซอนนางมัทรีล้ม
โทมไห้ห่วงกุมาร ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๙ ก.ย ๒๕๕๑
ตะเว็นลาลงคล้อย ลมพัดเย็นวอยๆ
นกจิบน้อยบินเป็นคู่ เสียงญาครูลั่นฆ้อง
กลองแลงตึ้งโม่งดัง ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๘ ก.ย ๒๕๕๑
พี่น้องเอ้ย...
ครั้นบ่คากั้งจ้อง สิลำล่องใส่เสียงแคน สาแหล่ว
ย้อนว่า “พิณอิสระ” จากต่างแดน เพิ่นป่อนแขนมาชวนฟ้อน
ครั้นบ่คาคิงฮ้อน สิลำกลอนทำนองเร่ง สาแหล่ว
ชวนเพิ่น “คนฟังเพลง” มาซอยย่าวอยู่หน้าฮ้าน
ได้โอ่.. ต้านตอบกัน ฯ
ฝากแน่เด้อ..ท่าน "พิณอิสระ" เอ้ย
ฝากดีดพิณลายเค้า ตามฮีตครองบ้านเฮา
พอให้แขกเขาได้เบิ่ง ย่าวให้บังลำเซิ้ง
ซมเจ้าผู้บ่าวพิณ ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๗ ก.ย ๒๕๕๑
สายธารแห่งกาลเวลา ผ่านไปเรื่อย ไหลเลยคือน้ำล่วง
ไหลไปท้อนสมุทรกว้าง ปวงเจ้าให้ฮ่ำเพิง ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๖ ก.ย ๒๕๕๑
ภาพเลือนลางแต่ปางกี้
เฮียมเคยเห็นกุมารี นงค์น้อยเยาว์อ่อน
ประดับเครื่องแพรภรณ์
ใส่กระโปรงเรียบร้อย สาวน้อยเพิ่นแต่งโต
ซองคอขาวแม่ผูกโบว์ให้งามโก้
กระเป๋าก่ายขึ้นพายโซน
ผ่านไปโดนเหิงนาน อ่านบ่เห็นตนเจ้า
มื้อนี้ "น้องโบว์" เวียนมาเข้า เผยสำเนาเว้าม่วน
ชวนให้เฮียมคิดพ้อ คอน้องผู้จ่องโบว์ ฯ
ฟังสาก่อนอย่าฟ้าวโอ้ พาโลบัดฉันจ่าย
เว้าบ่ถืกหลิงลาย หย่ายทำนองบ่กล่อมเกลี้ยง
เสียงเญิ้นก่ายเกิน ฯ
มื้อนี้ สาวผู้ฮ้าย เพิ่นได้เอิ้น เติ่นหมู่มาฟังธรรม
มาฟังคำไขจา ยื่นสลาเทียนไต้
ทาง nuzing เพิ่นกะยอมอบให้ เติมต่อกำลังใจ
คลิกไว้ให้ไขเบิ่ง
สาธุเด้อ.. ขอให้สุขอยู่เริงๆ
ปานอยู่เทิงสวรรค์ฟ้า เทวาไท้ฝ่ายพระอินทร์ ฯ
ว่าท่อนี้ยังบ่เหมิดตลอดสิ้น
สุดชื่อผู้มาแว คนเมืองแปะ ได้มาหา
ชื่นอุราบัดจาเว้า
เสียดายเด้.. เสียดายหลาย เฮียมบ่มีปั้นข้าว
ทั้งสุรายาเมา บ่มีต้อนแขกเพิ่น
มีแต่คำชวนเชิน โมทนาปากต้าน
ขานเว้ากล่าวกลอน ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๕ ก.ย ๒๕๕๑
ตอนแรกเริ่มเฮียมเผยแผ่นิทานธรรม
หมู่ประจำบ้านมหา ได้ค่อยมาวอนเว้า
ลางคนเวียนมาเข้า จับสำเนาค้นอ่าน
ลางคนต่อนิทาน ซ่อยญาครูแต่งเรื่อง
เรียงคำเว้าซ่อยกัน ฯ
สำหรับ เปมฑัต ว่านั้น เป็นหนึ่งผู้เคยมา
มอบเมตตาไมตรี รายชื่อมีหลักฐานไว้
ตอนนั้น เฮียมผู้เขียนเกือบแม่นไห้
ย้อนตื้นตันในดวงใจ บัดหมู่ได้แถมต่อ
จั่งว่าคนเอ้ยหนอ คนเกิดมาในโลกนี้
บ่หนีเว้นบ่วงกรรม ฯ
สาธุเด้อ..มื้อนี้ เฮียมขอย้ำ เติ่นป่าวเทวา
ทั้งนาคาผู้ทรงฤทธิ์ ให้ซอยบาคานท้าว
มาซอยลาวให้หายฮ้อน ขอพระอินทร์จงส่งพร
ให้หายพ้นโสกใหญ่
เปมฑัต หายไวๆ กลับมาจ่ายผญาก้อม
กล่อมบ้านเก่าหลัง ฯ
พรรษากาลผ่านแล้ว ฟังเสียงดังแซวๆ
สาวส่ำน้อยพากันท่อง ซ้อมจังหวะทำนอง
สรภัญญ์ภาคบั้น งันก้องไปทั่วแดน ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๔ ก.ย ๕๑
พี่น้องเอ้ย
ครั้นเจ้าออกจากบ้าน อย่าลืมหนานผักกาดห่อ.. เด้อ
ป๋าพ่อแม่ถิ่มไว้ ไทบ้านว่าบ่ดี
อย่าสิเป็นคือมหาแดง ตั้งแต่กี้ เพิ่นหลงลายลืมครอง
ลืมคันจองเคยซดแกง หนีไปแยงภาช์คำเก้
หลงทองเค ว่าแม่นทองคำก้อน
มาเป็นตาออนซอน คนลืมบ้านเกิดถิ่น
จากอีสานแดนดิน ลืมข้าวเหนียวปั้นจิ้ม
ป๋าถิ่มพ่อแม่ตน ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๓ ก.ย ๒๕๕๑
พี่น้องเอ้ย ครั้นเจ้ากลับคืนบ้าน
อย่าลืมก๊อปเอานิทาน คืนเมือฝากพ่อกับแม่ แน่เด้อ
โหลดเอาแหล่จักสองเรื่อง ให้สองเฒ่าได้คอยฟัง ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๒ ก.ย ๒๕๕๑
ถือว่าบุญเลิศล้ำ ครูผญา ทองคำ
คนเค้าเข้ามาฮ่วม ฝากข้อความตื่มท้าย
จ่ายเว้ากล่าวกลอน ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี กำลังจ้อน ท้อนเรื่องเรียงคำ
นิทานธรรมนำมาเผย เอ่ยคดีไขอ้าง
ซ่อยแน่เด้อ ซ่อยกันสร้าง แปลงทางให้มันค่อง
พอให้พวกพี่น้อง เทียวดั้นดุ่งเดิน ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๑ ก.ย ๒๕๕๑
พี่น้องเอ้ย.. ขอให้ยาวยาวไว้
คือไซพ่อใหญ่จ่าง.. เด้อ
บัดหวิงน้อยส่อยฮ้าง
ไซสิส่อนล่องซิว ฯ
วชิรปันตีกาพย์แก้ว
เฮียมเขียนแล้วส่งมาปันอ่าน
แบ่งพวกท่านพี่น้องหมู่เฮา
ซอยกันเกากลั่นกรองให้แน่
ทั้งพ่อแม่จอมปราชญ์ครูบา
เชิญเข้ามาแนะนำหลานอ่อน
ผู้เกิดก่อนคำกลอนเพิ้นงาม
คือไม้ขามขอนแห้งขันแก่น
บ่อนได๋แม่นสอนบอกแนวทาง
เอกโทวางหว่างมีตามบั้น
ก่ายสอดซั้นเป็นกาบใบลาน
ซ้อนส่นสานเป็นกกกอกล้วย
บ่ให้ส่วยคือขวยแมงเงา
ไทบ้านเฮาแบ่งปันความรู้
บ่ได้สู้เส็งค่ารางวัล
แบ่งปันกันดังแตงโมน้อย ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๓๑ ส.ค ๒๕๕๑
ดินสีอรุณ กำลังหนักไปหน้า
นำเสนอศรัทธา ไทบ้านมหาก่อน
ครั้นแม่นปั้นข้าวจี่ เฮียมกะขางฮ้อนๆ
ป่อนให้ส่งใส่มือ ฯ
มื้อสืบมื้อล่วงผ่านใกล้ถึงเดือน
นับแต่ลงมือเขียน พร้ำเพียรปากกาจี้
ลูกลำชี ได้ส่งแพรผืนผ้า
ซ่อยเฮียมเซ็ดน้ำตา บัดบาเอิ้นเมียสั่ง
ติ๋ม เปอร์โย ได้ซ่อยเป็นกำลัง
เป็นกำบังโล้แก้ว กั้นแนวฮ้ายผ่ายหนี
โอ้ว่าหนามเอ้ยหนาม
เจ้าผู้หนามหมากมี้
มวลหมู่หมากเฟืองไฟ
ใบได๋ๆ กะสีเขียว เที่ยวเห็นมาแล้ว
ใบอีหยังหนอแหล่ว แววสีของคนคู่
เพิ่น ใบไม้สีชมพู ทรงอินเลิฟเอาฮ้าย
ปานไม้ใส่น้ำตาลฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๓๐ ส.ค ๒๕๕๑
“ศรีเวฬุคามมุนี” เป็นผู้เว้า เผยสำเนาออกเอ่ย
หากเป็นเขยคงเป็นเขยลูกหล้า บ่ทันกล้าแก่การ ฯ
ขออภัยทุกท่าน วาทบ่ค่องทำนองเสียง
ทั้งสำเนียงขาดเขิน เกินคำโบราณเว้า ฯ
ขอโอกาสสมาชิกคนเค้า บ้านมหาของเฮา
ให้เฮียมได้เนาว์เพิ่ง ซ่อยแน่เด้อ..
ซ่อยกันดำนาเทิง พอได้ขายแลกข้าวเม้า
ตื่มเล้าให้อั่งเต็ม ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๒๙ ส.ค ๒๕๕๑
เฮียมนี้ยิ้มแล้วยิ้ม มือพิมพ์ดีดป่อน
ปานรับพรจากฟ้า ดวงหน้าแก้มละไมย
เหตุว่าเพิ่น ไก่น้อย ได้เอื้อนเอ่ยพาที
มอบไมตรีเสนอมา บ่าวบาสุดแสนปลื้ม
เฮียมบ่ลืมลงได้ หลานพระรถ มีน้ำใจ
ส่งให้กำลังต่อ ย้านเด้หนอ..
ย้านแต่พ่อพระรถฮ้าย บัดเฮียมเว้าจ่ายกลอน
แนวโตมันชาติม้อน บ่หอนฮุงคือวงศ์หงส์
พงษ์กระสาขาเกิน บ่หอนเหินเทียมฟ้า ฯ
สมาชิกบ้านมหา บ่เคยหวงแหนไว้
คือไนผักกาดห่อ มาซอยต่อผญาก้อม
ให้มันกว้างดังมูล ขอบพระคุณ หนุ่มศรีสะเกษ พุ้น
ผู้พวงพุ่มหมากตูมกา มีเมตตาต่อเฮียม
ฮ่วมวงโฮมเว้า ฯ
อีกทั้ง หมูหวาน เจ้า คงสิงามไว้ท่า
เป็น PR บ้านมหา คือสิเก่งปากต้าน
บัดขานเอิ้นป่าวเติ่น ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๒๘ ส.ค ๒๕๕๑
“ดินสีอรุณ” บ่กลายเป็นดินแล้ง
เพราะแรงใจจาก sompoi
ซ่อยแน่เด้อ.. ซ่อยกันเลี้ยงม้าจ้อน
ไว้ขี่ฟ้อนตอนแห่บุญ ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๒๗ ส.ค ๒๕๕๑
พอแต่ตั้งกระทู้ไว้ โป้ยก่าย พลันมาต่อ
พอกะเทิน กะมาพร้อม คลิกให้ใส่กำลัง
กับทั้ง หนุ่มเมืองบั้ง ไฟฯ จูดบูชาแถน
เพิ่นจับแขน เปมฑัต นัดมาโฮมพร้อม
น้อมรับคำติไว้ ขอบพระคุณน้ำใจ ที่เคยให้แถมต่อ
ทั้งญาพ่อ ศรีสะท้าน ฟ้า ผญากล้าบ้านเฮา
ได้แรงใจจากหมู่เจ้า จึงแต้มแต่งเขียนผญา
เจ้าชายน้อย เพิ่นกะมา แวะเวียนถามเว้า
ขอบพระคุณ ผู้เพิ่นเวียนมาเข้า แวะชมคำหลานแต่ง
ชอยกันอ่านดินแดง "ดินสีอรุณ" ภาคบั้น อิสานเว้าเล่าคดี
ทั้ง ติ๊กต็อค เพิ่นบ่อยู่ดี้ๆ บ่ปะปล่อยให้ "ศรีเวฬุคามมุนี" เหงา
ได้หอบเอากำลังชม มาต่อเติมให้ยาวไว้
กำลังใจทุกทั่วหน้า ผู้เพิ่นมีศรัทธายอให้ถวยส่ง
ซ่อยจรรโลงภาคบั้น อิสานเบื้องบ้านหมู่เฮา
ศรีเวฬุคามมุนี เป็นผู้เว้า กะซึ้งอยู่ภายใน
ขอขอบใจทั้งขอบคุณ ผู้ซอยหนุนคุณค้ำ
นิทานธรรม ที่เฮียมแต่งเริ่มไว้
ขอให้จบอย่างมีชัย ไทบ้านเพิ่นได้ซ่า
ขอบพระคุณ "บ้านมหา" บ่อนเฮียมมาพักยั้ง วังกว้างเปรียบปาน ฯ
ศรีเวฬุคามมุนี
๒๖ ส.ค ๕๑
อ้างข้อความนี้
Bookmarks