ต่อจากตอนที่แล้ว
ดินสีอรุณ
นิทานธรรมบท สำนวนอีสาน
ตอนที่ ๖
(จำจาก)
จำจาก
บัดนี้ มองเห็นฟ้าตั้งก้อนท้อนหมู่เป็นภูผา
สกุณาแนวนกโบกบินถลาว่อน
กุดจี่ซอนไซพื้นพระภายภูมิดั้นดินออก
ผักอีลอกเกิดแล้วผักแพวดั้วป่งใบ
งามๆ หลายหน่อไม้เพิ่นแกงใส่ยานาง
ขางข้าวเบือใส่จักคำหมากพริกตำลงพร้อม
ดอกกะยอมบานแบ้งแสบงใบเขียวหม่น
งามทั้งดอกและต้นกระโดนเอ้เด่ใบ
ทุกเขตค่ายกะน่าอยู่ดูงาม
เป็นลำๆ ต้นตาลเสียดสูงเพียงฟ้า
มองแล้วอุราชื่นกลมกลืนธรรมชาติ
ฝนตกหยาดหล่นพื้นภูมิเบื้องซุ่มเย็น
อันนี้เปรียบดังเช่น ใจหมู่มวลมนุษย์
สุดสดใสชื่นบาน บัดเมื่อธรรมชโลมล้าง
ละโมโหโทโสบ้าง พอสิเป็นแนวทางสร้างโลกให้น่าอยู่
บอกกะโยมได้รับรู้ สาแล้วสิแส่วลง ฯ
ในตอนนี้ ขออ่วยโค้งมาเว้าบ่อนมูลคดี ก่อนเด้อ..
ตอนสามีและภรรยาสิจากกันไปคนก้ำ
จักแม่นกรรมหยังแหล่ว หัวมันแกวสิไลป่า
ปลาสิลาจากน้ำ หมากขามข้อสิสั่งใบ
กล่าวถึงคนผู้ทุกข์ไฮ้ ปากก่ำกินมันหมก
ตกคราวเวรคราวกรรม แล้วละหนอตอนนี้
ผู้สามีแนมดวงหน้า ทางจอมศรีภรรยากะเฮฮ้องไห้ฮ่ำ
ทหารวังเพิ่นนำ ราชโองการมาอ่านแล้ว กะใจแป้วหม่นศรี
“ขอให้ชายชื่อนี้ ละจากถิ่นเคหา
ฮีบเข้าเฝ้าพระราชา ก่อนสิลงทัณฑ์ท้าว
ทางเมียสาว ขอให้เตรียมตัวไว้ สวัสดีมีชัย สิมาเอิ้นอีกเทื่อ”
ฟังแล้วเจ็บใจเหลือ ทำผิดหยังคราวนี้
จึงจำต้องหว่างทัณฑ์
หรือว่าข้านี้นั้น มีแฟนจบเกินผู้อื่น
ได้เมียงามล้นลื่น มีความผิดอยู่ดอกว้า อาชญาเจ้าจึงส่งมา
จากก่อนเด๋อ น้องหล้าทูนหัวพี่จอมขวัญ
หากบ่ตายสิหวลคืนมาอยู่ดอมตนเจ้า
พี่นี้เหงาพี่นี้เศร้า โอ้ว่าสองคนเฮา สังเภท์ม้างแตกมุ่น
อยู่ดีเด้อแม่คุณ ซ่อยทำบุญบัดอ้ายม้าง กุศลสร้างแต่งตาม
ให้ตักบาตรหยาดน้ำ ถวยส่งกุศลหา
หากว่าพระเพิ่นกรูณาสิอ่วยโงคืนบ้าน
พริกสองงานพี่ปลูกไว้
กับทั้งหัวขิงไค อยู่โพนน้อยฮดน้ำแน่
เก็บไว้เด้อผักแค
พอได้ขายแลกข้าวเหม่า พ่อตาเม้าบ้านป่าตอง
ยามปวดหัว ให้เอิ้นใส่พี่น้อง
คุ้มค่วงซ่อยหายา เด้อนางเด้อ..
ลุงมหาอาจันทร์ ผู้เพิ่นพออาศัยได้
พี่จำใจจำจากเจ้า
บ่อยากไปนำเขา ขุนข้าผั่นมาไล่
ทั้งสองแขนกะถืกใส่ กุญแจขันมัดแน่น
แสนสิดิ้นกะบ่วาง
ทั้งหัวใจสิแตกม้างน้ำตาหลั่งโรยริน
ว่าโอ้น้อ.. ผู้ครองดินบ่ทรงธรรม
โลดใส่กรรมแต่ชาวบ้าน
นายทหารเพิ่นกะจับดึงถื้น
หัวคะมำทั้งยืน สะอื้นไห้ใจสั่น
โอ้ว่าแถนลงทัณฑ์ ราชภัยต้องเข้าแล้ว
บ่มีแหล่ว สิส่วงหายนั้น ละน่าศรัทธาเอ้ย ฯ
แต่นั้น ราชาไท้ จับเอาบาบ่าว
หวังฆ่าท้าว ตายเมี้ยนมิ่งมรณ์ ฯ
เผยแผ่ครั้งแรกที่นี่
ศรีเวฬุคามมุนี
sriwaylukammunee@hotmail.com
๒๙ ส.ค ๒๕๕๑
Bookmarks