เหรียญห้าบาทสองเหรียญ

ฉันกำเหรียญห้าไว้ในมือสองเหรียญ เพื่อเป็นค่ารถเมล์กลับบ้าน
เพื่อนของฉันอีกสามคนยืนคุยกันอยู่ วันนี้อาจเป็นวันสุดท้ายแล้วที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน
เมื่อเปิดเทอมไป ฉันต้องเจอกับผู้คนใหม่ๆ บรรยากาศที่แตกต่างไปจากที่เคย
เวลาที่มีความสุขผ่านไปอย่างรวดเร็ว ต่างกับเวลาที่ฉันต้องรอรถเมล์ในวันที่ ร้อนอบอ้าวขนาดนี้
เหรียญห้าสองเหรียญที่กำไว้ในมือเริ่มทำให้มือชุ่มเหงื่อ ฉันหยิบมันขึ้นมานั่งมอง
เหรียญนึงดูใหม่ แต่อีกเหรียญดูหม่นๆ ที่แท้ก็เพราะมันถูกผลิตในปีที่ต่างกันนี่เอง
มันมีอายุต่างกันถึง 10 ปี แต่มันก็โคจรมาพบกันได้ในมือของฉัน
มันทำให้ฉันคิดไปถึงเรื่องของเพื่อนๆ ที่ในไม่ช้าเราก็ต้องจากกัน
แม้เราจะรู้จักกันมาแค่ไม่กี่ปี แต่คุณค่าของเพื่อนมันก็มากมาย
แม้เราจะไม่รู้ทุกๆเรื่องของกันและกัน แต่เราก็เข้าใจในความรู้สึก
ทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกันก็จะมีแต่เสียงกัวเราะและรอยยิ้ม อาจจะมีบ้างบางทีที่ทะเลาะกัน
แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ทุกครั้งที่มีปัญหา ก็ได้เพื่อนนี่หล่ะช่วยแก้ไข
มีเรื่องไม่สบายใจก็เพื่อนอีกนั่นหล่ะที่เป็นเหมือนส้วมให้เราได้ปลดทุกข์
กินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกันโดดเรียนด้วยกัน ไปห้องน้ำก็ยังต้องไปด้วยกัน
วันเวลากำลังจะพาเอาสิ่งเหล่านั้นไปแล้ว เหลือไว้เพียงแต่ภาพความทรงจำที่ผ่านมาเป็นฉากๆเหมือนเครื่องฉายสไลด์
....เหรียญห้าทั้งสองเหรียญก็กำลังจะจากกัน เสียดายที่มันไม่สามารถเก็บภาพความทรงจำได้
มันอาจจะไปตกอยู่ในมือของใครต่อใครอีกมากมาย จะมีอีกสักกี่ครั้งนะที่มันจะได้มาอยู่ด้วยกันอีก....อ้าว
คิดไปคิดมาเพลิน รถเมล์ที่รอมาแล้ว ถึงเวลาที่แกทั้งสองจะต้องจากกัน
ก้าวขึ้นรถเมล์ไป เจอกับแอร์เย็นๆ ฮ้าาาา ชื่นใจ กระเป๋ารถมาถึง "แยกเทพารักษ์ค่ะ"
...แป๊ก...เหรียญห้าบาททั้งสองตกลงไปอยู่ในที่เก็บเงิน.............