ดิฉันได้อ่านหนังสือเรื่อง Think Better เขียนโดย Tim Hurson แปลและเรียบเรียงโดย คุณพรศักดิ์ อุรัจฉัทชัยรัตน์ ในบทแรกสุด เล่าเรื่องราวของหนอนผีเสื้อ เห็นว่าน่าสนใจดี จึงขอหยิบยืมมาเล่าต่อ เพราะหนอนผีเสื้อเหล่านี้ สอนอะไรคนเราได้มากทีเดียว

ธรรมชาติของหนอนผีเสื้อ เวลาเดินหาอาหาร มันจะเดินตาม ๆ กันไปครับ ตัวที่เดินนำ ก็จะปล่อยใยบาง ๆ (ใยนี้ เราเรียกมันว่า Silk trail) ออกมา ตัวที่เดินตาม ก็จะคืบคลานตามแนวเส้นใยที่ตัวหน้าทิ้งไว้ พร้อมกับปล่อยเส้นใยของตัวเอง ให้ตัวถัดไปตามมาอีกทอดหนึ่ง หนอนเหล่านี้ ก็จะเดินตามติดกันไปเรื่อย ๆ อย่างไม่คิดมาก จนกลายเป็นแถวยาว ตัวที่เดินนำ มิใช่ฉลาดหรือยิ่งใหญ่แต่ประการใด แต่เพราะมันบังเอิญ เดินอยู่ข้างหน้าของหนอนทุกตัวเท่านั้นแหละ!

ธรรมชาติของหนอนเช่นนี้ ทั้งน่าสงสัย ทั้งน่าแกล้งจริง ๆ ว่าไหมค่ะ ข้อคิดจากหนอน (ผีเสื้อ)

หนอนเหล่านี้ ไปกระตุ้นความสนใจใคร่รู้ของนักกีฏวิทยาชื่อก้องโลก นามว่า Jean-Henri Fabre จึงทดลองด้วยการนำหนอนเหล่านี้ มาเดินในกระทะทรงกลมที่มีขอบสูงและบรรจุดินไว้ภายใน ผลลัพธ์ที่ปรากฏทั้งน่าขันและน่าคิด (ปนน่าสงสารนิด ๆ) คือหนอนเหล่านี้ ค่อย ๆ เดินวนรอบกระทะ หัวท้ายใกล้กันเข้ามาเรื่อย ๆ จนกลายมาเป็นวงกลมในที่สุด

ณ เวลานี้ ไม่มีหนอนตัวหัวแถวและหางแถวอีกต่อไป แต่ทุกตัวยังคงเดินกันเป็นวงกลมติดตามกันไปเรื่อย ๆ โดยไม่คิดมากเช่นเดิม

หนอนเหล่านี้ เดินดมก้นกันไม่หยุดอยู่ 6 วัน คลานไปทั้งหมด 500 รอบกระทะ รวมระยะทางที่มันกระดื๊บมากกว่า ¼ ไมล์หนอน หรือแปลงเป็นไมล์คนได้ 90 ไมล์ !!!

ที่น่าแปลกไปกว่านั้น คือระหว่างที่หนอนเดินหิวโซอยู่นั้น เฟเบอร์ นำอาหารไปวางอยู่กลางวงกลมหนอนเสียด้วย แต่ก็ไม่มีหนอนตัวใดเดินออกจากแถวเพื่อมากินอาหาร ทุกตัวยังคงมุ่งมั่นอยู่กับการเดินตามตัวหน้าไปเรื่อย ๆ อย่างมุ่งมั่นและโง่งม

สุดท้าย เหล่าหนอนหลุดออกจากวังวนได้ เพราะสมาชิกหนอนเริ่มเหนื่อยและอดตาย จนแถวไม่ปะติดปะต่อ หนอนที่เหลือ จึงรอดมาได้อย่างสะบักสะบอม

เฟเบอร์ให้เหตุผลหลังจบกระบวนการทดลองนี้ว่า “พวกหนอนต่างเดินตามกันไปเรื่อย ๆ เพราะหนอนขาดความสามารถในการหาเหตุผลว่าทำไมมันจึงควรยุติการเดินตาม ๆ กันไปเช่นนั้นเสียที”

หากมีหนอนสักตัว หยุดคิดและเหลียวมองตัวเองว่ากำลังทำอะไรที่ไม่เข้าท่าอยู่หรือไม่ และเปลี่ยนวิถีทางเดินไปยังอาหาร หนอนน้อยและเพื่อนอีกหลายตัวคงมีชีวิตยาวขึ้น

เปลี่ยนจากโลกของหนอนกลับมาสู่โลกของเราครับ ทุกวันนี้ คนเราเอง อาจจะไม่ต่างจากหนอนมากนัก เพราะคนส่วนใหญ่ ก็ยังคงนิสัยการเดินตาม ๆ กันไป เราตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไร เพราะว่าคนอื่นเขาทำหรือไม่ทำกันมากกว่า โดยเราอาจจะไม่ได้คิดเลย ว่าวิถีประชาเหล่านั้น ถูกต้องหรือเปล่า สร้างสรรค์หรือเปล่า เรากำลังเดินตามเส้นใยในวังวนที่ไม่มีทางออกเหมือนหนอนตัวหนึ่งอยู่หรือเปล่า

อาจจะมีบ้าง ที่บางห้วงความคิด เราอาจถามตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่ความคิดเช่นนั้นก้อพลันเกิดมาและดับไป มิได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิถีอันใด ซึ่งหากจะพูดอย่างเป็นธรรมกับหนอน หนอนเอง ก็อาจจะเคยมีห้วงความคิดเช่นนั้นเช่นกัน หรือต่อให้ไม่เคยคิดเลย ผลลัพธ์ระหว่างคนที่คิดได้แต่ไม่กระทำ กับหนอนที่คิดอะไรไม่ได้เลย ก็ไม่ได้แตกต่างกัน ดังนั้น แค่คิดอย่างเดียวนั้น ดูจะไม่เพียงพอเลยในการใช้ชีวิตให้เหนือหนอน

หากกาลิเลโอ เชื่อว่าโลกแบนเหมือนทุกคน เราคงยังกลัวการตกขอบโลกอยู่
หากนิวตัน บอกว่าแอปเปิ้ลตกใส่หัวเป็นเรื่องของ “ความซวย” โลกนี้คงไม่รู้จักแรงดึงดูด
หากเอดิสัน ทำตามชาวบ้านด้วยการใช้ตะเกียง เราคงไม่มีหลอดไฟ
หากเบล นิยมส่งจดหมายและรอคอยการตอบกลับอย่างอดทนเหมือนคนทั่วไป ทุกวันนี้ เราอาจไม่มีโทรศัพท์ใช้
และหากพระพุทธเจ้า นิยมการเสพสุขสำราญเหมือนคนอื่นเขาโดยมิพึงแสวงหาความสุขที่เหนือกว่า บัตรประชาชนดิฉัน ยังคงมิรู้ว่าจะระบุในช่องศาสนาว่าอะไร
ฯลฯ

นี่คือบางส่วนของคนที่ไม่คิดตามคนอื่น แต่คิดบนเหตุและผล คิดบนความกล้าและความมุ่งมั่น คิดบนความสร้างสรรค์และจินตนาการ

คนส่วนใหญ่ไม่ต่างจากหนอนที่เดินตามก้นกัน แต่คนที่พิเศษสุดเท่านั้น ที่จะเดินออกจากแถวและอยู่รอดได้จนแปลงกายเป็นผีเสื้อ !!!!