หน้าที่ 3 จากทั้งหมด 5 หน้า หน้าแรกหน้าแรก 12345 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 21 ถึง 30 จากทั้งหมด 49

หัวข้อ: ดินสีอรุณ ตอน 11 - จบเรื่อง

  1. #21
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ พิณอิสระ
    วันที่สมัคร
    Sep 2008
    ที่อยู่
    ขอนแก่น อุดรธานี และสุรินทร์
    กระทู้
    503

    กลับมาทันดินสีตอนที่๑๓

    คาตะเทียวทางเวิ้ง เหิงหลายมันเลยค่ำ ท่านศรีเอ๊ย...
    มัวตะเก็บหมากเล็บแมวนำทาง มัวตะขึ้นกินหมากค้อ
    กับพ่องเก็บหมากหว่า เกือบแม่นมาบ่อทันเพิ่น กะยังว่า
    ตกกลอนเขิน มาคือคักแท้น้อ บาท้าวบาวบา
    บาคานท้าว บาบ่าวบาคาน บาบ่าวคาน บ่าวบาคานท้าว
    ถ่าตอนต่อไปอยู่เด้อข่าน้อย

  2. #22
    :g:g ขอบคุณเด้อคับอาจารย์ที่นำกลอนแบบต่างๆมาให้ผุข้าได้ฮู้จัก สิคอยติดตามตอนต่อไปเด้อคับผม:g:g
    ...เปรียบแม่เช่น โคมทองของชีวิต

    ช่วยชี้ทิศ ช่วยนำทาง ช่วยสร้างสรรค์

    ให้ความรัก ให้ความรู้ ชูชีวัน

    ลูกจึงมั่นกตัญญูบูชาคุณ..........เพื่อแม่ แพ้บ่ได้

  3. #23
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ ศรีเวฬุคามมุนี
    วันที่สมัคร
    Aug 2008
    กระทู้
    64

    ดินสีอรุณ ตอน 14

    ต่อจากตอนที่แล้ว

    ดินสีอรุณ
    นิทานธรรมบท สำนวนอีสาน
    ตอนที่ ๑๔


    สั่งทหารลงกลอน


    แดนอีสานยังบ่สิ้น วาทศิลป์ยังเฮืองฮุง
    หลายคนซอยบำรุง พยุงเอกลักษณ์ไว้ บ่ไลถิ่มละหนี

    หลวงพ่อทองเพชร พ.กวี ตั้งแต่กี้ อาจารย์ใหญ่ได้แข็งขัน
    ประพันธ์กลอนเป็นแบบแผน แฟนๆ ได้ฟังเรื่อง

    บัดนี้ พ.กวี ตายเสี่ยง แต่เทศน์เสียงยังคงอยู่
    เพราะว่าท่านผู้รู้ได้เรียนไว้สืบมา

    ตกสมัยสู่มื้อนี้
    พิมพา ป. กวีกล้า เพิ่นหลวงพ่อมหาพิมพา ได้เพียรไว้ให้หลานท่อง
    นพดล เพชรพิณทอง เซียงคำภาผญาก้อม ได้ทอมไว้สืบแนว

    เสียงอิสานยังดังอยู่แจ้วๆ หมอลำม่วนแกมตลก
    โยมแม่นกยังแข็งขัน ประพันธ์ลำเวียงไว้

    อาจารย์สดใสยังเทศน์เรื่อง ฟ้าสีครามยังส่งเสียง ทำนองโอ้แล้วโอ่
    ป.ฉลาด ยังลำโชว์ ฟ้าเอ้ยฟ้าฮ้องโป้ง จรรโลงไว้เป็นอย่างดี

    ตกมาฮอดพรรษานี้ เฮียมได้ค้นคัมภีร์ ในตู้มาเปิดอ่าน
    แปลไปฮอดหว่างนิทาน ธรรมบทเพิ่นขีดแต้ม แถมท้ายต่อธรรม

    แปลแล้วอ่านอีกซ้ำ กะยังม่วนชวนสนุก
    พอได้ลืมความทุกข์ ซ่วงสบายหายฮ้อน

    จึงเขียนกลอนวาทแหล่ แปลนิทานให้มันคล่อง
    ว่าให้เป็นทำนอง ไทอีสานภาคพื้น พอได้ฟื้นบ่อนคดี

    คิดเห็นเด้.. คิดเห็นคราวแต่ก่อนกี้ เพิ่นหลวงพ่อได้สอนเขียน
    เพิ่นพาเรียนเดินหนังสือ เทศน์มาลัยแสนไว้

    ว่าไวๆ เป็นทำนองกาเต้นก้อน “ผุสดีขอพร” เณรน้อยได้เทศน์แอ่ว
    เดินหนังสือผูกแล้ว พลันลงแหล่ฝ่ายยาว

    คิดขึ้นมาใจปวดจ้าว บ่อยากกล่าวไปหลาย
    ขอฝากกลอนบรรยาย ส่งเสริมอีสานไว้

    ขออภัยผู้เพิ่นรู้ คุณครูบาคุณครู นักปราชญ์ผญาคล่อง
    หากมันผิดฝ่ายทำนอง ลงเอกโทบ่สุดบั้น
    บัดมันพร่องอยู่หว่างคำ นั้นละน่าศรัทธาโยม ฯ

    บัดนี้ หันมาฟังบ่อนบั้น ราชัญพระเจ้าใหญ่
    บังคับชายทุกข์ไฮ้ ไปวังน้ำป่าบัว

    มีประสงค์อยากกลั้ว เชยชิดกับนงค์นาง
    จึงหาทางส่งบา สู่ชลธาพุ้น

    ครั้นแสงสูรย์มิดจ้อย ป๋าให้ราชาคอย บ่าวดั้นบ่ถึงถิ่น
    จำต้องเสียชีวิน ตามสัญญาที่ว่าไว้ พระยาไท้ใคร่ครวญ

    หากบ่าวบานำถวายครบถ้วน มวลหมู่ปทุมทอง
    ประสงค์ปองเชยชิด ส่วนสิพังเภท์ม้าง

    พระราชาเลยแปลงสร้าง วางแผนการชิงนาง ให้มันซ้อนสลับเงื่อน
    รับสั่งไทขุนเขียน เสมียนวังให้ตั้งด้าม ปากกาจ้ำฝ่ายสาร

    “ประตูเมืองทุกๆ ด้าน ให้ปิดก่อนตะเว็นแดง
    ไผอย่าแผลงล่วงเกินลื่นคำดำรัสท่าน
    ทวารบาลขอให้ลงกลอนแน่น
    แม่นมีไทต่างแดน มาขอเฝ้าอย่าได้ปล่อย
    ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อยอย่าล่วงเข้าป่ายประตู”


    เติ่นหมู่คนให้ฮู้ ว่าราชูผู้ครองราษฎร์
    ประกาศปิดประตูก้ำ วังแก้วบ่เปิดเขย

    จั่งว่ายิ้มเอ้ยหนอ ผู้เบิดเจ๋อเบิดเจ้ย เจ้าใหญ่ผู้วางแผน
    อยากได้แฟนผู้อื่นเขา บ่ซ่วงเซาพอน้อย


    ตอนนั้นไทขุนข่อย ได้จัดการตามสั่ง
    ฮีบฟ้าวปิดเวียงวัง หวังตันทางบ่าวท้าว ผู้เดินด่าวเที่ยวไพร

    นี่ละหนอวาสนาคนไฮ้ บ่ใสส่องคือวงศ์หงส์
    พงษ์กระสาขาเกิน บ่ห่อนเหินเทียมฟ้า

    คอยฟังไปกลอนหน้า ว่าถึงตอนบ่าวบา ได้คืนบ้านกลับต่าว
    เว้าเป็นเรื่องเป็นราว เทศนาวาทแหล่ อีสานเบื้องบ้านหมู่เฮา ฯ


    โปรดติดตามตอนต่อไป
    เผยแผ่ครั้งแรกที่นี่
    ศรีเวฬุคามมุนี

    sriwaylukammunee@hotmail.com
    ๑๙ ต.ค ๒๕๕๑

  4. #24
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ แหลวแดง
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    กระทู้
    1,912
    พระเอกต้องถืกกลั่นแกล้งทุกวิถีทางเลยเนาะ นี้หละเพิ่นว่าแห่งทุกข์แห่งยาก ได้แต่รอคอยตอนต่อไปด้วยใจจดจ่อคับ

  5. #25
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ ศรีเวฬุคามมุนี
    วันที่สมัคร
    Aug 2008
    กระทู้
    64

    ดินสีอรุณ ตอน 15

    ต่อจากตอนที่แล้ว

    ดินสีอรุณ
    นิทานธรรมบท สำนวนอีสาน
    ตอนที่ ๑๕


    ก่อนสิ้นแสงตะวัน


    ทินกรสั่งฟ้าเมฆาย้อมสีแก่
    แลเห็นก้อนแหล่ๆ คือแพรตุ้มหน่วยไฟ
    หน่อยหนึ่งลงลับไม้ กุโฏ ไก่ขึ้นนอนฮัง
    สกุณังจอแจจอกจิบจับไม้

    เสียงใสๆ กาเหว่าฮ้อง ว่า “ตูเว้ย” เอิ้นหาคู่
    ทั้งญาครูเพิ่นลั่นฆ้องกลองแลงตึ้งโม่งดัง
    ทารกังน้อยสอยวอยได้ฮ้องฮ่ำ
    ย้อนแม่คุมอาบน้ำ ลูกคำเว้าว่าแต่หนาว

    ลมเอ้ยหนอ.. ลมพัดใบหมากพร้าว น้าวใส่ใบตองตึง
    สายันห์ถึงสมัยเย็น หน่วยตะเว็นลาแล้ว

    จากเคยแจ๋วใสเหลือมกะมามุงมัวมืด
    มิดมอดเมียนแสงต้องบ่ส่องสี

    คิดไปๆ มาๆ มวลมนุษย์ในโลกนี้เปรียบดังสุรีโย
    ปุพพันโหหากสดใสเลิศวิไลเริงร่า

    อุปมาคือวัยต้นยังตูมตังเต่งตึ่ง
    เถิงวัยปลายคล้ายคล้อยจวนม้อยเข้าทุกปี

    อันว่าชีวิตนี้ หากปิ้นเปลี่ยนเวียนวน
    บ่คงทนตายเสีย ผัวเมียเลยตายซ้ำ

    ขอเชิญทำบุญสร้าง บัดยามออกเดินทาง บุญท่อนั้นสิได้เพิ่ง
    ใจให้ใสเริงๆ ตั้งต่อธรรมพระบาทเจ้า
    ผู้เพิ่นเข้า..นิรพาน นั้นละหนาโยมเอ้ย ฯ

    ในตอนนี้
    กล่าวถึงบาคานท้าว ได้กลับต่าวคืนเมือ
    ดีใจเหลือน้ำตาไหลชื่นหทัยเริงร่า

    ฟ้าวกราบลานาคาเจ้าผู้เนาว์นอนในน้ำใหญ่
    ลาหมู่ต้นดอกไม้ อยู่ใกล้ห้วยฮุ่งหอม

    ลาจากกล้วยหน่วยก้อมติณชาติเครือวัลย์
    ทั้งหมู่มันมวลมีหมี่ไหมตำในเกี้ยว

    ลาจากเขียวใบหว้าอินถวาหอมอ่อน
    ลาจอนฟอนหมีเม่นกระเลนเต้นไต่โตน

    ลาผู้ห้อยโอ้น.. โต้น.. เหนบ่างนางชะนี
    ทั้งจำปีจำปาขาวหมู่ตาวแคมต้น

    ลาทั้งสนใบส่อยใบยอยหางกระต่าย
    ลาทั้งผือแลไหลทั้งหมู่ไก่ขันจ้า กระทาท้ากระโดกนา

    กัททลี น้ำหว้าตีนเต่าเล็บมือนาง
    อย่าได้วางไลเครือ ไปซื่นซมหมากเขือน้อย

    อยู่ดีเย้อ.. เจ้าผู้กลอยกกล้ำฝนฮำให้เจ้าป่ง
    ลาทั้งดงไม้เนิ่งเปิงเป้าเต่าดอย

    ตะเว็นลงบ่ายคล้อย บาบ่าวต่าวคืนเวียง
    ได้ยินเสียงดนตรีอยู่บุรีวังกว้าง
    พระยาหลวงคือสิทรงสำราญแท้ บัดโตแหมได้ดิ้นดั่น
    ซินของคนซ่างต่างกัน ไกลเกินกับดินฟ้า ซาตาข้าหากบ่สูง

    ชาติต่อไปมาตรมุ่ง ขอเกิดเป็นพระราชา แน่เด้อ
    อย่าได้มาทนทุกข์เที่ยวไพรในด้าว
    จั่งว่าเขียวเอ้ยหนอ.. เจ้าผู้เขียวใบพร้าว บ่พอคราวกะขูหล่น
    เขียวเอ้ย เจ้าผู้เขียนใบสนชีวิตคนนี้ยากแท้ พอปานแบ้.. พ่อใหญ่เริง
    นั่นละน่าศรัทธาเอ้ย ฯ

    บ่พอคราวกะพ้นดอนหินเก้ยข่วมป่าเข้าเมืองคน
    ข้าผู้ทนโทมทุกข์เทียวทางสิเภท์ม้าง

    เหลียวเห็นปรางค์สูงเหลื่อมสูงเทียมฟ้าหย่อนๆ
    ย่างจนขาอิดอ่อนก่อนพระสูรย์ลับฟ้าตนข้าต้องอยู่ปรางค์

    ทางใจมื่นขึ้นบ้างขาย่างยังพอทน
    ได้โกมลมวลมีดินสีอรุณพร้อม

    ถ้าเพิ่นยอมให้เข้าเฝ้าตนเฮาสิฟ้าวต่าว
    บอกเรื่องราวให้น้องฮู้ อิดูหน้าบัดห่างกัน

    เหลียวเห็นโขงเขตซั้น กำแพงหลั่นตันฝา
    นั่นแม่นวังพระราชา หากใกล้ตาเข้ามาแล้ว

    จักแม่นกรรมหยังแหล่ว หากมีแนวบ่เข้าท่า
    ทวาราหากปิดแล้ว ประตูแก้วบ่เปิดเขย

    คือสวรรค์แกล้งเย้ยแถนเหยียดดวงซาตา
    วาสนาพาเซบุญปุพเพพาล้ม

    หรือว่าพรหมเพิ่นล้อเล่น เห็นว่าเฮานี้ทุกเข็ญ เลยล้อเล่นบ่เว้นหว่าง
    ต้มให้ออกเดินทาง ลาจากปรางค์หอกว้างเลยล่วงเข้าป่าไพร

    สาธุเด้อเทพไท้ให้ไขป่องเล็งญาณ
    จากวิมานเมืองแมน มิ่งตาวติงส์ฟ้า
    ทั้งนาคานาโคแข้ ให้มาแลหลิงหล่ำ
    ธรณีนาถน้ำคนธรรพ์เจ้าให้ซ่อยแยง

    สาธุเด้อผู้ฮู้แจ้ง ขอจงโปรดเป็นสักขี
    ข้านี้มีความสัตย์ซื่อตรงบ่ล่วงลิ้น

    ได้นำดินกับบัวโป้งตามประสงค์พระยาท่าน
    แต่อ่วยโง ต่าวบ้านประตูนั้นบ่เปิดไข

    แม่นข้าขออยู่ไจ้ๆ กะใจจืดน้อทหาร
    ทวารบาลบ่ยอมเขยตายละเว้ยคราวนี้
    ตายอีหลีตายม้วย ครั้นบ่ถวยยอส่ง
    ครั้นบ่ทูลบัวโป้งพระองค์เจ้าสิฆ่าตาย

    ในตอนนั้นบากะหยับย่างย้าย ออกมาม่ายอยู่เคียมวัง
    ทั้งหาทางสิทูลบัวทูลหัวพระยาเจ้า บาเลยเอาบัวโป้งจากถงกับดินด่อน
    โยนไปทางพระบัญชร เล็งบ่อนนอนบรรทมเนิ้ง เปิงกว้างข่วงหลวง

    อภัยเด้อ..ข้านี้บ่ได้คิดล่วง องค์ท่านประธานเมือง
    โปรดอย่าเคืองพระทัยขัด ฝ่ายดำรัสให้ทรงไว้

    ครั้นบ่ไขข่อยบ่หาญขืนเข้า ขอพระองค์อย่าเหมา ว่าเฮียมนี้สิหนีท่าน
    ขอกันอยู่เหิงนาน นายทวารบ่เปิดให้ จึงจำได้ห่างหนี

    เว้าแต่เพียงท่อนี้ บาบ่าวกะลาลง
    แผ่นทะรงภูมีให้อยู่ดีเด้อจ้า

    จั่งว่าบุญเอ้ยน้อ.. บุญปุพเพภายหน้า ว่าสิคืนเคหาพระยาเจ้าผั่นปิดป่อง
    นอนใสน้อเจ้าของ ทั้งห่วงน้องนาถหล่า ภรรยาเค้าได้เก่าหมอง

    เอาละเด้อพี่น้องต้องขอเพิ่งเพิ่นญาครู
    สินอนดูเดือนดาวกลางหาวพราวฟ้า

    เพิ่นคงหลูโตนหน้าคงกรูณาให้ซ้นเพิ่ง
    ขออาศัยอยู่เพิง ใต้กุฎีมุนีเจ้าฮอดยามเซ้าจั่งสิไป

    นี้ละน้อเพิ่นว่าไว้ซุ่มพ่อใหญ่โบราณ
    เป็นภาษิตสอนหลานกล่าวการให้เห็นฮู้

    เพิ่นหากว่า
    “ครั้นหนูกัดเครือฮูกจั่งคึดเห็นคุณแมว
    ลูกแขวนข้างแขวนแอวจั่งเห็นคุณพ่อแม่”

    ครั้นบ่ทุกข์แท้ๆ บ่แวเข้าวัดไป

    ตอนนั้นชายผู้ทุกข์ไฮ้ อาศัยหมู่ซุมสงฆ์
    นอนบ่อนองค์เซาพัก วัดเชตวันพุ้น

    จั่งแม่นบุญบาท้าวนอนซมดาวหมี่ใหญ่
    นอนซมดวงดาวไก่ ทั้งดาวไถดาวแข้ ดาวแบ้หมู่กวาง

    เกาะกันอยู่ฟ้ากว้าง จักดวงดอกดาวได๋
    ช่างคือไทยเมืองแมนกล่อมแฟนเฮียงซู้

    เหลี่ยวเห็นคูดาวขั่นเป็นถี่ถันซ้อนหลั่น
    ช่างคือนางมาลีจันทร์ ถืกกุมภันฑ์แล่นต้องผยองเต้นเผ่นหนี

    คิดเห็นเด้ คิดเห็นคราวก่อนกี้ได้จาต่อเมียแพง
    ฮอดยามแลงเคยแยงดาวกระพริบพราวขาวจ้า

    บัดนี้หนอ.. บัดนี้ตนโตข้าเลยได้ไกลภรรยามานอนกลุ้มอยู่ตูบต่อ
    ขออาศัยเพิ่นหลวงพ่อพอได้หายอิดล้าอิดูหน้าฝ่ายโต

    ฟังสาก่อนอย่าฟ้าวโอ้ เผยโผ่ว่ามันยาน
    ฝ่ายนิทาน กำลังฮอนผู้แต่งกลอนกำลังเร่ง
    ผู้ตะเบ็งเส็งแหล่กะเสียงแหลไหลล่อง
    เชิญศรัทธาพี่น้องติดตามบั้น ต่อนิทานละหนาโยมเอ้ย ฯ

    บาบ่าว กลับต่าวบ้าน ทวารบาลปิดก่อน
    เลยซ่อนลี้ หนีม้มหว่างภัย

    บัวใบต้น โกมลงามยิ่ง
    บาก็จิ่ง ขว้างเข้า วังเจ้าพระยอดเมือง

    เฮืองๆ ฟ้า ดาดินสีด่อน
    บาท่อนท้าว โยนเข้าใส่ปรางค์

    ทั้งแล่นลี้ หนีขุนพลไพร่
    เล็งใส่ก้ำ อาฮามกว้าง ข่วงจัว

    ดีทั่วพร้อม ลงนอนนิทเน่ง
    เพ็งหน่วยแก้ว วอนแล้วเลานอน ฯ


    กุโฏ=ไก่
    สกุณัง=นก
    ทารกัง=เด็ก
    ปุพพันโห=เวลาเช้า
    ติณชาติ=ไม้เถา
    กัททลี=กล้วย

    โปรดติดตามตอนต่อไป
    เผยแผ่ครั้งแรกที่นี้

    ศรีเวฬุคามมุนี
    sriwaylukammunee@hotmail.com
    ๒๕ ต.ค ๒๕๕๑

  6. #26
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ แหลวแดง
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    กระทู้
    1,912
    กำลังม่วนเลยคับท่านอาจารย์ สิตั้งตารอตอนต่อไปครับผม ขอบพระคุณครับ:g:g

  7. #27
    :g:gมาให้กำลังใจเด้อคับอาจารย์ คือมีแต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดแท้น้อพระเอกกะดาย:g:g
    ...เปรียบแม่เช่น โคมทองของชีวิต

    ช่วยชี้ทิศ ช่วยนำทาง ช่วยสร้างสรรค์

    ให้ความรัก ให้ความรู้ ชูชีวัน

    ลูกจึงมั่นกตัญญูบูชาคุณ..........เพื่อแม่ แพ้บ่ได้

  8. #28
    นักปราชญ์เมืองอีสาน
    ศิลปินนักแต่ง ผญา
    สัญลักษณ์ของ ศรีสะท้าน
    วันที่สมัคร
    Aug 2006
    กระทู้
    4,179
    (สมมตินาม)
    ศรีผู้ถืกกลั่นแกล้ง แสดงพากษ์ภายกลอน(พระเอก)
    บ่อาจนอนคะนิงหลับ ระงับใจหทัยนิ่ง
    แลแนมสิ่ง หลิงหาผวาอ่าว
    ศรีเวฬุคามเพิ่นจ้าว กลอนห่าวหย่าวคำ

    ...อยู่ซื่อๆแหน่ คนทางอีสานใต้..เขากะลังอินเลิฟอยู่ เหอ ๆ ๆ...
    วรรณคดีล้ำลำนำเอื้อนเอ่ย เขยภาษาพากษ์เว้าลาวพื้นกล่าวไกล

  9. #29
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ ศรีเวฬุคามมุนี
    วันที่สมัคร
    Aug 2008
    กระทู้
    64

    ดินสีอรุณ ตอน 16

    ต่อจากตอนที่แล้ว

    ดินสีอรุณ
    นิทานธรรมบท สำนวนอีสาน
    ตอนที่ ๑๖


    รำพึง รำพัน


    กล่าวถึงกัลยาน้อย ผู้คองคอยบาบ่าว
    จิตกระสันปวดร้าว บัดบาท้าวห่างหนี

    หรือว่าลบหลีกลี้ลวงหลอกให้ลืมหลง
    ไปซมนงค์นวลนุชสุทธิ์ทาริกาน้อย

    ลืมคำกลอยแถลงต้าน คำหวานที่ฮ้องสั่ง
    ไปซมวังหมื่นห้อง เลยลืมน้องผู้ผ่อคอย

    พี่เอ้ยพี่ เจ้าสังไปมิดจ้อย ป๋าปล่อยอีนางแพง
    ผู้แกงแลงแต่งกับ ไว้รับขวัญอวนเจ้า

    ทั้งอ่ำเทาหมกหม่ำ ทั้งปลาตำต้มป่น
    ผักกระโดนโดกดั้ว หมากถั่วค้างห่างใบ

    เริ่มจัดแจงแต่งไว้ ตั้งแต่ไก่บ่ทันนอน
    อ้ายบ่จรคืนเมือ ซุบหมากเขือสิบูดแล้ว

    เฮือนอาแถวอาวถ่วน เสียงเพิ่นซวนดังสนั่น
    นั่งนำกันแวดล้อม ผัวเมียพร้อมสู่กิน

    ก่อนตะวันสิลับสิ้น จึ่งฮู้ข่าวความมี
    อ้ายเซียงสีลาวมาขาน อ่านคำให้ฟังแจ้ง

    ว่าบาแยงไปวังน้ำ ตามคำดำรัสท่าน
    กลับบ่ทันประตูบ้าน ทหารจ้อนลัดกลอน

    แม่นว่าลาวสิเอิ้นอ้อน ออยออดโอยทาน
    นายทหารบ่ยอมเขย ได้ละเลยลมลิ้น

    โสมยุพินได้ฟังเรื่อง ทั้งสำเนียงเซียงสีกล่าว
    ว่าโอนอท่อนท้าว สามีเจ้าไปอยู่ใส

    ไปเน่งนอนอยู่ป่าไม้ งูใหญ่สิขบขา แลหนอ
    ไปเน่งนอนอยู่ศาลา ฝ่ายบาสิหนาวเนื้อ

    ทั้งย้านเสือสิงห์ฮ้ายอันตรายสิมาผ่า
    เทพเทวาท่อนไท้ จงลงใต้ม่ายดิน

    สัพพโภยพยาธิสิ้นให้ไกลจากสามิกา แน่เด้อ
    พระอินทาจงลงฮักษ์ปิ่นปักปกป้อง

    ครั้นสีทองส่องเบื้อง จั่งค่อยกลับคืนเมือง ต่าวบ้านสถานถิ่น
    โฉมถวิลนาถน้อง ยังครองถ่าอ้ายอ่วยมา

    อยู่ดีเด้อพี่จ้าให้เจ้าอยู่สุขี
    ในราตรีให้นอนฝัน ฮอดวิมานเมืองฟ้า

    ยามหลับไปให้เจ้าฝันเห็นหน้า
    ผู้จอมศรีภรรยาผู้คอยถ่าอยู่บ้านเก่า
    น้องนี้ทุกข์ระทมเหงาปานนกเจ่าจ่อมกุ้งพยุงไว้ฝ่ายน้ำตา

    อันว่าดาวเอ้ยหนอ จั่งว่าดาวบนฟ้า เจ้าโสกาคือฉันบ่
    ทุกข์ขึ้นมาพอๆ น้ำตาคลออั่งเบ้า มันแสนเศร้า.. เก่ามโน ฯ

    แต่นั้น นางคราญหล้า โสกาไห้ฮ่ำ
    เลื่อนๆ น้ำ ตาย้อยหย่าวไหล

    คิดนำ ผัวขวัญไท้ ได้ไกลจากลาหนี
    เกรงว่า ผีภัยมาร สิแล่นนำทำฮ้าย ฯ


    โปรดติดตามตอนต่อไป
    เผยแผ่ครั้งแรกที่นี่

    ศรีเวฬุคามมุนี
    sriwaylukammunee@hotmail.com
    ๒ พ.ย ๒๕๕๑

  10. #30
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ พิณอิสระ
    วันที่สมัคร
    Sep 2008
    ที่อยู่
    ขอนแก่น อุดรธานี และสุรินทร์
    กระทู้
    503

    รำพึง รำพัน

    คองคอยถ่า นานมานออ้ายบ่าว
    ยามกินข้าว คำเคี้ยวกลืนบ่ลง
    ใจประสงค์อ้าย คอยดายกะคอยเปล่า
    จักเจ้าไปไสจ้อย คอยถ่ากะบ่มา...ฯ
    ..............
    ไปบ่เป็นเลยผู้ข่าฯ ยังคอยถ่าตอนต่อไปอยู่เด้อข้าน้อยฯ

หน้าที่ 3 จากทั้งหมด 5 หน้า หน้าแรกหน้าแรก 12345 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •