งานเงินที่อยู่คู่ครอง(ควรแสวงหาตามลำดับ)
งาน+เงิน+ที่อยู่+คู่ครอง ควรหาตามลำดับ

พออายุย่างเข้าวัยรุ่น เราก็เริ่มคิดอยากมีแฟนตามสัญชาติญาณ เห็นใครสวย (beautiful or lovely and slender)เราก็แอบนึกรักแอบใคร่ เห็นผู้หญิงแต่งตัวเสื้อผ้าประหยัดก็หัดจินตนาการลึกทะลุเสื้อผ้าเข้าไปตามประสาความรู้สึกของผู้ชาย ถ้าเป็นผู้หญิงเห็นใครหล่อรูปร่างสมาร์ท (smart)เราก็นึกรักนึกชอบขึ้นมาในใจ....
ความรักของคนวัย ๑๓ - ๑๙ ปี มักเป็นความรักที่เข้าทางตาและทางหู มากกว่าที่จะเข้าทางสติปัญญาความรู้และความพร้อมที่จะรับผิดชอบ เราจึงได้ยินได้เห็นประโยคที่วัยรุ่นวัยกระเตาะใช้สื่อความหมายว่า ฉันรักเธอนะ ในรูปแบบต่างๆเช่น ทานข้าวหรือยัง... คิดถึงจังเลย... ดูแลสุขภาพนะ... นอนหลับฝันดีจ๊ะ... วัยรุ่นระยะนี้เป็นระยะ IQ ต่ำ แต่ I love you สูง EQ ต่ำแต่อีโก้สูง(Ego)จนน่าตกใจ พ่อแม่สอนยังไม่รับฟัง...

ใครมีโทรศัพท์ก็มักจะโทรหาแฟน เช้าเที่ยงเย็นและก่อนนอนหรือบางคนชอบส่ง SMS ข้อความหาแฟนหากิ๊กเช้าเที่ยงเย็นเช่นกัน เช้าส่ง I think you, เที่ยงส่ง I love you บ่ายมาหน่อยส่ง I miss you ค่ำส่ง I want you บางคนส่งเป็นบทกลอนยาว บางคนก็คุยยาว งานเอาไว้กก่อน ขอคุยกับแฟนก่อน บางคนมีทั้งรอบเช้า เที่ยง เย็น ดึก ว่างปุ๊บโทรหาปั๊บ
ค่าโทรศัพท์แต่ละเดือนจะเป็นแบบเติมเงินหรือรายเดือนล้วนแต่เป็นเงินที่เราขอมาจากบิดามารดา....บางคนใช้ไม่รู้ประมาณกับรายได้ที่ขอจากพ่อแม่ให้ใช้ ลืมฉุกคิดไปว่าใบเสร็จรับเงินที่เราจ่ายค่าใช้โทรศัพท์ไม่สามารถนำมาชำระเป็นเงินค่าสินสอดได้
ฉะนั้นเราควรใช้เงินให้พอดีเท่าที่จำเป็น ไม่ทำให้พ่อแม่ลำบากกับค่าใช้จ่ายที่นอกตำราเรียน พ่อแม่คงดีใจกว่าการฟุ่มเฟือยถ้าลูกประหยัด บางคนอยู่ห่างกันสิบวายังต้องโทรหา แทนที่จะเดินไปเรียกเพื่อความประหยัดหรือว่าเราจะรอให้พ่อแม่ลำบากจนไม่มีแม้แต่บ้านอยู่จึงจะคิดได้ พ่อแม่ยอมโรคทรัพย์จางเพื่อให้ลูกมีหน้าตาในสังคม ลูกคนอื่นเขามีอะไรพ่อแม่ยอมหาให้เพื่อให้ลูกมีเหมือนเขามี...
ในยามมีรักช่วงวัยรุ่นตอนต้นไม่มีใครสามารถที่จะบอกได้ว่าความรักคืออะไร และต่างคนก็นิยามความรักไปต่าง ๆ นานา วัยรุ่นพอโตพอเริ่มมีความรู้สึกทางกามารมณ์ ก็อยากหาคู่ อยากมีแฟนกะเขาสักที แต่จะมีสักคนที่เตรียมตัวรับสิ่งที่เกิดจากความรัก...
ความรักที่แท้จริงจำเป็นต้องมีความจริงใจ ให้เกียรติ ไม่เหยียดหยามต่อคนที่เรารัก ไม่ชิงสุกก่อนห่าม อย่างที่โบราณสอนไว้ ผมก็ยังเห็นว่าคำว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน อย่าชิงสุกก่อนห่าม จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตในสภาพการณ์ปัจจุบันและอนาคต แม้นมีหลายคนจะถือว่ายุคนี้เป็นยุคฟรีไสตล์(Free style) แต่เพราะปัญหาฟรีสไตล์มิใช่ฤา จึงทำให้มีคลีนิครีดน้องหลายแห่ง....เขาร่ำรวยเพราะได้เงินจากเยาวชนที่ท้องแล้วไม่พร้อม...

ในสถานศึกษาผู้เป็นครูรู้สึกลำบากใจในปัญหานี้เท่าๆกับปัญหาที่ผู้มีอำนาจสั่งห้ามเด็กเรียนซ้ำชั้น(โง่ก็ต้องสอบผ่าน อ่านไม่ออกก็ต้องเรียนต่อชั้นต่อไป) เพราะบางทีเขาไม่พร้อมจริงๆแต่ต้องเลื่อนชั้นตามปีที่เรียนเราจึงเห็นสังคมบ่นว่าเด็กไทยอ่านไม่ออกมีถึงร้อยละ ๑๐ และอีกปัญหาที่พบคือการถ่ายคลิปวีดีโออวดโชว์..การมีเพศสัมพันธ์แล้วถ่ายไว้โชว์เพื่อนๆ หรือถ่ายเพื่ออะไรก็ไม่อาจพรรณนา...แต่เยาวชนหลายคนก็ตกอยู่ในวังวนของคลิปประเภทนี้...จำเป็นหรือถึงเวลาหรือยังที่เราจะเห็นคุณค่าของการรักนวลสงวนตัว หรือนำเยาวชนอบรมศีลธรรมในวัดที่มีพระดีๆสอนอยู่
ถึงเวลาแล้วหรือยังครับ ที่พวกเราที่เป็นเยาวชนไทยจะมาทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ตั้งใจศึกษาให้สำเร็จสมดังเจตนารมที่บุพพการีตั้งใจ โดยยึดความรู้คู่ศีลธรรม... ถ้าเราคือเยาวชนคนหนึ่งที่เคยพลาดแล้วหยุดทำผิด...ครูและพ่อแม่คงดีใจกว่าการที่ไม่ยอมเลิกทำ ....จริงอยู่ กิน+หลับนอน+สืบพันธ์ คนกับสัตว์ก็มีเหมือนกัน แต่การรู้จักกาลทีเหมาะสม ความพร้อมทั้งร่างกายจิตใจ ความพร้อมด้านหน้าที่การงาน..แล้วค่อยคิดหาคู่ คงดีกว่าการรีบมีแฟนในขณะที่ขอเงินแม่พ่อใช้อยู่...
งานเงินที่อยู่คู่ครอง ควรแสวงหาตามลำดับ (เงิน งาน บ้าน เมีย ควรหาตามลำดับ) แต่หลายคนบอกว่า ถ้าจะให้หาครบทุกอย่างคงไม่ได้...ค่อยหาช่วยกัน..เพื่อช่วยสนับสนุนอ้างเหตุผลของตนเอง....แต่การเริ่มต้นที่ดีเท่ากับสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง.. ผมจึงอยากชวนพวกเรามาแสวงหาสิ่งเหล่านี้ไปตามลำดับ แล้วเราอาจจะได้เห็นว่า อดเปรี้ยวไว้กินหวานยังใช้ได้อยู่เสมอ และก็มีความสุขนานกว่า...