กลับมาแล้วเด้อค่า...หายหน้าไปนานพอสมควร หย่านไทพี่น้องบ้านมหาคึดฮอดซั่นดอก
กรี๊ด... มีไผ คึดฮอดดิ้ง คือ ดิ้ง คึดฮอดไผ แหน่ะบ่ค๊ะ ::)
เพราะไป เอา บุญ ผะเหวด เพิ่ง กลับมา ตั่ว ค่า...บ่มีไผถามดอก แต่ อยากบอก
บอกกะ บ่ บอก ซื่อๆ เด๊ะ หอบบุญ มาแจกนำกะจั่งหว่ะ
เอ๊า....ได้ยินกันแหล่ว กะ พากันหอบกระดอนคอนกะต่า กัน ออกมาเด้อ พี่น้อง
มารับเอาบุญนำกันซั่นดอก บาดเนี่ย เหลือ กะต่า กะ ห่อ กลับบ้านได้เด้อค่า
หวึ๊ย...หวึย ตั้งแต่ เกิดใหม่ ไหย่ มา เพิ่ง เคยเห็นบุญ เป็นโตเป็นต่อน กะมื่อนี่ล่ะ ค๊า...พี่น้อง บุญ แซ่บ บุญนัวหลาย กะจั่งหว่ะ :)
บ้านนี่เพิ่นเอาบุญแบบมินิตั่วค่า เป็นงานน้อยๆ ของกลุ่มสมาคมคนไทยในสวีเดน ที่เมืองEskilstuna(เอสคิวส์ทูน่า)
เป็นเมืองที่ห่างจากกรุงต๊อกโฮล์มประมาณร้อยกว่าๆ กม. จุดประสงค์ของสมาคมเพิ่นอยากหาเงินสร้างวัดพ่ะนะ ...สาธู๊บุญ...นำเพิ่นเนาะค่ะ
เพิ่นพากันร่วมเป็นเจ้าภาพตีตั๋วรถไฟไปกลับเชิญชาวคณะนักเทศน์มือใหม่ของวัดสังฆบารมีซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของสวีเดนไปร่วมงานนำ
ทั้งสมัครใจไปล่ะว๊า...เพราะอยากเล่นและอยากมีส่วนร่วมในการทำนุบำรุงพุทธศาสนาซั่นดอก...บึ๊ย...พ่ะนะมาม่วนแถ่ะเนาะลมปากแปๆ
และในนามของพวกเรา(ลาว) ซาวเอาะเหยาะศิลป์ซึ่งนำทีมโดยหลวงพ่อธงชัย
(พระครูสังฆรักษ์ ธงชัย สุภชโย) เจ้าอาวาสวัดสังฆบารมี หลวงพี่ยอด
(พระมหายอดดอย ปัญญาภรโณ )
ป้าทองใบที่รักแม่ครัวประจำวัด หนูยุ้ยสุดสวยที่น่ารักตากล้องของวัด
และสาวดิ้งผู้นำ(นำแหน่ ไปนำแหน่)
จึงขอร่วมยกมือสุดศอก อนุโมทนาสาธุบุญกับคณะศรัทธา
ของทางสมาคมชาวไทยในเมืองเอสคิวทูน่าไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
อันๆ ไปเทศน์กะบ่ ครบทีม ดอกค่า หย่อนวา ค่าตั๋วรถไฟ แพงหลายกะจั่งหว่ะ
กัณหาชาลี ชูชก กะได้ไปมัดมือชก เอาข้างหน้าพุ่นล่ะ จะแหม่นอยากขอชื่นชมออกอากาศ
ในความสารถที่กล้าแสดงออกในทางที่ถูกต้องของน้องๆ ทั้งสามคน
มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ เพราะน้องๆ เขาให้ความร่วมมือดีอีหลี
พุ่นหน่ะ ยืนยันด้วยภาพว่าน้องเขาทำหน้าที่ได้ดีอีหลี ในกัณฑ์ชูชก ออกไปหาขอทานกะได้เงินอีหลีแหม่ะ :)
กล่าวถึงชลนีแก้ว มัทรีนางได้เดินป่า หาผลหมาก รากไม้ เอามาไว้ท่าใส่เพล
พอเมื่อมาฮอดบ้าน บ่เห็นลูกบุตรา สองกัณหาชาลี ไปอยู่ไสหนอท้าว.....
พุ่นหน่ะเพิ่น....นางมัทรีไห้หาลูก คนฟังกะได้ไห้นำ กะจั่งหว่ะ...
เทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก เวอร์ซั่นทรงเครื่อง มีหม่องเดียวคือหม่องนี่เด้อค่าอิ๊ก... ::)
"รับศีลรับพรกันนะโยม ฟังอาตมาพร้อมทั้งสาธุรับด้วยใจ
ใครมีน้ำกรวดน้ำด้วยนะ ถ้าไม่มีน้ำจากแก้วก็กรวดน้ำใจไปเด้อ
เพราะหลวงพ่อก็ให้พรออกจากใจเหมือนกัน"
บึ๊ย...วาทะของหลวงพ่อ :)
หลังจบจากการฟังเทศน์กันแล้วก็เป็นการถวายกัณฑ์เทศน์
ร่วมกันถวายสังฆทาน และต้นผ้าป่า
เสร็จแล้วก็ช่วยกันรวมยอด
ได้ตัวเลขแล้วให้ไปแจ้งกับจนท. เพื่อหลวงพ่อจะได้กล่าวสรุปในวันนี้
ขออนุญาตยกเอาบทกลอนคำผะหยาของคุณพี่ศรีปราชญ์ที่แต่งไว้มากล่าวไว้ในที่นี้ด้วยค่ะ สาธุ
เพื่อเตือนใจให้รำลึกถึงการสร้างกรรมดี ละเว้นกรรมชั่วและสิ่งมัวหมองทั้งหลาย
อย่าละเลยที่จะตักน้ำใส่ตุ่มเพื่อเตรียมไว้ใช้สำหรับดื่มกินหรือชำระล้างกันเด้อค่า
จิตนอบน้อม มหาปราชญ์จอมมุนี
คุณพระศรีตรัยรัตน์ ผู้ส่องญาณเห็นแจ้ง
อภิธรรมอุดมแม้ง ยอแสดงคุณล้ำค่า
เกิดปัญญาส่องฮู้ ฮูหม่องปล่องอบาย
ตัดโมหะต่อนฮ้าย โกธะโกรธโทสา
อะเวราปาปัง ที่หลั่งโฮมโถมพื้น
คุณพระสงฆ์ผู้ยอขึ่น โสดาพาม้มฝั่ง
อะระหังผู้ไต่เต้า ตามต้ายฝ่ายพระองค์
ข้าจักยอยกโผ่ง องค์ธรรมขึ่นมากล่าว
มนตรีซาวไพร่น้อย ขุนข่อยจ่งนั่งฟัง
อันอะหังตนข่า ขอสมมาขึ้นไว้ก่อน
บัดเทื่อตัดบ่ถืกตอน บัดเทื่อฮอนบ่ถืกต้น ตนเจ้าให้เล่าซู
ศรีฯข่าท่อแต่ฮู้ เฮียนฮ่ำนำหนังสือ
บ่ได้ถือครองวัตร ปฏิบัติจนเห็นแจ้ง
คันแถลงผิดเบื้อง เคืองขวางจ้วงจาบ
ผู้ข่าขาบนบก้ม ประนมน้อมฮ่อมบ่ดี
กายวะจีวาจาล้ำ มะโนกรรมคาระวาท
อันที่ขาดล่วงเข่า พระคุณเจ้าจงโผดผาย
ขอจงหายเวรกล้า โทสาอันได้ล่วง
ขอพระคุณทั้งปวง จงมาปกกระหม่อมเกล้า ยามเมื่อเว้าว่ากลอน พระเฮยฯ
และบทกลอนนี้ของคุณเฟื่องฟ้าที่ได้แต่งไว้ และลงที่เวบอรุณสวัสดิ์ค่ะ
"โลกหมุนเวียน เปลี่ยนผัน ทุกวันวี่
เข็มนาที เคลื่อนเดินไป ใช่ถดถอย
วันเวลา เลื่อนไหลไป ใช่หยุดคอย
ยิ่งนานวัน ยิ่งเหลือน้อย ค่อยๆเลือน
อย่าอ้างบาป ว่าชาตินี้ มิเคยสร้าง
มิจำเป็น ต้องถางทาง หรือสร้างเขื่อน ( สร้างบุญ )
มองเห็นบุญ ไม่ขยับ กลับแชเชือน
พอกรรมเก่า เข้ามาเยือน เหมือนขาดใจ
บาปไม่ทำ แต่ว่าบุญ ต้องหนุนสร้าง
เพื่อปูทาง ไปสู่แคว้น แดนไสว
ถิ่นนางฟ้า เทวดา บนฟ้าไกล
ไม่อยากไป ก็แล้วแต่ แค่อยากเตือน"
จากคุณเฟื่องฟ้า
ก็ขอสาธุบุญกับคุณศรีปราชญ์แห่งบ้านมหา และคุณเฟื่องฟ้า
สำหรับบทกลอนเพราะๆ ซึ่งจรรโลงใจไว้ ณ ที่นี้ค่ะ
หลังจากถวายสังฆทานแล้ว ก็เป็นช่วงสุดท้ายของงาน หลวงพ่อไม่มีของขลังจะมอบให้
มีแต่หนังสือธธรมมะ ที่เปรียบเสมือนแสงสว่างส่องทางอันเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา
ที่ท่านตั้งใจหอบลากมาจากทางใต้เพื่อมอบให้ญาติโยมที่มาร่วมงาน
และเงินขวัญถุงคนละโครน ที่ทางคณะเจาภาพเรียกร้องอยากได้
เอ๊า เชิญหยิบค่ะ เสร็จงานก็ช่วยกันเก็บข้าวของให้เข้าที่
"ยศและลาภ หาบไป ไม่ได้แน่
คงเหลือแต่ ต้นทุน บุญกุศล
ทรัพย์สมบัติ ทิ้งไว้ ให้ปวงชน
แม้ร่างตน เขายังเอา ไปเผาไฟ
เมื่อเจ้ามา มีอะไร มาด้วยเจ้า
เจ้าจะเอา แต่สุข สนุกไฉน
เมื่อเจ้ามา มือเปล่าแล้วเจ้า จะเอาอะไร
เจ้าก็ไป มือเปล่า เหมือนเจ้ามา
เจ้าเกิดมา เจ้าก็มา แต่มือเปล่า
ไยมัวเมา เฝ้าหลงโกรธ มีโทษใหญ่
จะโลภมาก จะกอบโกย ไปทำไม
ไม่เห็นใคร เอาไปได้ เมื่อเขาตาย
มาแต่กาย ไปแต่กาย ทั้งชายหญิง
เป็นความจริง คอยเตือนจิต อย่าคิดหลง
เมื่อคิดได้ เป็นอย่างนี้ อย่าพะวง
จิตก็ปลง ลงมักน้อย ไม่ลอยลม"
เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจกันแล้ว ก็ถึงเวลากล่าวคำว่าลาก่อน พร้อมทั้งขอกราบวิงวอน
อำนาจคุณพระพุทธเจ้าทั้งหลาย คุณพระธรรมทั้งปวง คุณพระสงฆ์ทั่วพื้นปฐพี
จงเป็นพลวะ เป็นตบะ เป็นเดชะ เป็นปัจจัยอำนวยอวยชัยให้เพื่อนผองน้องพี่
และบรรดาป้าลุงคุณน้าคุณอาทั้งหลาย ผู้ที่ได้ร่วมกุศลผลบุญในครั้งนี้
และที่ไม่ได้เดินทางมาร่วมบุญนี้ก็ดี หรือผู้ที่กำลังอ่านกระทู้นี้อยู่ก็ดี
จงนิราศทุกข์ นิราศโศก นิราศภัย มีอายุยืนนาน มีผิวพรรณผุดผ่องใส มีความสุขกายสุขใจ
ประกอบการงานสิ่งใดสำเร็จลุล่วงได้ดั่งใจปรารถนา คำว่าไม่มีจงอย่าได้พบพาน
อันความยากจนจงอย่าได้พบเจอ ของจงได้มีศีลธรรมประจำใจอยู่ทุกผู้ทุกคน เทอญฯ สาธุ
Bookmarks