ยาย



ยาย



จำได้ว่าตอนเด็กๆ ฉันมีความสุขมากสิ่งที่ทำให้ชีวิต ทัศนคติที่ดีต่อเพื่อนมนุษย์ และบุคลิกภาพที่แสนอบอุ่น มีจินตนาการ เช่นนี้ได้เพราะฉันมียาย ยายที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับฉัน

บ้านเราตอนนั้นฉันยังเด็กมาก พ่อเป็นทหารเรือไปทำงานไกล แม่เป็นแม่บ้านรับงานเย็บเสื้อมาจากโรงงาน ทุกคืนจะมีเสียงจักรวิ่งตลอด ฉันจะวิ่งเล่นวนเวียนอยู่ในบ้าน แม่ไม่ค่อยมีเวลามาสนใจสิ่งรอบตัวมากนักเพราะต้องเย็บผ้า ชีวิตฉันจึงได้แต่วนเวียนอยู่กับยาย ยายจะหุงข้าว ทำกับข้าวให้กิน คนแก่ที่แข็งแรงว่องไว น่ารัก พอตอนเย็นจำความได้แล้วตั้งแต่เข้าเรียนชั้นประถม พอกลับบ้านตอนเย็นจากโรงเรียน วางกระเป๋าลงแล้วก็ถอดเสื้อผ้านักเรียน อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ยายจะบอกว่าให้ไปกินข้าวได้แล้ว ฉันชอบผัดเผ็ดเนื้อสับ กับเนื้อทอด ยายจะทำให้กินเกือบทุกวัน ฉันก็คลุกข้าวร้อนๆ ด้วยผัดเผ็ดของยาย ตามด้วยเนื้อทอด อย่างนั้นทุกวัน สี่โมงเย็นได้กินแล้ว เสร็จแล้วยายก็จะยื่นเงินให้ไปซื้อขนมกิน แม่ทำงานไปเปิดวิทยุฟังเพลงไป ฉันได้เงินแล้วก็วิ่งไปซื้อขนมกินโดยเร็ว กลับบ้านอีกทีปากมันมาเลย ยายว่าแบบนั้น ให้ไปล้างปากล้างหน้า

ในตอนกลางคืนเป็นเวลาที่มีความสุขของฉันมาก แม่เย็บจักรไป ยายจะพาหลานสองคนของยายนอน ที่ระเบียบหน้าบ้าน ปูผ้าบางให้หลานนอน ยายก็จะนอนด้วยเป็นการนอนที่แสนมีความสุขมาก ยายนอนลง ฉันก็จะค่อยเข้าไปซุกอกยาย อ้อนให้ยายเล่านิทานให้ฟัง เรื่องที่ยายเล่าให้ฟังก็คือเจ้าเงาะนางรจนา พระอภัยมณี อิเหนาบุษบา พระรามนางสีดา เรื่องโปรดของฉันก็คือเจ้าเงาะนางรจนา ฟังไม่จบเสียที ฟังทุกคืน ยายก็เล่าอย่างมีความสุขทุกค่ำคืน ฉันนอนไปก็ตาดูดาวไปด้วย ภายใต้ดวงดาวหน้าบ้าน กลิ่นดอกมะลิก็กรุ่นอบอวลตอนค่ำคืน บางทียายคิดว่าฉันหลับไปแล้วจะลุกขึ้นไปทำธุระของยาย แต่ฉันก็ตื่นขึ้นแล้วก็อ้อนให้ยายเล่าเรื่องต่ออีก จบแล้วถ้าไม่หลับไปก่อนก็จะอ้อนยายให้เล่าเรื่องเดิมๆ อยู่อย่างนั้นเรื่อยไป ไม่มีวันเบื่อ ปากก็จะถามว่า
“ยายจ๋าแล้วเจ้าเงาะนี่เหาะได้ไหมจ้า” ฉันถามไปแล้วตาก็มองดูดาวไปด้วย ยายก็จะบอกว่า
“เหาะได้ซิลูก เจ้าเงาะเหาะได้ ไปไกลเลย” เสียงยายบอก
“เหาะไปบนดาวนั่นไง แล้วก็ค่อยๆไปลงที่เมืองนางรจนา” ยายเล่าต่อไป
ฉันก็มองดาวไป มือก็ชี้ไปที่ดวงดาว ถามยายว่า
“เจ้าเงาะเหาะไปดาวดวงนั้นใช่ไหมจ้ายาย” ยายก็จะตอบว่า คงใช่ แล้วมองดาวตามหลานชี้
บางคืนดาวไม่มี มีแต่ดวงจันทร์ส่องแสงเต็มฟ้า ยายก็จะเล่าตำนานบนดวงจันทร์มีตากับยายอยู่สองคน คั่วถั่วงา อยู่บนดวงจันทร์ ฉันก็จะอ้อนถามเรื่องที่เกี่ยวกับดวงจันทร์

แต่นิทานของยายไม่จบเสียทีเพราะฉันจะหลับไปก่อน ตื่นขึ้นมาตอนเช้าฉันมานอนอยู่บนบ้านแล้ว ยายจะมาปลุกให้ไปล้างหน้าแปรงฟัน อาบน้ำ แต่งตัวไปโรงเรียน เสร็จแล้วก็ให้กินข้าวเช้า ซึ่งไม่มีอะไรก็อาหารโปรดฉันนั่นแหละเพราะคนอื่นเขาไม่กินแบบนี้ ยายอุ่นไว้ ฉันก็จะคลุกข้าวร้อนๆ กินอย่างอร่อย ฉันก็จะเข้าไปข้างแม่ขอสตางค์ไปโรงเรียน แม่ก็จะหยิบเงินจากลิ้นชักจักรให้ ยายก็ตามมาส่งหน้าบ้าน แอบเอาสตางค์ของยายให้ฉันอีก ฉันเลยมีรายได้สองทาง ตอนวัยรุ่นโตแล้วฉันก็ยังนอนอุ่นกับยายทุกคืน กระแซะยายให้เล่านิทานของยายอยู่แบบนั้น ไม่จบเสียที และคงไม่จบด้วยเพราะฉันไม่ยอมให้จบ เสาร์อาทิตย์ก็ไปรับจ้างขายของที่ตลาด ได้เงินมาก็เอามาให้ยายเก็บไว้ แต่ยายเก็บไว้ยายก็เอาเงินอันนั้นให้ฉันตลอด ฉันได้เงินจากยายก็จะวิ่งไปร้านหนังสือซื้อการ์ตูนอ่าน บางทีก็เป็นหนังสือนวนิยาย หลายเรื่อง เอามาเล่าให้ยายฟังคืนบ้าง ยายไม่ชอบนิยายสมัยใหม่ ยายจะชอบเจ้าเงาะนางรจนาของยาย แต่ยายก็ถามไปตามเรื่อง

มาวันนี้ยายไปอยู่บนสวรรค์แล้ว ยายคือบุคคลที่แสนประเสริฐ ห่วงใยฉันมากยามฉันทุกข์ใจแสนสาหัสเมื่อโตขึ้นมาก ได้เห็นยายได้นอนกอดยายยามค่ำคืน ได้ฟังวรรณคดีของยาย ความทุกข์ทั้งหลายมันหายไปหมด กี่ครั้งที่หลานน้อยคนนี้ของยายโบยบินไปแล้วปีกหักกลับมาซุกอกยายสิ่งที่ได้รับก็คือความอบอุ่น คุ้มภัย เป็นปราการที่เข้มแข็ง ยายร้องไห้เมื่อฉันร้องไห้ ยายจะยิ้มเมื่อฉันยิ้ม ยายจะเฝ้ามองดูฉันอย่างไม่เปลี่ยนความรู้สึกว่าฉันเป็นหลานตัวน้อยของยายอยู่ตลอดเวลา




ยาย



[fm]http://www.hotlinkfiles.com/files/2155368_jdor7/TherruroupluowNoo[/fm]