นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวว่า ระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กลางเพื่อการสื่อสารในภาครัฐ หรือ mail.go.th จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้าราชการและพนักงานของรัฐตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลข่าวสารภาครัฐ ลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนและการดำเนินงาน โดยเน้นการใช้ทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้ข้าราชการและพนักงานของรัฐทั้งหมด ใช้บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นระบบที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย และดำเนินงานให้บริการโดยหน่วยงานภาครัฐ

“การเปิดใช้งานจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กลางเพื่อการสื่อสารภาครัฐ จะทำให้หน่วยงานรัฐมีระบบจดหมายสำหรับใช้งานร่วมกัน มีความมั่นคงปลอดภัยในการรับส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของทางราชการ รวมทั้งผู้ใช้งานภาครัฐทั้งข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วในการใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์กลางในการสื่อสาร” ปลัดกระทรวงไอซีที กล่าว

นายสือ กล่าวต่อว่า กระทรวงได้มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร.เป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบพัฒนาระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กลางฯ ตามมติคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.50 ที่ให้ข้าราชการยุติการใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ฟรีของเอกชน โดยเฉพาะของต่างประเทศภายใน 1 ปี หากราชการคนใดฝ่าฝืนไม่ใช้อีเมลกลางฯส่งเอกสารทางราชการ ทางกระทรวงฯ ก็ไม่สามารถบังคับได้ เนื่องจากยังไม่มีข้อกฎหมายในการเอาผิดกับข้าราชการที่ไม่ใช้ แต่ข้าราชการอาจจะมีความผิดทางวินัยของหน่วยงานนั้นๆ โทษฐานที่ไม่ทำตามมติ ครม.

“กระทรวงฯ ได้ร่วมกับผู้บริหาร 3 ราย ได้แก่ บริษัทกสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ ทีโอที และสำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ หรือ สบทร ดำเนินการพัฒนาระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวขึ้น เพื่อให้บริการกับหน่วยงานภาครัฐที่แจ้งความประสงค์ขอใช้ระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กลางไว้ โดยในปีแรกกระทรวงได้จัดจัดสรรงบประมาณ มาดูแลในเรื่องดังกล่าว 25 ล้านบาท เพื่อให้บริการผู้ใช้บริการได้จำนวน 100,000 ราย และในปีที่ 2 หรือในปี 2553 กระทรวงฯจะได้รับงบประมาณ 75 ล้านบาท เพื่อให้บริการได้จำนวน 300,000 ราย สำหรับค่าใช้จ่ายอีเมลต่อคนที่ทางกระทรวงจะต้องเสียคือ 250 บาทต่อปี ”ปลัดกระทรวงฯไอซีที กล่าว

นายสือ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีมีหน่วยงานที่แจ้งความประสงค์ขอใช้งานอีเมลกลางภาครัฐจำนวน 128 หน่วยงาน รวมจำนวนผู้ใช้ทั้งหมด 100,380 รายชื่อ หรือใช้งบประมาณทั้งสิ้น 23 ล้านบาท เหลืออีก 2 ล้านบาท คาดว่าจะให้บริการได้อีกประมาณ 8,000 รายชื่อ อย่างไรก็ตามขณะนี้แต่ละกระทรวงมีการยื่นความต้องการใช้งานอีเมลดังกล่าวมาแล้วจำนวน 19 กระทรวง จาก 20 กระทรวง โดยกระทรวงที่ไม่ได้ยื่นความต้องการในการใช้ได้แก่กระทรวงการต่างประเทศ

อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณะสุขมีการยื่นความจำนงที่จะใช้บริการอีกจำนวน 20,000 รายชื่อ

นสพ.ไทยรัฐ