นพ. พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีเครื่องสำอางที่กำลังฮิตในหมู่วัยรุ่นไทยคือ เจลสีที่วัยรุ่นเรียกว่า ทินท์ (tint) ทาที่ริมฝีปาก เพื่อให้ปากมีสีอมชมพูระเรื่อ หรือออกโทนส้มอ่อน ให้ความรู้สึกว่าเป็นคนมีสุขภาพดี มีเลือดฝาดดี มีความสวยเป็นธรรมชาติ และทาลิปกลอสทับเพิ่มความมันวาว หรือเพิ่มความเซ็กซี่ จึงมีผู้ผลิตออกมาจำหน่ายหลากหลายยี่ห้อ วางขายตั้งแต่ห้างร้านราคาแพง ลงไปถึงตามตลาดนัดราคาถูก ซึ่งน่าเป็นห่วงมาก เพราะการทาทินท์ จะต้องป้ายเข้าไปในริมฝีปากทั้งด้านบนและล่าง ซึ่งเป็นเยื่อบุที่บอบบาง หากเป็นสีที่ไม่ใช่สีที่ใช้ผสมอาหาร เป็นสีต้องห้ามอันตราย หรือสีไม่ได้มาตรฐาน สารที่อยู่ในสีก็จะซึมเข้าไปตามเยื่อบุปาก และถูกกลืนกินเข้าไปในร่างกายได้ง่าย ทำให้มีความเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง

"จากผลทดสอบทางห้องปฏิบัติการพบว่า สามารถก่อมะเร็งในสัตว์ทดลองได้ ในรอบ 3 ปี อย.ได้ทำการตรวจสอบเครื่องสำอางประเภทลิปสติค โดยเน้นในแหล่งชุมชนที่มีการจำหน่ายสินค้าราคาถูกและในจังหวัดที่ติดเขตแดน กับประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน 693 ตัวอย่าง พบสีห้ามใช้ 164 ตัวอย่าง โดยลิปสติคที่ฉลากไม่ครบถ้วน หรือเป็นภาษาต่างประเทศ พบสีห้ามใช้ถึงร้อยละ 39 ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2535 ดังนั้น วัยรุ่นที่คิดจะใช้เครื่องสำอางจึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ ปลอดภัย โดยดูจากบรรจุภัณฑ์ที่สะอาด ปิดผนึกแน่นหนา ที่สำคัญต้องมีฉลากระบุส่วนผสมสำคัญ แหล่งผลิต ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ข้อแนะนำการใช้อย่างชัดเจน เครื่องสำอางที่แบ่งบรรจุ ไม่มีฉลาก ไม่ควรซื้อมาใช้อย่างเด็ดขาด" นพ.พิพัฒน์กล่าว

ด้าน นพ.จิโรจ สินธวานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า ลิปสติคเป็นเครื่องสำอางที่ใช้แต่งริมฝีปากให้ความชุ่มชื้น ทำให้ริมฝีปากสวยงามและปกปิดความบกพร่องของริมฝีปาก หากลิปสติคมีส่วนผสมของสารต้องห้าม เช่น สารนิเกิล โลหะ หรือสารตะกั่ว ซึ่งใช้ในภาคอุตสาหกรรมจะก่อให้เกิดอาการระคายเคือง หรือเป็นพิษอย่างรุนแรง และพิษดูดซึมเข้าระบบทางเดินอาหาร ทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามัว หรือทำให้ริมฝีปากปวดแสบปวดร้อน คัน เห่อแดง บวม หรือลอกเป็นขุย ลิปสติคบางชนิดเมื่อทำปฏิกิริยากับแสงแดด ทำให้เกิดผื่นผิวหนังอักเสบ

"แม้จะเป็นลิปสติคที่ได้มาตรฐานทั่วไป แต่การใช้ลิปสติคทาบนริมฝีปาก ซึ่งเป็นเนื้อเยื่ออ่อนวันละหลายครั้ง และสัมผัสริมฝีปากเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้เกิดการแพ้ได้ง่ายกว่าผิวหนังบริเวณอื่น สาเหตุของการแพ้มาจากน้ำหอม หรือสารบางชนิดที่เป็นส่วนผสมในลิปสติค ระยะในการแพ้จะอยู่ในช่วง 7-10 วัน ที่ผ่านมา พบว่าสีลิปสติคที่ให้สีสด เช่น ส้ม ชมพู แดง ทำให้เกิดการแพ้มากที่สุด แต่การแพ้นั้นไม่ได้เกิดทุกคน แต่ละปีจะมีคนแพ้ลิปสติค ปากเจ่อไปพบแพทย์ที่สถาบันโรคผิวหนัง ประมาณ 100 ราย" นพ.จิโรจกล่าว


ที่มา นสพ.มติชน