ม.แม่โจ้ปลื้ม..ผ้าอ้อมนาโนออกสู่ตลาด



ม.แม่โจ้ปลื้ม..ผ้าอ้อมนาโนออกสู่ตลาด




นักวิจัยเคมี ม.แม่โจ้ โชว์ผลงานวิจัย "ผ้าอ้อมนาโน” เอกชนสนใจซื้อสิทธิบัตรผลิตเชิงพาณิชย์ เผยเคลือบด้วยสารกันน้ำ ผ้าไม่ทะลุ ใช้ทนนาน สุดคุ้
เนื่องจากสิ่งทอของประเทศไทยที่มีการผลิตวัสดุดังกล่าวออกมามากจนล้นตลาด การศึกษาวิจัยจึงมุ่งเน้นเพิ่มสมบัติสิ่งทอให้มีมูลค่า สามารถแข่งขันได้ในตลาดโดยเฉพาะกับจีนที่เป็นคู่แข่งสำคัญ ส่วนการวิจัยที่เน้นผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมเพราะเห็นว่า พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกจะใช้ผ้าอ้อมแบบซับน้ำ แต่มีปัญหาเมื่อเด็กปัสาวะออกมามากจะทะลุออกมา จึงเริ่มเก็บตัวอย่างการปัสาวะของเด็กว่าใน 1 ชั่วโมงมีปริมาณกี่มิลลิลิตร
ขั้นตอนการวิจัยผ้าอ้อมนาโน เน้นเรื่องความทนทาน ดูดซับน้ำได้ โดยวิจัยเรื่องสารกันน้ำที่ยึดติดกับผิวผ้าอ้อม เป็นเทคโลยีการเคลือบผ้าฝ้ายด้วยสารกันน้ำ ฟลูออโรพอลิเมอร์ยึดกับผ้าอ้อม มีคุณสมบัติน้ำปัสาวะไม่ทะลุออกมาไม่เลอะเทอะ แต่ผ้าอ้อมยังดูดซับปัสาวะได้ดี นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีการเชื่อมโยงโมเลกุลเซลลูโลสต่อกับโมเลกุลฟรูออโรพอลิเมอร์ ให้ผ้าอ้อมมีคุณสมบัติทนทานต่อการซัก
จากการทดลองโดยนำผ้าอ้อมนาโนไปซักในเครื่องซักผ้าประมาณ 30 ครั้ง สารกันน้ำจะหลุดไป 50% ส่วนการซักด้วยมือสารกันน้ำจะหลุดไปแต่ยากกว่าและช้ากว่า จึงมีอายุใช้งานยาวนานกว่า การใช้ผ้าอ้อมนาโนช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม แม้มีราคาแพงกว่าท้องตลาดโดยต้นทุนการผลิตเฉลี่ยตัวละ 20 - 30 บาท เมื่อวางจำหน่ายตัวละ 100 บาท แต่สามารถใช้ผ้าอ้อมนาโนได้จำนวนครั้งนานกว่าผ้าอ้อมปกติจนกว่าเด็กจะโตขึ้นจึงเปลี่ยนขนาดผ้าอ้อมที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งเอกชนที่ซื้อลิขสิทธิ์งานวิจัยผ้าอ้อมนาโน ผลิตออกมา 2 ขนาด คือ ไซส์ S และ XL



ม.แม่โจ้ปลื้ม..ผ้าอ้อมนาโนออกสู่ตลาด




ข้อมูล หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับ วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2552