วันที่ 24 เมรีได้ไปขึ้นบ้านใหม่สาวจอยเพี้ยนมา ขากลับเมรีได้มานอนพัก อยู่บ้านเพี้ยนสาวกาสินอีกคืนหนึ่งพร้อมทั้ง สาวอ้อยหวานและบ่าวไทบ้านไผ เพิ่นว่าม่ขี้เหล็ก อยู่ในตู้เย็นพี่น้องผักขี้เหล็กกะมาไกลแท้เด มาแต่โคราชมีคนเอามาฝากอิอิ เมรีกะจัดการเลย แต่ว่าเฮ็ดแล้วๆๆๆ กะกินบ่อิ่ม ปาดได๋ดอกค๊า เมรีฝ่าวกลับกรุงเทพเพราะว่า ย้านบ่ทันรถอิอิ กินแบบๆๆฝ่าวๆๆๆ แซบอยู่จักน่อยเพราะว่ามันบ่ขมปานได๋อิอิ
เริ่มแกง
เสร็จแล้ว
ตำแจ่วพริกย่างกระเทียมย่าง
แกงผักขี้เหล็กกับตำแจ่ว แล้วแล้วค๊า
พร้อมกัน ค๊า
วีธีทำ
กะง่ายๆๆๆ ผักขี้เหล็กต้มจัก 2 น้ำพ้อ เด๋ยวบ่แซบ ถ้าบ่ขม(1-2ถ้วยประมาณคนกินค๊า)
ตั้งไฟน้ำยานาง พอน้ำเดือด ตำตะไคร้พริมข้าวเบียถ้ามี ผักขี้เหล็กต้มสุกแล้ว ลง
ถ้าอยากให้แซบ ตุบหัวหอมแดง ลงพร้อม เพิ่มความหอม ผักอีตู(ใบแมงลัก) ดอกหอม
ผักซี ขนลงใช้โลดจ้า ผักหลายๆๆ กะแซบ อิอิ
ปรุงรสด้วย น้ำปลาร้า,น้ำปลา,ผงชูรสแล้วแต่มัก,(ถ้าย้านบ่เผ็ด หักพริกลงใส่อีกกะด่ายค๊า)
สรรพคุณและส่วนที่นำมาใช้เป็นยา
ใบ รสขม ถ่ายพรรดึก ถ่ายกระษัย ถ่ายพิษไข้ พิษเสมหะ ขับปัสสาวะแก้ระดูขาว แก้นิ่ว ตำพอกแก้เหน็บชา แก้บวม บำรุงโลหิตดับพิษโลหิต ดองสุราดื่มก่อนนอน แก้นอนไม่หลับ
ใบอ่อน, ดอกตูมและแก่น - มีสารกลุ่มแอนทราควิโนนหลายชนิด จึงมีฤทธิ์เป็นยาระบาย ใช้ใบอ่อนครั้งละ 2-3 กำมือ ต้มกับน้ำ 1-1.5 ถ้วย เติมเกลือเล็กน้อย ดื่มก่อนอาหารเช้าครั้งเดียว นอกจากนี้ยังพบสารซึ่งมีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ทำให้นอนหลับ โดยใช้วิธีนำมาดองเหล้า ดื่มก่อนนอนดอก รสขม แก้โรคประสาท แก้นอนไม่หลับ แก้หืด แก้รังแค เป็นยาระบายฝัก รสขม แก้ไข้พิษเพื่อปิตตะ ไข้เพื่อเสมหะเปลือกฝัก รสขมเฝื่อน แก้เส้นเอ็นตึง แก้กระษัยเปลือกต้น รสขม แก้กระษัย แก้ริดสีดวงทวารกระพี้ รสขมเฝื่อน ถอนพิษไข้ แก้ไข้เพื่อดี แก้กระษัยเส้นเอ็นแก่น รสขมเฝื่อน ถ่ายพิษถ่ายเส้น ถ่ายม้าม แก้กระษัย แก้เหน็บชาแก้ไข้เพื่อกระษัย ขับโลหิต แก้เตโชธาตุพิการ ทำให้ตัวเย็น แก้แสบตา
ที่สำคัญ แก้กามโรค หนองใส
ราก รสขม แก้ไข้ แก้ไข้กลับ ไข้ช้ำ รักษาแผลกามโรค
Bookmarks