สุดยอดอาหาร...สร้างลูกให้เป็นอัจฉริยะ
คุณพ่อ คุณแม่หลายท่านทั้งมือใหม่และเก่าล้วนเคยประสบปัญหาเรื่องลูกกินยากหรือเลือกกิน มักไม่ยอมกินผักและอาหารที่แม่เห็นว่ามีประโยชน์ เพราะเด็กๆมักจะชอบกินขนม ชอบอาหารอร่อยเหมือนผู้ใหญ่นั่นแหละ แต่ผู้ใหญ่รู้จักหักห้ามใจ ส่วนเด็กถ้าอยากกินอะไรเขาก็จะกินแบบนั้น การปลูกฝังนิสัยการกินที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ผู้ใหญ่หลายท่านอาจบอกว่า เขายังเด็ก ให้กินไปเถอะ แต่การจะให้เด็กกินอาหารที่มีประโยชน์ร้อยเปอร์เซ็นต์คงเป็นการฝืนธรรมชาติ อาจยอมให้เด็กกินขนมบ้างก็ได้ เพียงแต่ไม่ควรบ่อยและมากเกินไป ควรมีการตั้งกติกาการกินให้เด็กๆได้ฝึกเลือกกินอาหารที่มีประโยขน์กับสมองและร่างกายมากกว่าอาหารขยะทั้งหลาย ต่อไปนี้จะกล่าวถึงสุดยอดอาหารที่มีประโยชน์ทางด้านร่างกาย และโดยเฉพาะพัฒนาการด้านสมอง ซึ่งเป็นอาหารปรกติในชีวิตประจำวันที่เราเห็นตามธรรมชาติอยู่แล้ว แถมอาหารบางตัวยังราคาถูก หาง่าย ไม่ต้องไปซื้ออาหารราคาแพงๆอีกด้วย
สุดยอดคาร์โบไฮเดรต
คาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงาน ให้น้ำตาลไปเลี้ยงสมอง สุดยอดคาร์โบไฮเดรตต้องเป็นชนิดที่ค่อยๆปล่อยน้ำตาลไปสมองปริมาณคงที่ ไม่ใช่เพิ่มหรือลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะอาจส่งผลต่อการทำงานของสมอง ความประพฤติและการเรียนรู้ของเด็กก็จะถูกรบกวนไปด้วย ข้าวกล้อง เป็นสุดยอดคาร์โบไฮเดรต อุดมไปด้วยวิตามินบีต่างๆโดยเฉพาะบี 1 ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวรับข้อมูลของสมอง ดังนั้น ถ้าร่างกายได้รับวิตามินบีไม่เพียงพอจะทำให้คลื่นสมองผิดปรกติ ความสามารถในการจำ การเรียนรู้ และสมาธิจะลดลง ถ้าเด็กๆไม่ชอบกินข้าว อาจลองเปลี่ยนเป็นเส้นต่างๆ หรือขนมปังที่ทำจากแป้งไม่ขัดสี หรืออาจทำเป็นข้าวห่อสาหร่าย ข้าวโอ๊ต เป็นสุดยอดคาร์โบไฮเดรตที่มีปริมาณเส้นใยสูง อาจนำมาผสมกับนมทำโจ๊กข้าวโอ๊ตเป็นอาหารเช้า หรือผสมเนื้อบด ปลาบด ไข่ ปั้นเป็นก้อนทอดกินเป็นของว่างแสนอร่อยได้ ถั่วเมล็ดแห้ง เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วขาว อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต เส้นใยอาหาร โฟเลท และที่อยากเน้นเลยคือ มีแมกนีเซียมสูง เพราะประกอบด้วยเอนไซม์ที่ช่วยควบคุมการทำงานของระบบเผาผลาญ ผลิตโปรตีน และการหดตัวของกล้ามเนื้อ ส่วนใหญ่เราจะนำถั่วพวกนี้มาเป็นของหวาน เต้าทึง ถั่วต้มน้ำตาล และใส่ในน้ำเต้าหู้ เวลาเลือกซื้อควรดูให้ดีว่าไม่เป็นถั่วเก่า ไม่มีเชื้อรา และไม่แตก
สุดยอดผลไม้
เด็กหลายคนที่ไม่ยอมกินผัก แต่กินผลไม้บ้างก็ยังดีกว่าที่เขาไม่กินอะไรเลย เพราะผลไม้กับผักหลายชนิดมีสารอาหารและวิตามินคล้ายๆกัน ทั้งวิตามินเอ วิตามินซี โฟเลต โพแทสเซียม เส้นใยอาหาร และสารพฤกษเคมี การฝึกให้ลูกกินผลไม้แทนขนมหวานหลังมื้ออาหารเป็นวิธีที่ดีที่ช่วยป้องกันการกินของหวานอื่นๆ จะช่วยให้เด็กๆรู้จักความหวานตามธรรมชาติ และยังได้วิตามินซีจากผลไม้ ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กที่กินเข้าไปในมื้อหลักได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้มีการนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ฝรั่ง สุดยอดผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง วิตามินซีเพียง 10 มิลลิกรัมก็สามารถป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้แล้ว ฝรั่ง 1 ผลมีวิตามินซี 145 มิลลิกรัม ประโยชน์ของวิตามินซียังมีอีกมาก เช่น ช่วยทำให้ผนังเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดฝอยแข็งแรง ช่วยสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อต่างๆเข้าด้วยกัน และเมื่อมีบาดแผลจะช่วยให้สมานแผลเร็วขึ้น ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงาน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ผลไม้อื่นๆที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ มะละกอสุก สตรอว์เบอร์รี่ ลิ้นจี่ ส้มเขียวหวาน ส้มเช้ง กล้วย เป็นผลไม้ยอดนิยม และเป็นผลไม้ชนิดแรกที่เด็กเพิ่งเริ่มกินอาหารกิน กล้วยสุกช่วยให้ขับถ่ายง่ายและมีแร่ธาตุที่สำคัญคือโพแทสเซียม ซึ่งเป็นตัวส่งสัญญาณจากสมองไปกล้ามเนื้อหัวใจ เพื่อให้กล้ามเนื้อหดและคลายตัว ร่างกายเด็กต้องการโพแทสเซียมวันละประมาณ 4,500 มิลลิกรัม กล้วยหอม 1 ผลมีโพแทสเซียม 420 มิลลิกรัม เด็กที่วิ่งเล่นหรือออกกำลังกายมาก โพแทสเซียมจะถูบขับออกทางเหงื่อและปัสสาวะ จะส่งผลให้เกิดตะคริว เบื่ออาหาร เหนื่อยง่าย อ่อนแรง และคลื่นไส้ นอกจากนี้กล้วยสุกยังมีอินนูลินซึ่งเป็นใยอาหารช่วยให้จุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้เล็กเจริญได้ดี ส่งเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น การขับถ่ายง่ายขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ปีที่ 10 ฉบับที่ 2469 ประจำวัน พุธ ที่ 28 มกราคม 2009
[fm]http://www.hotlinkfiles.com/files/1744189_rgsvy/raiouikhoiwrukNuMitor.swf[/fm]
Bookmarks