กินผักเพิ่มพลังชีวิต





กินผักเพิ่มพลังชีวิต




ถึงเวลากินผักกันอีกครั้ง... นะคะ

ถ้างดกิน .เนื้อสัตว์เสียบ้างจะได้อารมณ์ดี เรื่องนี้ชาวผักรู้ นักมานุษยวิทยาบางคนก็บอกว่า มนุษย์เราเป็นคนกินพืช น่าจะเป็นชาวมังสวิรัติ เพราะมีฟันและรูปร่างเหมาะกับกินพืช ไม่ใช่สัตว์ป่ามีเขี้ยวเล็บหรือฟันแหลมคม แต่เป็นไงมาไง...มนุษย์กลับเป็นคนกินสัตว์ไปเสียนี่

มนุษย์ต่างจากสัตว์ก็ตรงมีสมองล้ำเลิศแถมมาให้ด้วย มีสองมือ สองขา ที่หยิบจับอาวุธล่าสัตว์และอุปกรณ์ฉีกเนื้อเอาไว้กินอย่างสบาย แต่ถึงแม้มนุษย์จะเป็นคนกินพืช แต่จากหลักฐานทางโบราณคดีก็พบว่า มนุษย์ยุคถ้ำ ยุคหิน กินเนื้อสัตว์มานานแล้ว สงสัยกินพืชแล้วไม่อยู่ท้อง ไม่มีเรี่ยวแรงพอจะต่อสู้กับสัตว์ป่าและภัยธรรมชาติ มนุษย์จึงประดิษฐ์หอกแหลมและอาวุธเพื่อล่าสัตว์เป็นอาหาร

เมื่อเวลาผ่านไป จากมนุษย์อยู่ถ้ำเข้าสู่ยุคหินใหม่หรือ Neolithic มนุษย์หลังยุคหินนี่เองที่เริ่มสังคมเกษตร เลี้ยงสัตว์ ปลูกพืช มีชุมชนอาศัยอยู่แถบลุ่มแม่น้ำ ที่มีผืนดินและน้ำสำหรับทำการเกษตร โดยค้นพบหลักฐานซากพืชซากสัตว์โบราณจากการตรวจสอบคาร์บอน-14 ที่สามารถบอกอายุได้ว่ามนุษย์เริ่มรู้จักเลี้ยงแกะก็เมื่อ 8,500 ปีก่อนศักราช หรือก่อนยุคอาณาจักรโรมัน

หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุด พบในเขตภาคเหนือของประเทศอิรัก หรือดินแดนเมโสโปเตเมีย คนแถวนั้นยุคโน้น รู้จักเลี้ยงแพะ แกะ ปลูกธัญพืช อีก 500 ปีจากนั้นก็พบหลักฐานการเลี้ยงฝูงแพะบริเวณตอนกลางของประเทศอีหร่านในปัจจุบัน ที่น่าประหลาดใจคือ มีหลักฐานพบว่า มีฟาร์มหมูในแถบประเทศไทยเมื่อ 8,000 ปีก่อนยุคศักราช

ดังนั้น เนื้อสัตว์จำพวกแกะ แพะ วัว จนถึงม้า คงเป็นอาหารของมนุษย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์จำพวกนมเนยด้วย อย่างไรก็ดี ธัญพืชประเภทถั่วและซีรีล ก็ปลูกกันเป็นไร่มาตั้งแต่ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล พบหลักฐานในประเทศอีหร่าน อิรัก ซีเรีย ตุรกี จอร์แดน และอิสราเอล จากนั้นก็มีการปลูกข้าวสาลี ข้าวบาร์เล่ย์ ถั่วชิคพี ถั่วฟาบา ส่วนทื่เกาะครีท ประเทศกรีซ เป็นต้นกำเนิดของสวนมะกอก การเกษตรเจริญก้าวหน้าจากแถบลุ่มแม่น้ำไทกริส-ยูเฟรติส เข้าสู่ยุคอียิปต์โบราณ ยุคโรมัน อาณาจักรกรีก แล้วแผ่ไปยังตะวันออกกลาง ขึ้นเหนือไปยุโรป อังกฤษและสแกนดิเนเวีย ราว ๆ 4,000 - 2,000 ปีก่อนคริสตกาล

ในขณะเดียวกัน ทวีปอเมริกา ชนพื้นเมืองและชาวเปรูก็รู้จักปลูกข้าวโพดกินกันแล้ว ชาวจีนในลุ่มแม่น้ำแยงซีปลูกข้าวเป็น น่าแปลกอีกที่ว่า มีหลักฐานพบว่า ในเอเซียตะวันตกเฉียงใต้มีต้นแอปเปิล สวนส้มอาจจะเริ่มที่ประเทศอินเดีย และแถบแม่น้ำไทกริส

อาณาจักรไอยคุปต์เติบโตพร้อมกับผลผลิตทางการเกษตร ชาวอียิปต์ใช้พืชกว่า 500 ชนิด ทั้งประเภทปลูกเองและพืชป่าใช้ทำยาและทำไวน์ ต้นฝ้ายและลินินเชื่อว่าปลูกที่อียิปต์ก่อน ส่วนชาวจีนปลูกต้นรูบาร์บไว้ทำยา ต้นเฮมพ์หรือพืชประเภทกัญชาปลูกในเมืองจีนเช่นกัน

นักปราชญ์ชาวกรีกฮิปโปเครตีส เขียนตำรับยารักษาโรค 87 วิธี ด้วยสมุนไพร ฮ่องเต้แห่งประเทศจีน มีสวนดอกไม้ สวนสมุนไพร มาตั้ง 100 ปีก่อนคริสตศักราช มนุษย์ฉลาดที่ตรงรู้จักใช้พืชเป็นทั้งอาหารและยา แต่คนเราไม่ว่าชอบกินผักหรือกินเนื้อ ต้องอาศัยอาหารจากพืชเป็นรากฐาน เพราะสัตว์และคนสร้างอาหารเองไม่ได้ แต่พืชทำได้ นี่คือความมหัศจรรย์ของพืช

เสียดายที่เมื่อเวลาผ่านไป มนุษย์อิ่มเอมกับอาหารเนื้อสัตว์อันโอชะ แล้วชีวิตก็รีบเร่งเสียจนกินแต่อาหารขยะไร้เส้นใยจากพืชผัก สังเกตดูเถิดว่า ในแต่ละวันเรากินผักสักกี่กำ กินผลไม้กี่คำ แต่ในแต่ละคำนั้นล้วนเป็นเนื้อสัตว์บ้าง อาหารตัดแต่ง อาหารปรุงรส ที่นอกจากไม่เกิดประโยชน์แล้วยังย้อนมาทำร้ายเราในอนาคตอีกด้วย

เหตุนี้เอง เจ้ากรมหรือกระทรวงที่เกี่ยวกับสุขภาพและโภชนาการในทุกประเทศ มีนโยบายรณรงค์ให้คนกินพืชมากกว่ากินเนื้อสัตว์ ต่อให้เป็นสังคมคนกินเนื้อนมไข่ ยังไงก็ต้องกินผัก ชาวตะวันตกที่ยังชีพอยู่ด้วยน้ำนมวัว ชีส เนื้อสัตว์ ก็ยังต้องกินผัก ในที่สุดอาหารผักก็เป็นซูเปอร์ฟู้ดของคนทุกชนชาติ

ทำไมต้องกินผัก เพราะประโยชน์จาก สารสี ในผักและผลไม้ คือวิตามินแร่ธาตุ ให้คุณค่าแก่ร่างกายมากกว่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์ คนกินผักอย่างเดียวมีแนวโน้มร่างกายแข็งแรงกว่าคนกินเนื้ออย่างเดียว อย่าเพิ่งปฏิเสธว่าใครจะกินแต่ผักหรือเนื้ออย่างเดียว หากสถิติที่เพิ่มขึ้นของ ชาวมังสวิรัติ ทำให้รู้ว่า คนเริ่มนิยมกินผักอย่างเดียวหรือเป็นชาวมังสวิรัติเพิ่มขึ้นทุกปีในทุกประเทศ

ชาวมังสวิรัติบอกว่า ผักผลไม้สดเป็นอาหารที่มี พลังชีวิต สูง ชาวผักบางกลุ่มต่อต้านการกินเนื้อสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่ บ้างบอกว่า สาเหตุของมะเร็งและโรคร้ายก็เพราะกินเนื้อสัตว์ ก่อนที่สัตว์จะถูกฆ่ามันจะหลั่งสารแห่งความกลัว (หรืออาจจะโกรธแค้น) เมื่อเรากินเนื้อมันเราก็รับแต่สารแห่งความโกรธขึ้ง มิน่าเล่า...มนุษย์ทุกวันนี้จึงมีจิตใจดั่งเดรัจฉาน กินเนื้อสัตว์หลั่งสารพิษหรือเลี้ยงด้วยฮอร์โมนผิดวิธี จึงมีจิตใจโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ มีแต่ร่างกายเท่านั้นที่แสดงว่าเป็น "มนุษย์"

ชาวผักรณรงค์ให้กินผักเพราะเชื่อว่า ทุกสรรพสิ่งบนโลก อาศัยอยู่ได้ด้วยพลังจากดวงอาทิตย์ พลังที่สร้างชีวิตให้ความสดชื่นแจ่มใส พลังเหล่านี้มีในพืชสีเขียว ผัก ผลไม้ ถั่วเปลือกแข็ง ที่สามารถเก็บกักเอาพลังไว้ได้

เมื่อเรากินผักผลไม้ เราก็รับพลังนั้นเอาไว้ โดยเฉพาะผักที่เพิ่งเด็ดจากต้น ผลไม้เก็บสดๆ กินแล้วเราจะสดใส ร่าเริง แข็งแรง มีอายุยืนนาน
ในทางโภชนาการ ผักสดผลไม้สดมีเส้นใยมาก เส้นใยเหล่านี้จะไม่ถูกย่อยสลายในลำไส้เล็ก แต่สามารถปล่อยสารอาหารที่มีประโยชน์แก่ร่างกายออกมา อีกทั้งมีคุณสมบัติดูดซับสารพิษต่างๆ แล้วขับถ่ายออกไป เมื่อใดก็ตามที่กินอาหารมีเส้นใยน้อย ร่างกายจะเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ เช่น มะเร็งลำไส้ ไส้ติ่งอักเสบ เบาหวาน เส้นเลือดแดงแข็งตัว ฯลฯ

การรณรงค์ให้กินผักผลไม้สดก็มาจากสาเหตุใหญ่อีกอย่างคือ ภัยจาก มะเร็ง ทุกวันนี้สถิติโรคมะเร็งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในเมืองไทยมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่ง และสำรวจพบว่า หนึ่งในสามของคนที่เป็นมะเร็ง มีสาเหตุจากอาหาร ทุกวันนี้หลายหน่วยงานรณรงค์คำขวัญว่า "ผักผลไม้ต้านมะเร็ง" และชวนกินพืชที่แทบจะมีครบทุกสีและเกิดจากธรรมชาติ สารสีในพืชคือสารต้านมะเร็ง แล้วเมื่อกินพืชก็ควรกินให้หลากหลาย ให้สารสีแดง สีส้ม สีเหลือง สีม่วง เขียวและขาว เป็นสารต้านอนุมูลอิสระคือมะเร็งและโรคร้ายอื่นๆ


ด้วยเหตุผลนี้เราควรบำรุงสุขภาพของเราด้วยกันกินผักกัน เราเริ่มตั้งแต่วันนี้ลยนะคะ เพื่อสุขภาพของเราเองค่ะ





กินผักเพิ่มพลังชีวิต



[radio]http://www.freewebs.com/mummy001/HuknongNannan%20Saomad[/radio]