เป็นการปัดฝุ่นภาพเก่าๆ เรื่องราวเก่าๆ ที่ผ่านไปแล้วนำมาเล่าใหม่
เพราะยังรู้สึกประทับใจทุกครั้งที่หวนรำลึกและคึดฮอด ขอเล่าเลยเนาะ
กาลครั้งหนึ่งโดนเติบมาแล้ว ขอย้อนเวลากลับไปเมื่อวันที่ 2008-07-21
รายงานสดจากท้องถนนมุ่งสู่ป่าทางตอนใต้ที่ประเทศสวีเดน
เพื่อไปออกดูสิ่งแวดล้อม ทุ่งข้าวของฝรั่ง
แต่จริงๆ ตั้งใจว่าจะไปแอบดูที่ป่าว่ามันมาหรือยัง มันในที่นี่คือเห็ดค่ะ
และนี่คือสิ่งที่ติดมือได้มาจากป่าค่ะ
ดอกสน เห็นมันสวยดีเลยเก็บมากะจะพ่นสีให้หล่อนสวยๆ
และวางประดับบนโต๊ะอาหาร พุ่นเด๊ะ...เป็นโต๊ะพิเศษ
จริงๆตั้งใจไปหาเห็ด แต่ไม่เห็นมีเห็ด เห็นแต่คุณเห็บกับคุณทาก
พอเดินลงน้ำกลับเจอหอยบึ๊ย...ถืกใจลาวคั่ก
อันนี้หอยกีบกี้น้ำจืด หรือหอยกาบหรือเปล่าไม่รู้นะคะที่เรียกกัน
เก็บมาขังไว้ในกะละมังเปลี่ยนน้ำบ่อยๆให้หล่อนคายดินออกตั้งคืนหนึ่ง
ทุ่มเทพิถีพิถันกับหล่อนปานนี้ก็ยังไม่สมใจ
อุตส่าห์ตำพริกแกงเองแถมผัดใส่เครื่องเยอะๆ เพื่อดับกลิ่นคาวแล้วนะ
แต่ก็มิได้นำพา หน้าตาดีเสียเปล่า "คาว" เป็นคำตอบสุดท้ายค่ะ ว๊า...แย่จัง
ไม่อร่อยเลย คราวหน้าจะไม่กินอีกแล้วแหล่ะ....หอยหน้าตาดีเสียเปล่า
แต่รสชาดไม่ได้เรื่องเล๊ย
วันนี้จะพาเพื่อนไปเยี่ยมเพื่อนค่ะ เพราะว่าเพื่อนที่เป็นกัลยาณมิตรนั้นหาได้ไม่ง่ายนัก
ไม่ว่าจะที่สังคมแห่งไหนก็ตามแต่ ในเมื่อเราได้เจอกับมิตรภาพที่ดีต่อกันแล้ว
จึงควรอย่างยิ่งที่จะรักษาและถนอมสิ่งดีๆ เหล่านี้ไว้ไปนานๆ
อยากให้มิตรภาพเบ่งบานเหมือนดอกไม้
พร้อมกันนี้ก็จะพาท่องหน้าร้อนที่สวีเดน ด้วยค่ะ
จะไปพาลงน้ำทะเลเพื่อช้อนกุ้งมาก้อย และทำกุ้งจ่อม เอิ๊ก...
เพราะนี่ก็เป็นสูตสำเร็จที่คนไทยมาเจอกัน แฮ่ะๆ (กินเรื่องใหญ่)
โดยเฉพาะน้ำใจของคนไทยในต่างแดนที่หาได้ไม่ยากนัก
กินเสร็จสมอารมณ์หมายกันแล้วก็บ่ายหน้าออกทะเล
นี่คือสถานที่ถ่ายทำ และฆาตรกรรมหมู่กุ้งและเคยในทะเลค่ะ
เบื้องหลังของการลอบสังหารในครั้งนี้ อุ๊ย...ไม่ใช่สิไม่ได้สังหารนะคะ
เพราะขอแล้วค่ะ ขอให้กุ้งทุกตัวที่พร้อมและเต็มใจจะเป็นอาหารของพวกเรา
จงพากันตบเท้าก้าวเข้ามาลงในที่ช้อนกุ้งของพวกเราด้วยเถิด
ขอบคุณค่ะสำหรับอาหารเมนูกุ้งจ่อม กุ้งคั่วน้ำปลา และทอดมันกุ้ง
หลังจากที่กุ้งคั่วน้ำปลาย่อยหมดแล้ว อิฉันและทีมงาน"ลาวตาแตก"
ก็ขนเครื่องมือพร้อมทั้งอุปกรณ์เข้าป่าหาเห็ดเก็บลูกแบร์(ผลไม้ป่า)กันต่อ
อีกชนิดหนึ่งของเห็ดตับเต่า หรือเห็ดเผิ่งค่ะ เหมือนจะกินไม่ได้แต่อร่อยค่ะ
"เห็ด อี หยัง เอื้อย เบิ่ง ดีๆ เด้อ"
"เอื้อยว่ามันคือเห็ดก่อหน้าแหล่บ้านเฮาเด๊ะน้องหล่า"
ในคัมภีร์เห็ดเขาบอกว่ากินได้ เก็บเอาโลดเนาะๆ
นี่ไง การเก็บลูกแบร์ หรือ โบลแบร์ที่ภาษาของที่นี่เรียก
แต่ถ้ายายทองพูน ณ โนนสูงมาเห็น คงร้องบอกเสียงหลงว่า
"หงึย...หมากเล็บแมวฝรั่งตั่วนิ" ส่วนภาษาปะกิดก็มีชื่ออย่างหรูว่า
ลูกบลูเบอร์รี่เด้อค่า ลูกสีดำๆ ที่มีเนื้อในสีแหล่ๆ
ที่เป็นข่าวหนาหูว่าแรงงานจากภาคอีสานแห่มาเก็บขายกัน
ป๊าด...มันไม่ง่ายเลยนะเนี่ยกว่าจะได้ขายเป็นกิโล
อิสันซ่วน(สอย) ตั้งนานได้แค่ติ๊ดเดียวเองเพราะความอดทนมีขีดจำกัด
มากน้อยแค่ไหนก็มาจากใจจ้าเพราะจะเอาไปฝากฝรั่งที่บ้าน อิอิ ::)
ส่วนอันนี้ไม่ได้เก็บเองนะคะ ลงทุนซื้อมาโชว์ค่ะเพราะว่ามันคือบลูเบอรี่ปลูก
ไม่ใช่บลูเบอรี่ป่า ชนิดปลูกนี้จะลูกโตกว่าแบบป่า รสชาดหวานกว่า
และเนื้อในก็ไม่ใช่สีแหล่
อันนี้ที่นี่เรียก"ลิงหงอน" ส่วนภาปะกิดติดไว้ก่อนนะคะ
ก็เป็นอีกชนิดของผลไม้ป่าของที่นี่ ที่คนไทยชาวอีสานแห่กันมาเก็บขายค่ะ
ขอออกนอกเรื่องเห็ดนิดนุ่งนะคะ
มาว่ากันด้วยเรื่องผลไม้หน้าร้อนของที่นี่ค่ะ
อันนี้ อันนี้ และอันนี้
คือ บิเยิร์นแบร์ (Bjornbar)
ส่วนอันนี้ อันนั้น และอันโน้น
มันไม่ใช่แตงโมจินตรา และส้มโอทองดี แต่หล่อนคือราสพ์เบอร์รี่เด้อค่า
สดใหม่จากสวนคนอื่น
เอาล่ะสมควรแก่เวลา หาทางออกจากป่าได้แล้ว
ขอเวลาให้ชาวคณะพากันนั่งพักดื่มน้ำดื่มท่ากันสักแป๊บ
พูดง่ายๆ ว่าตากล้องก็อยากโพสท์ท่าสวยๆ ว่างั้นเถอะ อ๊าว....ตามใจจัดให้
พากันนั่งมองและนั่งลุ้น พนง.ส่งของไปรษณีย์ ที่แอบมาอู้เตะบอล
หรือมาพักเบรคเที่ยงไม่แน่ใจ มองกันด้วยใจจดจ่อ
และขอภาวนาให้เขาเตะบอลโดนรถอิฉันทีเถอะ เอาให้กระจกแตกไปเลย
เผื่อจะได้คันใหม่...เอิ๊ก... ไม่ได้หวังจะให้ประกันจ่ายหร๊อก
แต่เผื่อว่าลูกแบร์ที่สอยไปให้ฝรั่งชิมเกิดสำแดงผล ด้วยมนต์ดำที่เป่าเสกเข้าไปด้วยแล้ว
ฮ่ะฮ่า.... พูดเล่นไปงั้นแหล่ะ แต่ว่าได้ก็ดี ให้ฟรีมาก็ขอเบิ้ล เนาะ
สุดท้ายก่อนเอ่ยคำลา นี่คือของฝากจากป่าค่ะ
แทนความคิดถึงเสมอมิวางวายจากใจทาก
เอ๊ย...จากใจผู้สาวไทบ้านเด้อค่า
ขอสิ้นสุดการส่งสัญญาณว่า"คึดฮอดอย่างแฮง" มาถึงชาวบ้านมหา
ด้วยประการเเล...เช่นนี้
Bookmarks