กำลังแสดงผล 1 ถึง 2 จากทั้งหมด 2

หัวข้อ: ''ภาวะโลกร้อน'' ความจริงช็อกโลก

  1. #1
    Maximum learning
    ศิลปิน นักเขียน
    สัญลักษณ์ของ khonsurin
    วันที่สมัคร
    Apr 2008
    ที่อยู่
    ท่าตูม สุรินทร์
    กระทู้
    8,063
    บล็อก
    197

    ''ภาวะโลกร้อน'' ความจริงช็อกโลก

    ''ภาวะโลกร้อน'' ความจริงช็อกโลก



    จาก




    [yflash]http://www.youtube.com/v/46CoHLwMTm8&hl=en&fs=1[/yflash]





    สู่




    สู่''ภาวะโลกร้อน'' ความจริงช็อกโลก




    ขณะที่บ้านเราเจอภาวะฝนตกน้ำท่วม ไข้หวัดนกระบาด อีกด้านในซีกโลกตะวันตก ผู้คนกำลังเผชิญหน้ากับภาวะโลกร้อน และร้อนในระดับปรอทแทบแตกในความรู้สึกของคนที่อยู่อากาศหนาวมาเกือบชั่วชีวิต ร้อนจนร่างกายทนไม่ไหว บางประเทศมีผู้เสียชีวิตเป็นร้อยราย

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คลื่นความร้อนปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกของสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึงกว่า 160 ราย ในพื้นที่ รัฐแคลิฟอร์เนีย นอกจากนี้คลื่นความร้อนยังส่งผลให้เมืองใหญ่หลายเมืองไม่ว่าจะเป็น นิวยอร์ก ชิคาโก บัลติมอร์ วอชิงตัน บอสตัน ฟิลาเดลเฟียไปจนถึงแอตแลนตา ล้วนแต่ต้องเผชิญกับอุณหภูมิสูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส ซึ่งคลื่นความร้อน ดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชน ใช้พลังงานไฟฟ้าสูงจากเครื่องปรับอากาศ ซึ่งกำลังเป็นปัญหา ที่รัฐแคลิฟอร์เนียกำลังวิตก เกรงว่าพลังงานไฟฟ้าจะไม่เพียงพอต่อประชาชน

    ปรากฏการณ์ความแปร ปรวนของสภาวะอากาศอย่าง สุดขั้วในทางวิทยาศาสตร์ ระบุว่าสภาพเช่นนี้เป็น “ภาวะโลกร้อน” อันเป็นผลจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซ อื่นๆ ที่มีคุณสมบัติดักจับความร้อนออกไปยังบรรยากาศของโลก ก๊าซเหล่านี้จะรวมตัวกันจนกลายเป็นผ้าห่มหนาๆ ดักจับความร้อนของดวงอาทิตย์ และทำให้โลกมีอุณหภูมิร้อนขึ้น ยิ่งก๊าซเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น ความร้อนก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย


    ก๊าซเหล่านี้เกิดขึ้น จากการเผาผลาญพลังงานฟอสซิส ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ถ่านหิน ดังนั้นเมื่อเราขับรถ เท่ากับเพิ่มกระบวนการสร้างโลกร้อน รวมไปถึงการสูญเสียป่าธรรมชาติ เพราะไม่มีต้นไม้ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงการทำเกษตรและปศุสัตว์ ที่ก่อให้เกิดก๊าซมีเทนก๊าซที่ทำให้โลกร้อนได้เช่นกัน

    ภาวะโลกร้อนมีผลต่อการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิต เนื่องจากอุณหภูมิสูงขึ้นทำให้ฤดูกาลต่างๆ เปลี่ยนแปลง สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ ก็จะค่อยๆ ตายลง ผลต่อมนุษย์เมื่ออุณหภูมิที่สูงขึ้น อาจทำให้บางพื้นที่กลายเป็นทะเลทราย ประชาชนขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม แต่บางพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก เนื่องจากฝนตกรุนแรงขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกและบนยอดเขาสูงละลาย ทำให้ปริมาณ น้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น พื้นที่ชายฝั่งทะเลได้รับผลกระทบ บางพื้นที่อาจจมหายไปอย่างถาวร

    นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่ามนุษยชาติกำลังนั่งอยู่บนสุสานแห่งเวลา โลกมีเวลาเพียงสิบปีเท่านั้นที่จะปัดเป่าหายนะครั้งใหญ่ ที่อาจทำให้ระบบอากาศของโลกกลายเป็นเครื่องทำลายล้าง อาทิ สภาพอากาศอันรุนแรง น้ำท่วม ความแห้งแล้ง โรคระบาด และคลื่นความร้อนที่มีอำนาจทำลายล้างแรงกว่าที่เคยพบมา



    อย่างไรก็ตามมีสถิติทางวิทยาศาสตร์ที่น่าแปลกอันเป็นสัญญาณว่าโลกอาจวิกฤติเกิด ขึ้นแล้วก็เป็นได้ โดยมีข้อมูลจากแกนน้ำแข็งที่แอนตาร์คติกเมื่อ เร็วๆ นี้ บ่งชี้ว่าปัจจุบันการจับตัวของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มสูงขึ้นกว่าทุกช่วงเวลาในระหว่าง 650,000 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไกลเกินกว่าที่มาตรฐานใดๆ จะไปถึงได้
    ปี 2005 คือปีที่โลกมีอุณหภูมิร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการวัดอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศ เป็นสิบปีที่ถือว่ามีอากาศร้อนที่สุด เท่าที่เคยมีมานับแต่ปี 1990 ในฤดูร้อนปี 2005 หลายร้อยเมือง ในอเมริกามีอากาศร้อนสูงระดับทำลายสถิติ

    ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ในปี 2003 คลื่นความร้อนทำให้คนในยุโรปเสียชีวิตถึง 30,000 ศพ และในอินเดีย มีผู้เสียชีวิตไป 1,500 ศพ

    นับแต่ปี พ.ศ. 2521 ทะเลน้ำแข็งที่ขั้วโลกลดปริมาณลง 9 เปอร์เซ็นต์ต่อทุกสิบปี ด้วยระดับการละลายตัวในปัจจุบัน รวมถึงหิมะที่เทือกเขาคิลิมันจาโรอาจจะหมดไปในปี 2020 เทือกเขาดังกล่าวอยู่ทางตอนบนของประเทศแทนซาเนีย ติดกับประเทศเคนยา เป็นหนึ่งในภูเขาไฟลูกที่ใหญ่สุดในโลก เป็นเทือกเขาที่สูงในทวีปแอฟริกาจนเรียกขานว่า “หลังคาแห่งกาฬทวีป”



    ''ภาวะโลกร้อน'' ความจริงช็อกโลก


    ขณะที่ประเทศไทยมีปรากฏการณ์ด้านโลกร้อนเกิดขึ้นให้เห็นแล้ว ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์และฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุว่า จากการสำรวจล่าสุดพบว่าระดับน้ำทะเลในอ่าวไทยเพิ่มขึ้น 1-2 มิลลิเมตรต่อปี ยังอยู่ในระดับปกติ แต่ในทะเลฝั่งอันดามัน สูงขึ้น 8-12 มิลลิเมตรต่อปี มีผลอย่างมากต่อการกัดเซาะชายฝั่ง เนื่องจากที่ผ่านมาปริมาณน้ำทะเลที่สูงเพียง 50 เซนติเมตร สามารถกัดเซาะชายฝั่งได้อย่างรุนแรง

    จากสัญญาณดังกล่าว นำพาไปสู่การทำนายผลกระทบ ต่างๆ เมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้น โดยมีการคาดเดาว่าภาวะโลกร้อนจะเพิ่มความรุนแรงของพายุเฮอ ริเคน ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา พายุเฮอริเคนระดับ 4 และ 5 เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะน้ำในมหาสมุทรร้อนขึ้น พายุฤดูร้อนสามารถเพิ่มกำลังมากขึ้น และกลายเป็นพายุที่มีพลังมากขึ้น



    ''ภาวะโลกร้อน'' ความจริงช็อกโลก



    ถึงแม้พายุรุนแรงจะก่อให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ แต่ความแห้งแล้งและไฟป่ายังคง เพิ่มสูงขึ้นในอีกหลายพื้นที่ เกาะที่ต่ำจะไม่สามารถอยู่อาศัยได้อีก ต่อไป อันเนื่องมาจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ป่า, ฟาร์ม และเมืองทั้งหลายจะต้องเผชิญหน้ากับสัตว์รบกวนที่สร้างปัญหา รวมถึงเชื้อโรคร้ายที่เกิดจากยุงเป็นพาหะมีจำนวนมากขึ้น การทำลายถิ่นอาศัยของสัตว์อย่างเช่นแนวปะการัง และทุ่งหญ้าอาจทำให้พืชและสัตว์หลาย สายพันธุ์สูญพันธุ์ไป

    นอกจากนี้ยังมีการ คาดการณ์กันว่าอีก 100 ปีข้างหน้าหรือในปี พ.ศ. 2643 อุณหภูมิ จะสูงขึ้นจากปัจจุบัน 4.5 องศาเซลเซียส สภาวะโลกร้อนที่เริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ใหม่เกิดขึ้นทุกปี...กลายเป็นความจริงช็อกหัวใจชาวโลกอยู่ ณ ขณะนี้






    ''ภาวะโลกร้อน'' ความจริงช็อกโลก

  2. #2
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ แหลวแดง
    วันที่สมัคร
    Mar 2008
    กระทู้
    1,912

    Re: ''ภาวะโลกร้อน'' ความจริงช็อกโลก

    ในที่สุดคนเฮากะต้องเผชิญกับความจริงอันแสนโหดร้ายเนาะคับ บ่มีทางเลี่ยงได้

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •