ในม่านหมอก
บทนำ
บ้านร้างหลังนี้เคยเป็นเปิดเป็นร้านขายต้นไม้มาก่อน
เล่ากันว่าเจ้าของบ้านหนุ่มอาภัพ หัวใจสลาย เมื่อคนรักของเขาย้ายไปอยู่ต่างประเทศ
ลือกันว่าตั้งแต่แฟนสาวของเขาจากไป เขาก็เปลี่ยนไป ซึมเศร้า เก็บตัว เลิกติดต่อกับโลกภายนอก
และตรอมใจตายในที่สุด....บ้างก็ว่า เขาฆ่าตัวตาย
เพราะเขาเป็นคนตัวคนเดียว ไม่มีญาติมิตร ทีไหน นอกจากเด็กหนุ่มที่เป็นลูกจ้างเพียงคนเดียว
เมื่อเขาตายไปแล้ว ลูกจ้างของเขาก็หายไปเช่นกัน บ้านสวยๆ หลังนี้ก็ค่อยๆ เสื่อมโทรมลง และกลายเป็นบ้านร้างในที่สุด
จากบ้านหลังเล็กๆ ริมแม่น้ำที่สวยงาม กับเรือนเพาะชำต้นไม้นานาพรรณ ที่ใครเดินผ่านต้องอดมองดูไม่ได้
พอผ่านพ้นวันเวลาเนิ่นนานไป สุดท้ายมันก็กลายเป็นสถานที่ที่ไม่มีใครอยากย่างกรายเฉียดเข้ามาใกล้
ยุคสมัยเปลี่ยนไป มีคำล่ำลือ มากมาย จริงบ้างเท็จบ้าง พูดกันปากต่อปาก จากร้านกาแฟ ในวงเหล้า เรื่องราวก็เริ่มผิดเพี้ยนไป
จากเรื่องจริงที่เข้าใจง่าย ตอนนี้มันเริ่มกลายเป็นนิยายสยองเข้าไปทุกที
เรื่ิองราวที่ไม่จริง พอมีคนพูดซ้ำๆ ย้ำเรื่อย จนถึงจุดจุดหนึ่งสังคมก็จะเชื่อและยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริง
แม้แต่รายทีวีเกี่ยวกับการพิสูจน์ผี ยังต้องมาที่บ้านหลังนี้ เพื่อพิสูจน์คำเล่าลือ................
ไม่มีใครรู้ทุกเรื่องราว นอกจากตัวของเขาเอง กับวันเวลาที่ผ่านไป...ที่จดบันทึกทุกอย่างไว้ในอดีตตระกาล
......................................................................................................................
รักเอย รักแท้ รัดรึงใจ แม้ชีพวาย ยังไม่คลายรักเจ้า
หวังเพียง มีค่ำคืน ของสองเรา อีกสักครั้ง
แม้นวันนี้ พี่ต้องตายเพียงลำพัง
ยังหวังได้เจอเจ้าในอีกภพ
ปล. จากพงษ์ฑัต ถึงอมิตาดา
ในวันที่ ศรัทธาในใจเริ่มริบหรี่ลง ......
............................
...............................................................................................................................
ว่ากันว่า เจ้าของบ้านหลังนี้ เขามีกุหลาบกระถางหนึ่ง สามารถออกดอกได้หลากสี ตามแต่ความรู้สึกของผู้เป็นเจ้าของ
เป็นที่หมายปอง ของนักเลงต้นไม้เป็นอย่างมาก แม้แต่คนที่สนใจเรื่องราวลึกลับ ขอคอยเงี่ยหูฟัง ข่าวและเรื่องราว ของกุหลาบต้นนี้
ไม่มีใครมีข้อมูลที่แน่ชัด ไม่สามารถเชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็น แต่ก็ยากที่จะลงความเห็นว่าไร้สาระ เพราะข้อมูลเรื่องนี้มันกล้ำกึ่งกัน
หลังจากที่เจ้าของบ้านหนุ่มตายไป ยังมีคนเห็นลูกจ้างของเขายังคงไช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้เนิ่นนาน
ชายเจ้าของบ้านได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ เขายกบ้านและทรัพย์สินทุกอย่างให้แก่ลูกจ้างผู้ซื่อสัตย์คนนั้นทั้งหมด ไม่มีใครรู้เรื่องราวมากกว่านี้ แม้จะมีเสียงซุบซิบหนาหู แต่ลูกจ้างคนนั้นก็ยังเฉย และใช้ชีวิตประจำวันปรกติ
จนวันหนึ่ง มีหญิงงามได้เดินเข้ามาในบ้านหลังนี้ และถามหาเจ้าของบ้านคนก่อนผู้จากไป
ชายลูกจ้างผู้ซื่อสัตย์ รู้สึกตื่นเต้น จนแววตาเป็นประกาย แล้วเขาจึงถามว่า หญิงงามคนนั้นเธอเป็นใคร
มาจากไหน และต้องการอะไร และยิงคำถามหลายอย่างเกี่ยวกับเูธอจนเขาแน่ใจ
ซึ่งผิดวิสัย ของคนขายต้นไม้กับลูกค้าทั่วไป
เมื่อถามคำถามทุกคำจนกระจ่าง เขาก็มีท่าทีนอบน้อม กับหญิงคนนั้นอย่างเห็นได้ชัด
เธอคือหญิงสาวที่เจ้านายของเขาเฝ้าคะนึงหา มาชั่วชีวิตนั่นเอง เขาเล่าทุกอย่าง ทุกเรื่องราว
เกี่ยวกับเจ้านายของเขาให้เธอฟังอย่างละเอียด เธอฟังทุกอย่าง อย่างเงียบๆ และเศร้าสร้อย
สุดท้าย ชายลูกจ้างจึงไปนำต้นกุหลาบในกระถางสีชมพูต้นนั้นมาให้เธอ
ภาพปลาคาร์พพรอดรักกันเริ่มเลือนแล้ว แต่พอดูรู้ ส่วนสีชมพู ยังคงชัดเจน แม้จะซีดไปบ้าง
กระถางใบนี้ คือคำฝากฝังสุดท้าย ที่เจ้านายเขาขอร้องเอาใว้ มอบกุหลาบกระถางนี้ ให้กับหญิงงาม ที่ชื่ออมิตาดา
ซึ่งคือคนที่อยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้ หญิงงามมักอาภัพ พระเจ้ามักอิจฉาคนที่มีรักแท้เสมอ
อมิตาดา เธอไม่พูดอะไร แต่น้ำตาเธอไหลเป็นทาง ยังจะให้เธอพูดอะไร ในเมื่อหัวใจของเธอก็แหลกสลายแล้ว
เธอรับกุหลาบกระถางนั้นจากชายหนุ่ม ด้วยมือที่สั่นเทา แล้วเธอจากไปอย่างเงียบๆ
เขาไม่รู้ว่าเธอมาจากไหน และจะไปไหน แต่เขาแน่ใจเธอคือคนที่เจ้านายของเขาเฝ้ารอหาตลอดชีวิต
เพราะเขาได้พิสูจน์ความเป็นตัวจริงของเธอ ตามวิธีของเจ้านายทุกอย่าง ซึ่งเธอตอบได้ทุกอย่างไม่ผิดเพี้ยน
เจ้านายของเขาไม่ได้รักคนผิด...แต่ผิดที่ทั้งคู่ไม่ม่วาสนาต่อกัน
คงถึงเวลาแล้วสินะ ที่เขาควรไปจากบ้านแสนเศร้านี้เสียที................
นับจากวันที่ ชายลูกจ้างได้เดินออกจากบ้านหลังนี้ไป เขาไม่เคยหันกลับมาดูมันอีกเลย
แต่เรื่องราวในบ้านหลังนี้มันไม่มีทางลบเลือนออกจากหัวใจของเขาได้ตลอดกาล
ถึงแม้ตอนนี้มันจะเป็นบ้านร้างไปแล้ว
Bookmarks