ทำไมผู้ชายหล่อ ถึงชอบเป็นเกย์

ก่อนอื่น ก่อนใดคงต้องทำความเข้าใจกับคำว่า gay กันก่อน ซึ่งในภาษาไทยเรา ใช้ทับศัพท์ว่า เกย์ อันหมายถึง บุคคลรักร่วมเพศ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งผู้หญิง และ ผู้ชาย แต่ในสังคมไทยเรา เราให้นิยามกับคำคำนี้สื่อไปทาง ผู้ชายรักร่วมเพศ(เดียวกัน) มากกว่า ในขณะเดียวกันเรากลับเรียกผู้หญิง ที่รักหญิงด้วยกันว่า ทอมกับดี้ ซึ่งคำนี้ภาษาอังกฤษเรียกว่า เลสเบี้ยน (Lesbien) หรือ LB.

ทำไมผู้ชายหล่อ ถึงชอบเป็นเกย์ ถ้าจะตอบจริงๆ แล้วเนี่ย ขอบอกว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชายหล่อ ก็เป็นเกย์ได้ทุกคน ต่อให้หน้าแบน จมูกบี้ ฟันเหยิน คางเชิด จมูกงุ้ม เป็นได้หมด ทั้งนี้ สาเหตุของการเป็นเกย์มันเกิดจากยีน (gene) หรือลักษณะอันผิดปกติของพันธุกรรม ซึ่งผลงานวิจัยหลายสำนักลงความเห็น เป็นเช่นนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ความเป็นเกย์ หรือ เกย์ยีน สามารถถ่ายทอดไปได้ จากรุ่นสู่รุ่นอีกด้วย

จุดเริ่มต้นของการเป็นเกย์

หลังจากที่ตัวอ่อนได้เริ่มก่อตัวขึ้นในครรภ์มารดาแล้ว ร่างกายและสมองของตัวอ่อนจะเป็นเพศหญิงก่อน ช่วง 6-8 สัปดาห์หลังจากการ ปฏิสนธิ ตัวอ่อนเพศชายที่มีโครโมโซมแบบ xy ก็จะได้รับฮอร์โมน แอนโดรเจน เพื่อไปสร้างเป็น จุ๊ดจู๋ ก่อน หลังจากนั้น ฮอร์โมนที่เหลือจะถูกส่งไปที่สมอง เพื่อเปลี่ยนรูปแบบของสมองที่ครั้งแรกถูกสร้างเป็นเพศหญิง ให้พัฒนาเป็นเพศชายต่อไป แต่ถ้าสมองไม่ได้รับฮอร์โมนดังกล่าวอย่างเพียงพอ จะมีผลทำให้ ทารกที่เกิดมาเป็นเพศชาย แต่สมองเป็นเพศหญิง แต่ลักษณะความเป็นเพศหญิง จะยังไม่แสดงในวัยเด็ก แต่จะเผยให้เห็นมากขึ้น เมื่อเด็กคนนั้นเข้าถึงวัย เจริญพันธ์ หรือ ผลลัพธ์ในกรณีที่สองคือ เด็กทารกที่เกิด จะมีลักษณะสมองเป็นเพศหญิงตั้งแต่กำเนิด แต่รูปร่างเป็นเพศชาย โดยที่ลักษณะนี้ เด็กจะแสดงออกในแบบของสมองอย่างชัดเจนตั้งแต่เด็ก

ยีนเกย์

ดอกเตอร์ ดีน แฮมเมอร์ แห่งสถาบันมะเร็งแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้ทำการทดลองคู่แฝดที่เป็นเกย์ จำนวน 40 คู่ ผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นว่ามี 33 คู่ มีโครงสร้างของยีน แบบเดียวกันในบริเวณของปลายขาของโครโมโซม x ซึ่งเขาเรียกบริเวณนั้นว่า Xq28

หน้าตา สัมพันธ์กับการเป็นเกย์
หลายครั้งที่คุณเห็นคนหน้าตาดีๆ แต่ไหงกลับกลายเป็นเกย์ไปเสี่ยนี่ เลยทำให้คุณนึกเสียดายความหล่อที่เขามี

จากคำอธิบายข้างต้นแล้วว่า คนที่เป็นเกย์เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนเพศ ในตอนเป็นตัวอ่อน ในครรภ์มารตา ซึ่งตัวอ่อนมีแนวโน้มในการเกิดเป็นผู้หญิง เลยทำให้ผู้ชายทื่เกิดมาเป็นเกย์ได้รับฮอร์โมนเพศหญิงมาก เลยส่งผลทำให้เขามีผิวพรรณที่ดูผุดผ่อง นุ่มนวล น่าจับ ส่วนหน้าตา ออกจะกระเดียดไปทางผู้หญิง ซึ่งก็อาจเป็นเพราะอิทธิพลของฮอร์โมนเพศ นั่นเอง

คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นเกย์... ยังเป็นคำอุปมาอุปมัยที่ใช้อย่างได้ผล
เพราะตอนนี้ถ้าเปรียบเทียบสัดส่วนของประชากรโลก จะพบว่าประชากร
ผู้ชายนั้นลดลงเหลืออยู่เพียง 1 ใน 3 ของประชากรโลกทั้งหมด

แต่ที่น่าเศร้าใจสำหรับคุณสาวๆ นั่นคือ ผู้ชายเทียมหรือที่เรียกว่า
เกย์ที่หลงอยู่ในกลุ่มของผู้ชายแท้ๆ ทั้งแท่งนั้น กลับจำแนกแยกแยะได้
้ยากเสียยิ่งกระไร

คุณสาวๆ เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า ทำไมผู้ชายหล่อ ล่ำ สะอาด
อารมณ์ดี อ่อนโยน และพูดจาไพเราะ ที่เคยเป็นผู้ชายในฝันของสาวๆ หลายคน แต่ตอนนี้เป้าหมายเหล่านั้นดันกลายเป็นเกย์ไปเสียเกือบหมดแล้ว วันนี้จะนำทริปดีๆ
ไปพิสูจน์คุณผู้ชายใกล้ตัว ว่าเขายังแมนทั้งแท่งหรือไม่? พร้อมกับเปิดเผยข้อมูลจาก
Viren Swami หนึ่งในทีมนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ที่มาไขข้อกระจ่างกับเรื่องราว
ของเสน่ห์ในตัวผู้ชาย ให้คุณผู้หญิงชอนไชอย่างหมดเปลือก

ทำไมผู้ชายหล่อ ถึงชอบเป็นเกย์

เกย์ส่วนมากชอบเข้าฟิตเนส?

ทำไมเกย์ถึงชอบเข้าสถานออกกำลังกาย ในขณะที่เลสเบี้ยนไม่เคยสน
ใจเรื่องรูปร่าง แต่เกย์กลับกระตือรือร้นที่อยากจะมีรูปร่างดีๆ และมักวิตกกังวลเกี่ยว
กับรูปร่างของตนเองมากกว่าผู้ชายแท้ๆ เกย์ส่วนมากจะจำกัดเรื่องการกินอาหาร
และมักมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าผู้ชายปกติ สถานที่แห่งแรกที่เกย์จะเลือกใช้มากที่สุดนั่นคือ
ฟิตเนส เพื่อปฏิวัติหุ่นของเขาให้บึกบึน ฟิตเปรี๊ยะ และมีกล้ามเนื้อแขนและขาเป็นมัดๆ

Viren Swami กล่าวว่า "สาเหตุที่เกย์ส่วนใหญ่จะเลือกดูแล
รูปร่างหน้าตาของตัวเองเป็นอย่างดี อันดับแรกก็เพื่อสร้างความมั่นใจในตนเอง เพื่อให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายทุกคนยอมรับตนเองเป็นเพื่อน ให้คิดและเชื่อว่าเป็น
ผู้ชายแท้ 100% เพราะอย่างน้อยๆ จะได้สามารถอยู่ร่วมกับคนทุกคนได้ทั้งหญิง
และชายนั่นเอง" นอกจากนี้ในฟิตเนสยังมีครูฝึกหนุ่มๆ หล่อๆ และเพื่อนชายอีกเพียบ
เพื่อเป็นอาหารตาให้เหล่าเกย์ไฮโซได้แทะเล็ม


เกย์ส่วนมากชอบแวกซ์ขน?

ขนต่างๆ ทั่วร่างกายเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ของเกย์ (ยกเว้นขนตา)
การไม่มีขน แสดงให้เห็นว่าผู้ชายคนคนนั้นแลดูอ่อนเยาว์ เกลี้ยงเกลา
และสะอาดสะอ้าน แต่อย่างไรก็ตาม สาวๆ ส่วนมากจะชอบผู้ชายที่มีขน
โดยเฉพาะหนวดและเครา การไม่มีขนเลยในผู้ชาย ย่อมไม่ใช่สิ่งที่น่าดึงดูดใจนัก แต่กลับเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความไม่สมบูรณ์แบบของความเป็นแมน
โดยเฉพาะขนหน้าแข้งและขนหน้าอกของผู้ชาย ที่แสดงออกถึงความเป็น
แมนอย่างที่สุดแล้ว

ตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา พบว่าสังคมของหนุ่มตะวันตก
มีผู้ชายที่นิยมการโกนขนตัวเองถึง 60% (แต่ยกเว้นกรณี David Beckham
ที่ชอบโกนหัวตนเองอยู่เป็นประจำ)

Swami กล่าวเสริมว่า "ผู้ชายจำเป็นต้องโกนขนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ
วัฒนธรรมและค่านิยมของแต่ละคนด้วย บางคนก็บอกว่าการมีหนวดเครานั้น
เป็นสิ่งที่แสดงถึงความเป็นแมน แต่สาวๆ บางคนก็ไม่ชอบ การศึกษาในระหว่างปี
1970-1980 จึงพบความแตกต่างอยู่บ่อยครั้ง ระหว่างผู้ชายที่ไว้หนวดกับ
ผู้ชายหน้าใสเกลี้ยงเกลา"

"ถึงแม้หนวดเคราจะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความมีวุฒิภาวะ ความเป็นผู้นำ กล้าหาญ และมีความเป็นแมนค่อนข้างสูงกว่าผู้ชายที่ไม่ไว้หนวดเครา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า
จะเป็นที่ปรารถนาของคุณสาวๆ เวลาที่อยู่บนเตียงนอนหรอก ในบางช่วงบางเวลาหนวดเครากลับเป็นสิ่งล้าสมัย แถมยังดูสกปรกและรกรุงรัง การจะไว้หนวดหรือเครานั้นบางครั้งต้องขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนตัวและแฟชั่น ตามกระแสของเวลานั้นๆ ด้วย"


คงสรุปง่ายๆ ได้ใจความว่า หากผู้ชายใกล้ตัวคุณหันมาปฏิวัติตัวเองใหม่
โดยการโกนขนหน้าแข้งและแวกซ์ขน หน้าอก แถมเข้าฟิตเนสอย่างหักโหม
แบบนี้ก็ไม่ต้องสงสัยแล้วล่ะ...


ข้อมูลจาก
http://www.dekchai69.com/boardx/inde...;topic=11148.0 - 21k -
ystory.naitam.com/ystory-life/view.php?id=84&category=&page=1 - 61k -