กำลังแสดงผล 1 ถึง 5 จากทั้งหมด 5

หัวข้อ: เซียงเมี่ยง

  1. #1
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม
    วันที่สมัคร
    Jul 2008
    กระทู้
    641

    เซียงเมี่ยง

    เซียงเมี่ยง
    เค้าโครงจากบทประพันธ์ เรื่อง ศรีธนญชัย

    อันว่าเรื่องของ เซียงเมี่ยง หรือ ศรีธนชัยนั้น มีตำนานกล่าวไว้อย่างหลากหลาย ทางผมจึงหยิบยกตอนต่างๆมาผูกปมใหม่ ให้ได้เป็นเรื่องเป็นราวที่สนุกและกะทัดรัด คงไม่ว่ากันเนาะ

    เซียงเมี่ยง เป็น คนฉลาดเฉลียว เจ้าเล่ห์ เจ้าความคิด ช่างพูด ช่างเจรจา เป็น ลูกของนายชัย กับ นางศรี ซึ่งชื่อนั้นก็ได้เอาชื่อ พ่อ กับ แม่ผสมอยู่ด้วย และมีน้องอีกคน เซียงเมียงจึงมีหน้าที่ดูแลน้อง วันหนึ่งมีแม่ค้าขายขนมมาขายที่บ้าน พ่อแม่ก็ซื้อให้ และแบ่งให้ลูกๆเท่าๆกัน แต่เซียงเมียงกลับเอ่ยว่า น้องตัวเล็กต้องได้น้อยกว่าพี่จึงจะถูก แม่ค้านั้นเห็นน้องของเซียงเมียงน่ารัก น่าเอ็นดูจึงหยิบขนมแถมให้ ทำให้เซียงเมี่ยงไม่พอใจ วันนั้นทั้งวัน เซียงเมี่ยงไม่ดูแลน้อง น้องจึงเล่นสกปรก เล่นดินเล่นทราย จนแม่มาเห็นจึงบอกให้เซียงเมี่ยงดูแลอาบน้ำล้างขี้ล้างเยี่ยวล้างตับไตไส้พุงน้องให้สะอาด เซียงเมี่ยงจึงจับน้องผ่าท้องควักตับไตไส้พุงออกมาล้าง เอาขมิ้นดินสอพองทาอย่างดีแล้วเอาใส่เปลเห่กล่อม พ่อแม่รู้จึงเอาหวายมาไล่เฆี่ยนไล่ตีและขับไล่ให้ออกจากบ้าน ไปบวชอยู่วัดแห่งหนึ่งอยู่ได้ไม่นานก็ถูกขับไล่ออกมา เพราะไปยอกเย้าหลานสาวสมภาร

    เซียงเมี่ยงจึงไปขออยู่กับแม่ค้าขายขนม (ซึ่งมีความแค้นกันอยู่) วันหนึ่งแม่ค้าใช้ให้เอาขนมไปขาย และขอให้ขายดีเหมือนเทน้ำเทท่า เซียงเมี่ยงจึงเอาไปน้ำเทท่าจริงๆ กลับมาบ้านแม่ค้าถามหาเงิน เซียงเมี่ยงก็ได้โกหกว่าคนแถวบ้านเชื่อไว้วันหน้าจะเอาเงินมาให้ หลายวันเข้าแม่ค้าจับได้จึงเอาไปฝากไว้กับลูกชายซึ่งเป็นขุนนาง(หลวงนาย)ชุบเลี้ยงในเมืองหลวงให้ช่วยกำราบเจ้าศรี

    ขอเรียกใหม่ว่า เจ้าศรีก็แล้วกันนะ เพราะเรียกเซียงเมี่ยง ผมขี้เกียจพิมพ์ เจ้าศรีนี่น่ะ พอมาอยู่ที่นั่นก็ได้มีหน้าที่ถือล่วมใส่หมากพลูไปเฝ้าพระราชา วันหนึ่งเกิดทำพลูหล่นหาย หลวงนายจึงบอกว่าควรระมัดระวังเห็นอะไรก้เก็บให้หมด วันต่อมา เจ้าศรีเห็นขี้หมา ขี้แมวแห้งก็เก็บใส่ล่วมมาหมด จึงนำถวายหลวงนาย วันนี้เพื่อนของหลวงนายมาพอดี จึงจะเปิดล่วมให้เพื่อนด้วย พอเปิดขึ้นหลวงนายก็ไม่พอใจไล่เตะเจ้าศรีด้วยความโมโห(ด้วยความสูน ฮิๆๆๆ)

    วันต่อๆมาเมื่อคนในบ้านเผลอจุดไฟไฟเผาบ้าน คุณนายสั่งให้เจ้าศรีไปรายงานต่อหลวงนาย เจ้าศรีแกล้งเดินเชื่องช้าคลานช้าๆเข้าไปกระชิบกระซาบหลวงนายกว่าจะรู้เรื่องไฟก็ไหม้หมดแล้ว ตั้งแต่นั้นมาฐานะของหลวงนายก็ยากจนลงถึงกับทำนาด้วยตัวเอง วันหนึ่งแม่ของหลวงนายป่วย จึงสั่งให้เจ้าศรีไปเฝ้าดูแล ด้วยความแค้นแต่หนหลัง เจ้าศรีจึงเอาสารหนูผสมกรอกกับยาให้กิน หลวงนายไม่รู้จะทำประการใดก็ได้แต่ทำพิธีเผาตามประเพณี เจ้าศรีจึงได้ไปอยู่ในเมืองตามเดิมและสร้างเรื่องสร้างราวไม่เว้นแต่ละวัน หลวงนายจึงส่งไปถวายตัวเป็นมหาดเล็กของพระเจ้าภูเบศ

    เมื่ออยู่ในวัง เจ้าศรีได้ใช้ความรู้ความสามารถปฏิบัติหน้าที่จนราชาพอพระทัย จึงเลื่อนขั้นเป็น ขุนศรีธนชัย พอโตขึ้นนิสัย ขุนศรี ก็ฉลาดแกมโกง กำเริบ ไม่ค่อยได้มาเข้าเฝ้าดังแต่ก่อน ครั้นราชาทรงถามก็ตอบว่ามัวแต่สร้าง เรือนทอง อยู่จึงไม่ค่อยว่าง ราชาจึงเสด็จไปดูพร้อมนางกำนัล พอถึงปรากฏว่าเป็นเรือนไม้ทองหลางจึงรู้ว่า ขุนศรี นี้หลอกเอาแล้ว จึงสั่งคนในวังไปถ่ายรดเรือนจนเลอะเทอะ สมพระทัยแล้วจึงกลับวัง เจ้าศรีกลับทุบตีเหล่านางกำนัล และหาว่าพวกนางทำเกินคำสั่งเพราะตดด้วย

    อยู่ต่อมาเจ้าศรีอยากมีที่ดินไว้สร้างฐานะของตน จึงขอที่ดินเท่าแมวดิ้นตาย กับราชา ราชาตอบตกลง เจ้าศรีจึงไล่ตีแมว แมวเจ็บร้องเสียงหลงวิ่งเตลิดเปิดเปิงไปถึงที่นาใครเจ้าศรีก็เอาธงปักไว้ ชาวนาเข้าไปร้องเรียน พระราชาไม่รู้จะทำประการใดได้แต่นำทรัพย์มาทดแทนชาวนาไป เพราะตรัสแล้วมิอาจคืนคำได้

    อยู่ต่อมาอีก เจ้าศรีตามเสด็จพระราชาไปประพาสสวนหลวง ราชาจึงตรัสท้าเจ้าศรีว่าหากหลอกให้ลงสระได้จะให้รางวัล เจ้าศรีทูลว่ามิอาจหลอกให้ลงสระได้ แต่ถ้าหากหลอกให้ขึ้นจากสระล่ะพอมีทางอยู่ เมื่อลงสระแล้วจึงรู้ว่าเสียทีแล้ว แต่ก็ประทานรางวัลให้อย่างงาม

    เมื่อถึงหน้าหนาว คิดอยากจะหาสาวมากอดให้อุ่นอก คิดอยากจะมีครอบครัว จึงไปบอกกับคนรู้จักที่สนิทสนมว่า จะขอลูกสาวไปทำลูก จึงยกให้แต่กว่าจะรู้ว่าเสียที เจ้าศรีก็ได้ลูกสาวเป็นเมียเสียแล้ว อยู่ไม่นานภรรยาของ ขุนศรี(เจ้าศรี) บ่นว่าไม่มีเงินใช้ ขุนศรีจึงไปพนันกับเหล่าอำมาตย์ต่อหน้าพระที่ว่า เจ้าศรีจะทายใจว่าเหล่าท่านอำมาตย์คิดอะไรอยู่ ท่านอำมาตย์จึงว่าไม่มีทางแน่นอน จึงรับคำท้า ขุนศรีจึงทายว่า เหล่าอำมาตย์นี้ล้วนแต่จงรักภักดีต่อพระองค์และแผ่นดินยิ่งกว่าชีพตน เจอไม้นี้ก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง มิเช่นนั้นมีหวังเจอข้อหากบฏต่างแพ้พนัน ขุนศรีจึงนำเงินที่มากมายไปให้ภรรยา

    เวลาผ่านไปมีเจ้าเมืองสิงหลส่งปราชญ์มาท้าประลองปริศนาธรรมด้วย หากใครแพ้จะต้องยกเมืองให้เป็นเมืองขึ้น ขุนศรี ขันอาสา เมือถึงวันประลอง ปราชญ์นั้นก็แพ้ย่อยยับกลับไป จากนั้นก็มีเมืองจากประเทศต่างๆมาท้าประลองด้วยกล เล่ห์ต่างๆแต่ก็แพ้กลับไป พร้อมสาปส่งว่าจะไม่ขอกลับมาเจอหน้าขุนศรีอีก

    เรื่องราวของ “ขุนศรี”นั้นสุดแสนจะยืดยาว ผมก็ค้นได้มากพอควรอยู่แต่ก็ยาวมาก แต่ผมก็รู้แต่ว่า ตอนจบนั้น ท่านพระยาให้นำยาพิษ ใส่ในอาหารมาให้ทหารนำมาให้ขุนศรีกิน ขุนศรีนั้นรู้ว่าในอาหารนี้มียาพิษแน่นอน เพราะเอาอาหารวางไว้ไม่นานแมลงวันได้บินมาตอนแล้วก็ตาย ขุนศรีเลยตั้งใจจะกิน และแก้แค้นคืน โดยบอกกับภรรยาว่า หากข้าตายแล้วให้นำศพของข้านั่งบนเก้าอี้หันให้ประตูบ้านแล้วจัดท่าทางข้า ทำเหมือนข้ากำลังอ่านหนังสือ ภรรยารับคำทั้งน้ำตา ว่าแล้ว จุดจบของขุนศรีคือ ยอมกินอาหารที่มียาพิษด้วยตนเอง แล้วก็จากโลกไป ท่านพระยาได้ให้ทหารมาสอดแนมว่าขุนศรีตายหรือยัง ทหารนั้นเห็นลางๆว่าขุนศรีกำลังนอนอ่านหนังสืออยู่ จึงแอบไปถามภรรยาขุนศรีว่า ขุนศรีนั้นกินอาหารหรือยัง ภรรยาตอบว่ากินจนหมดแล้ว ทหารจึงไปบอกท่านพระยาว่า ยาพิษที่ใส่ลงไปคงเป็นยาอย่างอื่น ไม่ใช่ยาพิษแน่ ขุนศรีถึงไม่ตาย ว่าแล้ว ท่านพระยาและเหล่าทหารนั้นก็ได้พิสูจน์ยาพิษนั้น โดยการกินทุกคน ไม่ถึงนาที ทุกคนก็ตายกันไปหมด ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัวจริงๆนะจะบอกให้ ( แต่ก็มิได้นำพา )

    ภาส ภิรักษ์ประพันธ์ ร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมความเป็นอีสานด้วยจิตวิญญาณที่สำนึกรักบ้านเกิด


    อ้างอิงที่มา

    อ้างอิงกระทู้มาจากเว็บไซต์อีสานจุฬาฯ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย บ่าวนาตาลเขย่าโลก; 02-08-2009 at 00:41.

  2. #2
    ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา
    Mr.Reception
    สัญลักษณ์ของ คนตระการ...
    วันที่สมัคร
    Feb 2008
    กระทู้
    4,209

    Re: เซียงเมี่ยง

    เคยฟังผู้เฒ่าเพิ่นเว้าให้ฟังอยู่ครับแต่เป็นเด็กน้อย บักเซียงเมี่ยงนี่หัวไสคัก ::)

    (บ่อเกี่ยวกับเซียงเมี่ยงเมืองสุรินทร์ตั๊วล่ะอ้าย)::)::)

  3. #3
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม
    วันที่สมัคร
    Jul 2008
    กระทู้
    641

    Re: เซียงเมี่ยง

    Re: เซียงเมี่ยง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ คนตระการ... Re: เซียงเมี่ยง
    เคยฟังผู้เฒ่าเพิ่นเว้าให้ฟังอยู่ครับแต่เป็นเด็กน้อย บักเซียงเมี่ยงนี่หัวไสคัก ::)

    (บ่อเกี่ยวกับเซียงเมี่ยงเมืองสุรินทร์ตั๊วล่ะอ้าย)::)::)
    บอกไว้กะดีครับเดียวทางเซียงเมี่ยงสุรินทร์เพิ่นสิเข้าใจผิด...อิอิ

  4. #4
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ เซียงเหมี่ยงเมืองสุรินทร์
    วันที่สมัคร
    Dec 2008
    ที่อยู่
    สุรินทร์, ร้อยเอ็ด, และ สปป.ลาว
    กระทู้
    829

    ดูวีดีโอ YouTube ออนไลน์ Re: เซียงเมี่ยง

    เห็นกระทู้เซียงฯ ฟ่าวมาอย่างไวเนาะครับ ว่าแม่นไผ เว้าพื้น.....::)::)
    เซียงเหมี่ยงฯ ผู่นี่ค่อนข้างจะต่างจากเซียงเหมี่ยงในนิทานเด้อครับ บ่เจ้าเล่ห์ แต่ว่า มีแต่ความใสซื่อครับ ฮ่า ๆ ๆ ::)::)

  5. #5
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ บ่าวเมืองขอนแก่น
    วันที่สมัคร
    Jan 2008
    กระทู้
    418
    ผมเค่ยได้ฟังแต่เป็นเด็กน่อย ครับ ขอบคุณหลายๆ เด้อครับ คิดฮอดสมัยเป็นเด็กน่อยเด้ น้อ

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •