ถาม-ตอบ ภาษาธรรม3

[เจ้าซายน้อย]

อ่ะ ไหนๆกะไหนๆ กะทยอยถามเรื่อยๆกะแล้วกัน
ถามว่า...

1. ถ้าสมมติว่าเรารู้เท่าทันจิตของเราแล้ว มีสติรู้ตัวพอสมควรแล้ว
แต่ว่า เมื่อมีสิ่งต่างๆมากระทบกับเรา เราจะต้องทำยังไงดี (สิ่งต่างๆเหล่านั้นทั้งที่เป็นความทุกข์และความสุข)

2. การที่เราอยากเป็นอะไรดีๆ แต่ทำให้คนอื่นรอบข้างเป็นทุกข์ บาปรึเปล่า ถ้าบาปบาปยังไง และถ้าไม่บาปไม่บาปยังไง

3.ถ้าใจเราคิดอย่างหนึ่งแต่พูดและกระทำไปอีกอย่างหนึ่งนั้น ถือว่าโกหกมั้ย และการที่ทำในสิ่งที่ไม่ตรงกับที่เราคิดไว้นั้น(ทำไปเพราะคนอื่นอยากให้ทำอย่างนั้น) ถือเป็นกิเลสรึเปล่า ถ้าเป็นเราจะทำยังไงกับมันดี และถ้าไม่เป็นนั้นไม่เป็นยังไง

ขอบคุณครับ
เจ้าซายน้อย

[คนตระการ...]

ตอบบ่อได้ ปากบ่อออก บอกได้คำเดียวว่าโดน....ทุกข้อ..55555 สิรอเบิ่งคนอื่นมาตอบดอก

[pcalibration]

ข้อ1,3 ตอบยากต้องมีเหตุการณ์ตัวอย่าง
[FONT="Tahoma"][FONT="Tahoma"][SIZE="5"]ขอตอบข้อที่ 2
เป็นบาปแน่นอนเพราะมีการเบียดเบียนคนอื่น
จะเป็นทางกายวาจาหรือทางใจก็ตามในเมื่อ
ท่านได้ดีเพราะเหยียบคนอื่นขึ้นมา
พูดจาใส่ร้ายคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดูดี
หรือการประจบสอพลอเพื่อทำให้ตัวเองดีขึ้น
ทั้งหลายทั้งปวงไม่เป็นผลดีต่อใครแน่นอน
ถ้าในองศ์กรไหนมีคนประเภทนี้มากก็จะมี
แต่ความอิจฉาริษยาชิงดีชิงเด่นกันสับสนวุ่นวาย
ส่วนที่จะไม่เป็นบาปเราต้องเป็นตัวของตัวเอง
ทำในสิ่งที่ถูกต้องรับผิดชอบในหน้าที่ที่ตัวเองทำ
อย่างเต็มที่เดินสายกลาง

"จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน"

[ไทสกลฯ]

1) ไม่แน่ใจว่า การรู้เท่าทันจิตที่ว่านี้ หมายถึงการรู้เท่าทันแบบไหน
ถ้าสติรู้ทันจิตไม่ให้แส่ส่าย ก็จะเกิดเป็นสมาธิ หากเป็นสมาธิ น้อย ๆ เป็นสมาธิตื้นๆ
เมื่อมีสิ่งต่าง ๆ ที่มากระทบ สมาธิที่น้อย ๆ นั้นก็จะหลุด เพราะไม่มั่นคง
หากเป็นสมาธิที่แนบแน่น แข็งแรง ท่านว่าเราจะไม่รับรู้ถึงสิ่งที่มากระทบนั้นเลย
แต่เมื่อไดที่ท่าน ออกจากสมาธิ ท่านก็จะโดนสิ่งที่มากระทบนั้น เล่นงานเอาเหมือนเดิม

2) เป็นการบันทึกข้อมูลแห่งกรรม ลงในจิตของผู้อื่น ข้อมูลแห่งกรรมนี้มีพลังทำให้คนๆนั้น มีความรู้สึก มีอารมณ์
ตลอดจนขับให้เกิดพฤติกรรมที่จะเอาคืน เมื่อถึงเวลาและเหตุปัจจัยที่เหมาะสม
เว้นแต่ว่าคนผู้นั้นให้อภัย หรือ อโหสิกรรม (ด้วยใจ ไม่ใช่ความคิด)

3) ไม่ขอ ออกความเห็นดีกว่า รอผู้รู้ท่านอื่นมาตอบดีกว่าครับ



เป็นความเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ