กำลังแสดงผล 1 ถึง 6 จากทั้งหมด 6

หัวข้อ: การกินดอง - สมรส

  1. #1
    ท่องเวบ สัญลักษณ์ของ pui.lab
    วันที่สมัคร
    Jul 2006
    ที่อยู่
    โสดไม่มีใครเอา หรือว่าเราไม่เอาใคร
    กระทู้
    8,954
    บล็อก
    9

    การกินดอง - สมรส

    การกินดอง-สมรส
    ประเพณีมงคลไทยอีสาน
    ตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งถึงวัยเบญจเพศ ได้กระทำการบวชเรียนเป็นคนสุกแล้ว ตามบ้านนอก หรือจังหวัดต่าง หัวเมืองในภาคอีสาน นิยมให้ลูกหลานทำการบวชเรียนก่อนจึงจะแต่งงานได้ เมื่อบวชเสร็จและสึกแล้ว ต่อจากนั้น จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ จำจะต้องมีครอบครัว มีเหย้าเรือนเสียทีเพื่อสืบตระกุลต่อไป การเริ่มต้นมีครอบครัวนั้น จำเป็นที่จะต้องเลือกหาหญิงที่ตนชอบ และมีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะเป็นศรีภรรยาได้ มิใช่อย่างชาวกรุงเทพฯ ที่นิยมหาหญิงที่เป็นคู่ครอง จะต้องเป็นคนสวย (ผู้ชายคนหล่อ) ถึงแม้ว่าจะไม่มีคุณสมบัติที่จะปฏิบัติต่อ ครอบครัว ในการเป็นแม่บ้าน แม่เรือนได้ก็ตาม เพราะความนิยมของชาวกรุงชอบแต่งการฉูดฉาดและเที่ยว ส่วนการงานมัก จะไม่เอาใจใส่ แต่ทางภาคอีสานกลับตรงกันข้าม ผู้ที่จะเป็นภรรยาจะต้องเป็นคนขยันขันแข็งต่อกิจการงาน จะต้อง เอาใจใส่ในครอบครัว มีนิสัยดี ถ้าไม่อย่างนั้นจะอยู่คู่ครองกันไม่ได้นานถ้าเป็นผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติ แม้จะอยู่ครองกับสามีได้ ก็ตาม ย่อมมีเหตุที่จะบังเกิดขึ้น ถ้าไม่ใช่ทางพ่อแม่สามีก็ต้องเป็นญาติพี่น้อง สิ่งที่จะเกิดขึ้นเพราะขาดคุณสมบัติของ ภรรยาหรือศรีสะใภ้ จึงทำให้ขาดความเอ็นดูและความสงสาร ทำให้เกิดเป็นความรังเกียจขึ้น
    คำที่ว่า กินดอง นั้น ก็หมายถึงการสมรสนั่นเอง การสมรสนั้นมีสองชนิด คือ อาวาหมงคล ซึ่งหญิงเมื่อแต่งงานแล้ว หญิงนั้นจะต้องมาอยู่บ้านผู้ชายเพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่ทางฝ่ายชาย อีกวิธีหนึ่งได้แก่วิวาหมงคล คือ ฝ่ายชายจะต้องไป อยู่กับฝ่าย หญิง
    ก่อนที่จะทำการสมรสหรือหมั้น ควรจะจดเวลา วัน เดือน ปี เกิด ของคู่สมรสไปให้โหร คุณหารคำนวณหาฤกษ์ เสียก่อน และวันเวลาขันหมากจะออกจากบ้าน จนกระทั่งการรดน้ำและส่งตัว
    เมื่อฝ่ายชายทราบกำหนดวันและเวลาแล้ว ก็จัดขันหมากหมั้นซึ่งมีสองขัน ขันหนึ่งใส่ของที่จะไปหมั้น จะเป็นของ หรือ เงิน ทอง เพชร สุดแล้วแต่การตกลงกันทั้งสองฝ่าย แต่มาในสมัยนี้นิยมแหวนหมั้นกันเป็นส่วนมาก หรือไม่อย่างนั้น ก็สุดแล้วแต่ความต้องการของฝ่ายหญิง อีกขันหนึ่งจะใส่ถุงถั่วเขียวหนึ่งถุง และข้าวเปลือกหนึ่งถุง ข้าวตอกหนึ่งถุง ใบเงิน ใบทอง ใบนาก แล้วใช้ผ้าคลุมทั้งสองขันซึ่งเรียกกันว่าขันหมั้น
    ส่วนขันหมากนั้นมีหมาก 8 ผล ซึ่งตัดเป็นสะแง้เดียวกัน ส่วนมากนั้นฝานทางก้นหมากออก แล้วทาปูนหรือทาชาด ก้านพลูตรงรอยที่ตัด แล้วใส่ลงในขันใช้ผ้าคลุมสำเร็จรูปปั้นเป็นขันหมากได้ ต่อจากนั้นก็จัดหาคนเชิญขันหมากไว้ให้ พร้อมสรรพ และเชิญผู้เฒ่าผู้แก่ที่นับหน้าถือตา ให้นำขันหมากไปหมั้นตามเวลาฤกษ์หมั้น และของขวัญสำหรับแถมพก เถ้าแก่ที่นำของหมั้น และคนเชิญขันหมากของหมั้นด้วย ถ้าหากของหมั้นเป็นเงิน เถ้าแก่ฝ่ายหญิงจะต้องนับแลดูให้ครบ ถ้วนตามที่ตกลงกันไว้ ถ้าเป็นทองก็ต้องชั่งดูให้แน่เสียก่อน
    เมื่อหมั้นเสร็จแล้วและต่อมา ก็จะถึงกำหนดการแต่งงาน การแต่งงานจะต้องมีขันหมากแต่ง ซึ่งมีขันสามขันใส่ หมากพลูเหมือนขันหมากหมั้น ที่รองขันมีผ้าคลุม แต่ขันหมากแต่งเพิ่มอีกขันสำหรับใส่สินสอดตามที่ตกลงกันไว้ แต่จะต้องใส่ให้เกินสักนิดหน่อย เช่น อย่างตกลงกันเป็นพันเป็นร้อย หมื่นก็ตาม เมื่อนำเงินนั้นใส่ลงขัน ต้องเติมลงไป อย่างน้อยจะหนึ่งหรือ สองเฟื่อง สลึงก็ได้ แต่ต้องใส่ให้เกินไว้นั้นละดี เมื่อเวลา เฒ่าแก่ฝ่ายหญิงนับเงิน จะได้ร้องว่า เงินเกิน ซึ่งจะเป็นเคล็ดที่ดี ขันสินสอดนั้นต้องใส่ถุงถั่วเขียว งาดำ ข้าวเปลือก ข้าวตอก ใบเงิน ใบนาก เหมือนขันหมากหมั้น ส่วนหมากหรือพลูจะต้องใส่ให้มากกว่านี้ แต่ต้องเป็นคู่ๆ ธูปเทียน ผ้าขาวไหว้ผี และผ้าไหว้บิดามารดาและญาติผู้ใหญ่ ฝ่ายหญิง จะต้องจัดเป็นคู่เหมือนกัน แต่จะมากหรือน้อยสุดแล้วแต่จะตกลงกัน ทั้งสองฝ่าย เมื่อทราบจำนวนแล้วก็จัดใส่ พานนำไปพร้อมกับขันหมาก และจะต้องเตรียมจัดหาคนเชิญไว้ให้พร้อม พอได้ฤกษ์ ผู้เป็นเฒ่าแก่ก็จะได้นำไป ถ้ามีการ กั้นขันหมาก ควรจะห่อเงินเตรียมไปด้วย ฝ่ายหญิงจะต้องหาเด็กเชิญพานหมากลงไปเชิญเถ้าแก่ให้ขึ้นบนเรือนฝ่ายหญิง และมีคนคอยรับขันหมาก ขันสินสอดแต่จะต้องไม่ลืมของแถมพก เถ้าแก่และคนอื่นๆ ที่มาในงานมงคลสมรสนี้
    ตอนเช้า บ่าวสาวทำการตักบาตรพระที่นิมนต์มาฉันเช้า เวลาตักบาตรต้องตักด้วยทัพพีอันเดียวกัน ถ้าหญิงจับข้าง บนหญิงนั้นจะมีอำนาจเหนือกว่าชาย ถ้าชายจับข้างบนชายจะมีอำนาจเหนือกว่าหญิง เป็นการถือเคล็ดที่เขาชอบจะสังเหต ถือกันว่า เมื่อถือใครอยู่ข้างบนเป็นอันผู้นั้นดี (แต่ไม่ควรถือในสมัยนี้- เพราะจะแย้งกันถือบน ข้าวจะหก..อิอิ)
    พอถึงตอนเย็น บ่าวสาวนั่งฟังสวดมนต์เย็น ในระหว่างนี้จะต้องมีเพื่อนบ่าวสาวนั่งเป็นเพื่อนอยู่ด้วย ฟังพระสวดมนต์เย็นแล้ว ประเคนจตุปัจจัยไทยทานแด่พระสงฆ์ จะเป็นอะไรก็ได้ตามศรัทธา ไม่ควรลืม หมาก พลู และดอกไม้ธูปเทียน ไตรจีวร หรือสะบง เงิน ตามแต่สะดวกและเห็นสมควร
    เมื่อได้ฤกษ์รดน้ำ บ่าวสาวขึ้นนั่งบนที่ๆ จัดไว้ หันหน้าไปสู่ทางที่โหรได้กะให้ (ถ้าจะที่โรงแรมต้องเลือกโรงแรม ที่หันหน้าไปทางที่โหรดูให้ ..อิอิ) ชายจะต้องนั่งซ้าย หญิงนั่งขวา (ของคนนั่ง) ท่านผู้ใหญ่ที่ได้รับเชิญมาเป็นประธาน ในงานนี้ จะสวมมงคลให้ศีล ให้พร เมื่อทำการสวมมงคลแล้ว พราหมณ์จะเป็นผู้ส่งสังข์ให้หลั่งน้ำพระพุทธมนต์ และเทพมนต์ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นรดน้ำ แขกที่ได้รับเชิญเข้ารดน้ำต่อๆ กันไปเป็นลำดับ แล้วบิดามารดาถึงวงศ์ญาติ จึงหลั่งน้ำ เมื่อเสร็จแล้ว ผู้เป็นพราหมณ์จึงหลั่งน้ำสังข์และประสาทพรเป็นมงคลแก่คู่บ่าวสาว เป็นการสิ้นสุดในการรด น้ำสังข์ แต่ในตอนนี้เขาจะคอยสังเกตดู ถ้าชายลุกขึ้นปลดมงคลก่อน ชายจะมีอำนาจเหนือหญิง ถ้าเป็นหญิงลุกขึ้นปลด มงคลก่อน หญิงจะมีอำนาจเหนือชาย (งานนี้รับรองไม่มีใครลุกก่อนเป็นแน่) เมื่อแขกที่รดน้ำกลับควรจะให้มีของขวัญแจก เป็นที่ระลึก ในงานมงคลสมรส จะเป็นมาลัยหรือบุหงา ผ้าเช็ดหน้าสุดแล้วแต่ความสะดวก
    ตอนค่ำ จะมีการส่งเจ้าสาวหรือเจ้าบ่าว และต่อจากนั้นก็มีการเลี้ยง เพื่อจะได้แนะนำให้เป็นที่รู้จักกันทั้งสองฝ่าย ต่อจากนั้นจะต้องทำการไหว้บิดามารดา ฝ่ายทางบิดา มารดาจะต้องหาของรับไหว้เจ้าบ่าว เจ้าสาวตามฐานะ ละให้ศีลให้พร แก่คู่บ่าวสาว

    การกินดอง - สมรส

    สิ่งของที่เป็นอุปกรณ์ในการแต่งงานนั้น ควรจัดไว้ดังนี้ คือ
    สิ่งที่ฝ่ายชายจะต้องเตรียม
    1. เถ้าแก่ที่จะนำขันหมากมาหมั้น
    ก. ขันใส่เงินหรือทองหมั้น ซึ่งจะต้องมีข้าวเปลือก ข้าวตอก ถั่วเขียว งาดำ ใบเงิน ใบทอง ใบนาก หนึ่งขัน
    ข. ขันใส่หมากดุจที่ได้กล่าวเบื้องต้น
    ส่วนขันหมากแต่งนั้นมี
    ก. ขันใส่เงินและทองสินสอด ตามที่ตกลงกันไว้
    ข. ขันหมากสองขัน
    2. คนสำหรับยกขันหมาก และคนยกพานผ้าไหว้
    3. พานผ้าไหว้
    4. ของขวัญสำหรับแขกที่มาในงานมงคล
    5. เงินสำหรับเป็นค่าผ่านประตู ถ้ามีการกั้นประตู
    6. คนสำหรับแห่จะมีก็ได้ไม่มีก็ได้ สุดแต่เห็นสมควร

    สิ่งของทางฝ่ายหญิงที่จะต้องเตรียมตอนหมั้น
    1. ของขวัญสำหรับแจกเถ้าแก่ ที่นำขันหมากมาหมั้นและคนเชิญขันหมั้นด้วย
    2. เถ้าแก่รับของหมั้น
    3. อาหารสำหรับเลี้ยงเฒ่าแก่ที่นำขันหมากมาหมั้น และคนเชิญขันหมั้นด้วย

    ตอนแต่ง
    1. สิ่งของสำหรับตักบาตรตอนเช้า และอาหารสำหรับเลี้ยงพระสงฆ์
    2. เถ้าแก่สำหรับรับขันหมากแต่ง และเด็กเชิญพานหมาก เพื่อเป็นการเชื้อเชิญ เถ้าแก่ที่นำขันหมากแต่ง
    3. เพื่อเจ้าสาว (เอาความสวยใกล้เคียงกับเจ้าสาว)
    4. ของสำหรับแจกเถ้าแก่และแขกที่มาในงาน
    5. เครื่องแต่งตัวสำหรับสวดมนต์เย็นและตอนรดน้ำสังข์
    6. เครื่องรดน้ำ มีขันขนาดใหญ่ สำหรับใส่น้ำมนต์ และพานสำหรับใส่สังข์ และขันสำหรับรองน้ำที่รด
    7. มงคลคู่ สำหรับใช้สวมหัวในเวลารดน้ำ
    8. ตบแต่งสถานที่ๆ จะรดน้ำและห้องเรือนหอ
    9. เครื่องเรือน
    10. ดอแไม้ธูปเทียนสำหรับไปให้วงศ์ญาติ เมื่อแต่งงานกันแล้ว หรือสำหรับไหว้ผีบ้านผีเรือน
    11. ของสำหรับถวายพระ ซึ่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะได้ถวายในเวลาเย็น
    12. อาหารเลี้ยงบรรดาแขกในตอนค่ำ
    13. ของสำหรับแจกผู้ที่มารดน้ำ
    14. พราหมณ์สำหรับส่งสังข์
    15. คนปูที่นอน เขานิยมเลือกผู้ที่แต่งงานครั้งเดียว และอยู่มาด้วยกันจนแก่เฒ่า

    อ้างอิงจาก หนังสือ ประเพณีพิธีมงคลไทยอิสาณ โดย จ.เปริยญ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pui.lab; 30-07-2009 at 11:11.
    บ้านมหาดอทคอม เว็บไซต์ส่งเสริม ศิลปะ วัฒนธรรมไทย ศิลปิน ความรู้ออนไลน์
    st1: มิตรภาพและรอยยิ้ม กับดีเจคนไกลบ้าน st1:

  2. #2
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ หนุ่มเหงาคนไกลบ้าน
    วันที่สมัคร
    May 2008
    กระทู้
    2,307
    ยามใด่ซิมีมื้อนี้นำน้อพี่ปุ้ยอิอิ ทุกมื้อนี้มีกะแล่นนำกันเนาะครับอยู่นำกันแล้วจั่งพากันมาสมมาปูย่าครับ

  3. #3
    อีหลี
    Guest
    เดียวนี่มีตะแต่งกันแบบสมัยใหม่แล้ว แต่งอยู่ในโรงแรมพู้น หายากคนที่สิแต่งแบบนี่

  4. #4
    Membership renewed สัญลักษณ์ของ MADELA
    วันที่สมัคร
    Mar 2009
    ที่อยู่
    japan
    กระทู้
    254
    สิได้แต่งนำเขาบ่น้อสิได้เป็นแค่แขกรับเชิญละเนาะ
    all the wealth of the world could not buy you a friend nor pay you for the loss of one.
    ทรัพย์สมบัติทั้งหมดบนโลกใบนี้
    ไม่สามารถชื้อเพื่อนได้
    ไม่สามารถแม้แต่จะจ่าย
    เพื่อให้ได้เพื่อนที่สูญเสียไป
    กลับคืนมา

  5. #5
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ เซียงเหมี่ยงเมืองสุรินทร์
    วันที่สมัคร
    Dec 2008
    ที่อยู่
    สุรินทร์, ร้อยเอ็ด, และ สปป.ลาว
    กระทู้
    829
    เอ้า ผู่บ่าว ผู่สาว บ้านมหา ไผมีโครงการกะศึกษาไว้เด้อครับ ฮ่า ๆ ...
    อย่าลืมแจ้งข่าวคราว พี่น้องบ้านมหาเด้อครับ...

  6. #6
    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ สัญลักษณ์ของ Lerm ubon
    วันที่สมัคร
    Jan 2009
    ที่อยู่
    Chonburi-BASF The Chemical company
    กระทู้
    271
    ข้าน้อยบ่ทันเเต่งง่ายดอกสิขอผ่อนไปเรื่อยๆก่อน..คันผ่อนบ่ไหวกะสิปล่อยยึดซั้นดอกวา..คิกๆๆ

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •